แม่ร่ำไห้โดนโซเชียลฯ ถล่ม โต้หลงผัวลืมลูกที่ชายหาด แจงคิดว่ายายพาขึ้นรถกลับแล้ว (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศกิจชายหาดบางแสน และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแสนสุข พบเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ พลัดหลงอยู่ที่ชายหาด เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสอบถามจนทราบว่าเด็กเดินทางมาเที่ยวกับครอบครัว แต่หาใครไม่เจอ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ก่อนที่ผู้เป็นยายจะติดต่อกลับมาที่ สภ.แสนสุข อ้างว่ากำลังรีบขับรถจากกรุงเทพฯ มารับเพราะลืมไว้ จนกระทั่งหลังเที่ยงคืนคุณยายเดินทางมากับแม่เด็ก ท่ามกลางความดีใจของทุกฝ่าย

ล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของเด็กหญิงรายดังกล่าว ย่านสายไหม กรุงเทพมหานคร จึงได้พบกับ นางอรอนงค์ บุญมี อายุ 27 ปี แม่ของน้องแน็ก ระบุว่า ก่อนที่ตนจะกลับจากบางแสน ตนซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ลูกกิน และรีบเก็บของบนโต๊ะขึ้นรถพี่สาว โดยไม่ทันมองว่าลูกไปเล่นที่ไหน

เมื่อขึ้นรถเก๋งกลับมาพร้อมครอบครัวพี่สาวและสามี ถึงบ้านเวลา 21.00 น. ก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าลูกสาวต้องกลับรถกระบะมากับแม่ของตน จนแม่ของตนกลับมาบ้านแล้วถามหาลูกสาว ตนจึงตกใจมาก รีบโทรศัพท์ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แสนสุข และเดินทางกลับไปรับลูกที่หาดบางแสนทันที

นางอรอนงค์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า หัวอกคนเป็นแม่ไม่เคยคิดจะทิ้งลูก คนเป็นแม่รักลูกทุกคน บางคอมเมนต์ด่าตนหนักมากว่าหลงสามีใหม่จนลืมลูก ซึ่งความจริงไม่ใช่แบบนั้น ตนแยกทางกับพ่อของน้องแน็กและมีสามีใหม่จริง แต่ไม่เคยทิ้งลูก หลังเจอลูกตนก็สอบถามว่าหายไปไหนมา ลูกบอกว่าช่วงที่ตนกลับไป ลูกไปเล่นริมทะเลกับเด็ก ๆ ในพื้นที่ หลังหาใครไม่เจอก็ยืนร้องไห้จนมีพลเมืองดีเข้ามาสอบถามและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ตาม ตนอยากขอบคุณพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลือ ครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพงมากสำหรับตน ต่อไปจะแก้ไขและดูแลลูกอย่างใกล้ชิด

น.ส.อรัญญา มหาชน อายุ 51 ปี ยายของเด็ก กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.64) ตนและครอบครัวไปทำบุญและเที่ยวที่หาดบางแสน โดยออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 08.00 น. ด้วยรถกระบะ มีหลังคาผ้าใบด้านหลัง มีตน แฟนของตนซึ่งเป็นผู้หญิง พี่ชายแฟน เพื่อนแฟน ลูกสาว ลูกเขยและหลานสาววัย 8 ขวบ

จากนั้นไปรับญาติแฟนที่สำโรงอีก 2 คน ก่อนเดินทางไปวัดหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา ถึงวัดประมาณเที่ยง ๆ โดยลูกสาวคนโตกับสามี และน้องชายสามีได้ไปรออยู่ที่วัดแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายขับรถเก๋งไปกันเอง เมื่อทำบุญเสร็จก็เดินทางไปเที่ยวทะเลบางแสน จ.ชลบุรี ในเวลา 15.00 น. โดยตนนำขนมและน้ำส้มคั้นมาแจกให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เพื่อทำบุญ ก่อนจะไปนั่งกินข้าว และเดินเล่นกับครอบครัวริมชายหาด

เวลา 18.00 น. ร้านค้าเริ่มเก็บโต๊ะและเตียงผ้าใบ ตนจึงย้ายมานั่งพื้นริมหาด ซึ่งขณะนั้นลูกสาวคนโตบอกว่าจะขอกลับบ้านก่อน โดยนำลูกสาววัย 1 ขวบ ที่นั่งรถมากับตนกลับไปพร้อมกัน ซึ่งแม่ของหลานสาวและสามี ก็บอกว่าขอกลับพร้อมพี่สาวด้วย ขณะนั้นตนนั่งคุยอยู่กับญาติ ๆ ไม่ทันได้มองคิดว่า หลานสาวกลับไปพร้อมแม่หรือยัง จึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งเวลา 19.00 น. ตนก็เก็บของกลับบ้านพร้อมญาติที่เหลือรวม 6 คน โดยกลับไปถึงบ้านย่านสายไหม ในเวลา 22.30 น. จากนั้นก็เก็บข้าวของเข้าบ้าน และถามลูกสาวว่า “แน็กนอนแล้วเหรอ สงสัยจะเพลียมาก” ลูกสาวก็ตอบตนว่า “แน็กมากับแม่ไม่ใช่เหรอ” จากนั้นต่างคนก็ต่างตกใจ และคิดว่าน่าจะลืมหลานไว้ที่หาดบางแสนแน่นอน จึงรีบสตาร์ตรถเพื่อกลับไปบางแสนอีกรอบ

ในระหว่างทางก็ช่วยกันโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เบอร์ตำรวจหญิงรายหนึ่งมา บอกว่าเป็นคนดูแลเด็ก ตนจึงรีบประสานพร้อมบอกว่าจะรีบกลับไปรับหลานให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนั้นตนใจร้อนมาก อยากให้ถึงบางแสนเร็ว ๆ เพราะเป็นห่วงหลาน เมื่อไปถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน หลานสาวก็ดีใจวิ่งมากอด ตนก็ดีใจที่หลานปลอดภัย

น.ส.อรัญญา กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนไม่ได้ตั้งใจทิ้งหลานตามที่มีการคอมเมนต์กันในโลกออนไลน์ ตนรักหลานมาก และรักมากกว่าลูกด้วยซ้ำ ครอบครัวตนก็มีกินมีใช้ ไม่จำเป็นต้องทอดทิ้งหลาน การที่รู้ว่าลืมหลานเอาไว้ ตนเหมือนใจจะขาด เป็นห่วงทุกอย่าง ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญในการดูแลหลาน หลังจากนี้จะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก อยากขอบคุณพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันดูแลหลานสาวของตน

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งในวันนี้ไม่พบร้านค้าริมชายหาดและเตียงผ้าใบ มีเพียงนักท่องเที่ยวที่มานั่งเล่นริมชายหาด

สอบถามพ.ต.ท.(หญิง) ปณิชา นารถใหม่ สารวัตรอำนวยการ สภ.แสนสุข กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) เวลา 20.00 น. ตนได้รับแจ้งว่ามีเด็กพลัดหลงกับผู้ปกครองที่หาดบางแสน จึงประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลฯ กระทั่งเวลา 21.00 น. ไม่มีความคืบหน้า เด็กมีท่าทีหวาดกลัวและร้องไห้ โดยพลเมืองดีบอกตนว่าเด็กไม่เชื่อใจใคร ตนจึงค่อย ๆ พูดไปเรื่อย ๆ พร้อมประสานทีมสืบสวนสภ.แสนสุข ขอข้อมูลผู้ปกครอง ในระหว่างนั้นได้เบอร์โทรศัพท์ของพ่อเด็กมา จึงได้โทรศัพท์ไปหา โดยพ่อเด็กบอกว่าอยู่กรุงเทพฯ และจะไปรับลูก แต่เด็กบอกว่าไม่อยากไปกับพ่อ จะรอแม่อย่างเดียว ตนจึงพยายามประสานจนได้เบอร์ของอาเด็ก ตนจึงวิดีโอให้ทั้ง 2 คนได้พูดคุยกัน จนเด็กไว้ใจตนยอมมานั่งตักและอยู่กับตน

ในเวลา 23.00 น. ยายของเด็กจึงได้โทรศัพท์มาหาตน อ้างว่ากำลังกลับมารับหลาน ตนเปิดลำโพงให้เด็กได้ยิน เด็กจึงดีใจและผ่อนคลายเพราะยายกำลังจะมารับ กระทั่งเวลา 00.15 น. แม่กับยายของเด็กมาถึง ทั้ง 3 คนโผกอดกันด้วยความดีใจ ก่อนที่ตนจะนำผู้ปกครองไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้วจึงปล่อยตัวกลับบ้าน