แฉ! ลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลาง อันธพาลอีกซิ่งชนไม้กั้นขวางทางออก - เจ้าตัวบอกถ้าพังมีจ่าย (คลิป)

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นพฤติกรรมชายหนุ่มรายหนึ่งขับรถออกมาจากในหมู่บ้าน แล้วมาจอดหน้าหมู่บ้านฝั่งทางเข้า จากนั้นก็ได้ลงรถแล้วดื่มน้ำแล้วเดินไปหลังรถ ก่อนจะเอาขยะที่ใส่รถมาโยนลงพื้น และใช้เท้าเตะให้กระจัดกระจาย แล้วขึ้นรถขับออกไป จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวชายหนุ่มคนดังกล่าวไปสอบถามที่ สน.หัวหมาก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับสารภาพกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่าน : โดนแล้ว! ตร.รวบลูกบ้านอันธพาลเบี้ยวค่าส่วนกลาง แสบโปรยขยะ – เทฉี่ – ตบกล้อง )

วันที่ 26 ส.ค.61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มาจุดเกิดเหตุ บริเวณป้อมยามหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บริเวณหมู่บ้านย่านรามคำแหง พบว่า บริเวณหลักไม้กั้นทางออกหมู่บ้านหมุนไปจากจุดเดิมเล็กน้อย ทำให้องศาของไม้กั้นจากที่เคยตรงก็เบี้ยวไป ด้านนายปฐมพล เที่ยงวงษ์ ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านดังกล่าว เผยว่า เมื่อวาน (25 ส.ค.) ตนได้รับแจ้งจาก รปภ.ว่า ลูกบ้านรายดังกล่าวขับรถชนไม้กั้นทางออกหมู่บ้านจากนั้น ขากลับก็ขับรถอย่างรวดเร็ว ผ่านลูกระนาด 4 ลูก และแซงรถตู้ไปโดยไม่ชะลอความเร็วจนน่าหวาดเสียวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงแจ้งลูกบ้านรายอื่นให้ระมัดระวังเด็กๆ ในหมู่บ้านที่มักขี่จักรยานเล่นในซอย โดยให้ผู้ปกครองคอยดูแลกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

นายปฐมพล เล่าว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกบ้านรายดังกล่าวก็ก่อเหตุอีก โดยจอดรถบริเวณไม้กั้นทางออกหมู่บ้าน แล้วลงจากรถมาเช็ดกระจกอยู่ครู่หนึ่ง รถข้างหลังออกไม่ได้บีบแตรขอทาง แต่ไม่สำเร็จ จึงต้องมาออกทางเข้าหมู่บ้าน จากนั้น ลูกบ้านรายดังกล่าวก็ขับรถบีบแตรไล่ตาม เพราะไม่พอใจที่ถูกบีบแตรใส่ ภายหลังจากก่อเหตุเทขยะครั้งก่อนและเป็นข่าวดัง ลูกบ้านรายนี้ก็ตามหารถเบนซ์สีดำที่เก็บภาพขณะก่อเหตุไว้ โดยสำรวจบ้านในหมู่บ้านที่มีรถเบนซ์ และกดกริ่งถามว่าใช่คนที่ถ่ายภาพไว้หรือไม่ แม้ปฏิเสธไปแล้วก็จะกลับมาถามซ้ำใหม่ ทำให้ลูกบ้านรายอื่นรู้สึกว่าถูกคุกคาม สำหรับเรื่องไม้กั้นที่เสียหาย ตนจะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ทั้งนี้ ตนก็อยากพูดคุยกับผู้ก่อเหตุก่อนที่จะทำการแจ้งความ แต่ก่อนหน้านี้ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุเคยพูดว่าไม่อยากคุยกับนิติบุคคล ตนจึงไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุจะยอมพูดคุยหรือไม่ นอกจากนี้ นายปฐมพล ได้เปิดเผยคำพิพากษาศาลฎีกา ลงวันที่ 16 พ.ย. 2558 ในคดีที่พ่อของลูกบ้านคนดังกล่าวเคยฟ้องร้องนิติบุคคลให้รื้อป้อมยาม ในกรณีที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง เพราะว่าซื้อบ้านก่อนจะมีนิติบุคคล คำพิพากษาศาลฎีการะบุว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในที่ดินจัดสรรของบริษัท โจทก์ซึ่งซื้อที่ดินของโครงการจึงเป็นสมาชิกของหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวด้วย ดังนั้น กรณีที่นิติบุคคลมีการออกคำสั่งไม่ให้ รปภ. เปิดปิดไม้กั้นทางเข้าออกหมู่บ้านให้แก่โจทก์ แต่ก็ไม่ได้มีการขัดขวางไม่ให้เข้าออกหมู่บ้าน จึงเป็นกรณีที่โจทก์ไม่ได้รับบริการสาธารณูปโภคด้านความปลอดภัย เนื่องจาก ไม่ได้จ่ายค่าส่วนกลาง ทั้งนี้ โจทก์ยังสามารถเข้าออกภายในหมู่บ้านได้ตามปกติ การที่ลงมาเปิดปิดไม้กั้น จึงเหมือนกับการเปิดประตูรั้วบ้านด้วยตนเอง ศาลจึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องในกรณีดังกล่าว