สาวพ้นคุกมืดแปดด้านถูกฉกของกลาง ตำรวจทำคดีชิงตายทิ้งรถซ่อม ทองหายเกลี้ยง (คลิป)

18 มิ.ย. 64

กรณีน.ส.พรพรรณ คงเพชร อายุ 42 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามทรัพย์สินของตัวเอง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไประหว่างที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำคดียาเสพติด แต่หลังจากพ้นโทษออกมาได้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี คือ พ.ต.ท.นพดล ที่สน.บางนา แต่ไม่พบทรัพย์สินที่ถูกยึดไปในวันเกิดเหตุ และยังไม่พบรายการทรัพย์สินดังกล่าวลงบัญชีไว้ในสำนวนคดี

649894

ล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับ น.ส.พรพรรณ บอกว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.58 ตนและสามีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา จับกุม เนื่องจากถูกเพื่อนซัดทอดว่ามีส่วนร่วมในคดียาเสพติด ซึ่งตนไม่ได้ครอบครองหรือจำหน่าย แต่ยอมรับว่ามีการเสพยาจริง จากการตรวจค้นในห้องไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตรวจพบฉี่ม่วง จึงส่งตัวไปบำบัด 1 สัปดาห์

954622

แต่เมื่อกลับออกมาตนและสามี “ไม่ได้” ไปเซ็นเอกสารว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาสมคบคิด โดยยึดหลักฐานจากคำซัดทอดของเพื่อน ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จึงเดินทางมาจับอีกรอบ ในวันที่ 30 พ.ย.58 พร้อมกับยึดทรัพย์สินเป็นของกลาง เพื่อรอการตรวจสอบ

633832227756

สำหรับทรัพย์สินของกลางประกอบด้วยดังต่อไปนี้
-รถเก๋ง Honda รุ่น Civic มูลค่า 5 แสนบาท (รถของเพื่อนนำมาจำนำไว้กับน.ส.พรพรรณ)
-สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระปิดตาเลี่ยมทอง
-สร้อยข้อมือหนัก 1 บาท (ตำรวจไม่ได้ลงในรายการยึดทรัพย์)
-แหวนทองคำขาว ราคากว่า 10,000 บาท
-นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Kiss ราคา 24,000 บาท
-โทรศัพท์มือถือ Samsung รุ่น A7 ราคากว่า 10,000 บาท

279734

ต่อมาวันที่ 25 ม.ค.59 ตนและสามีประกันตัวออกมาสู้คดี แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าผิด พิพากษาจำคุก 6 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษ ติดจริง 3 ปีกว่า โดยพ้นโทษออกมาวันที่ 24 พ.ย.63 หลังจากนั้นตนได้ไปที่ สน.บางนา เพื่อจะติดตามทรัพย์สินคืนจาก พ.ต.ท.นพดล ร้อยเวรเจ้าของคดี เนื่องจากทรัพย์สินส่วนตัวที่ตำรวจยึดไปในวันนั้น เป็นทรัพย์สินที่ตนหามาได้จากการทำงาน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด

318992

แต่ปรากฎว่าไม่เจอตัว พ.ต.ท.นพดล โดยทราบจากตำรวจด้วยกัน ว่านายตำรวจคนดังกล่าว ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 62 ตนจึงพยายามติดต่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นเรื่อยมาเพราะอยากได้ทรัพย์สินคืน จนได้รับคำชี้แจงจากทาง ผกก.สน.บางนา ว่าชุดจับกุมไม่ได้ส่งมอบรายการทรัพย์สินที่ตรวจยึด มีเพียงบันทึกการจับกุมเพียงอย่างเดียว ให้ไปสอบถามกับชุดจับกุม ตนก็ทำตามขั้นตอนโดยทำหนังสือไปสอบถามจนสุดท้ายตำรวจชุดที่จับกุมได้ไปตามหาทรัพย์สินให้

898151

กระทั่งวันที่ 24 มี.ค.64 ไปพบรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ภายในอู่แห่งหนึ่ง จากข้อมูลพบว่ามีนายตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอกของ สน.บางนา เป็นผู้นำมาจอดซ่อม แต่คำชี้แจงของร้อยตำรวจเอกคนดังกล่าว บอกว่าเห็นรถจอดอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม จึงนำมาซ่อมให้ เนื่องจากได้รับมอบการดูแลรักษาทรัพย์ ให้กับเจ้าของที่แท้จริง โดยรับช่วงต่อมาจากพนักงานสอบสวนอีกราย ซึ่งได้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่อื่น แล้ว

733394

หลังจากนั้น จนจึงประสานไปยังนายตำรวจรายคนดังกล่าว แต่ก็ได้รับคำชี้แจงว่าทรัพย์สินของกลางทั้งหมด จำพวกโทรศัพท์ สร้อยคอทองคำ ที่ตรวจยึดในวันจับกุม ไม่พบเจอแต่อย่างใด มีเพียงรถยนต์เท่านั้นที่ตรวจสอบได้ คาดว่าทรัพย์สินอยู่กับ พ.ต.ท.นพดล ร้อยเวรคนแรก ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ตนก็พยายามเดินเรื่องติดตามทรัพย์สิน ทาง สน.บางนา บอกให้ไปสอบถามกับ ป.ป.ส. แต่ไปติดต่อ ทาง ป.ป.ส.ก็แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ส่งเรื่องมา ให้ไปติดต่อที่สน.บางนาเอง จนไฟแนนซ์รถยนต์คันดังกล่าวติดต่อขอยึดรถคืน เนื่องจากขาดผ่อน

662934

อย่างไรก็ตาม น.ส.พรพรรณ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนรู้สึกเครียดมาก กำลังเดือดร้อนหนัก เพราะหลังจากพ้นโทษยังหางานทำไม่ได้ เงินที่ใช้จ่ายตอนนี้มาจากการกู้หนี้ยืมสิน หวังว่าจะนำทรัพย์สินดังกล่าวมาเป็นทุนค้าขายเลี้ยงชีพ แต่สุดท้ายก็ไม่พบ และโยนความผิดให้นายตำรวจที่เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นจึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องขอความเป็นธรรมให้ตนบ้าง

405692

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่ง ย่านบางนา สถานที่พบรถยนต์ของกลาง จากการสอบถาม นายธนกฤษ กฤตชัยฐากูร เจ้าของอู่ เปิดเผยว่า รถยนต์คันดังกล่าว มีตำรวจยศร้อยตำรวจเอก สน.บางนา นำมาที่อู่ ช่วง 2-3 เดือน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาพบ โดยตำรวจนายดังกล่าวแจ้งอาการของรถว่า พวงมาลัยมีปัญหา และเข็มไมล์ไม่ขึ้น

801236563902

จากการจรวจเช็กอะไหล่ ตนได้เสนอราคาค่าซ่อมประมาณ 10,000 บาท แต่นายตำรวจคนนี้ยังไม่มีการตอบรับ ตนจึงยังไม่ได้ซ่อม และนำรถไปจอดไว้ข้างบ้าน โดยที่ไม่ได้ทำอะไรกับรถคันดังกล่าว ส่วนเรื่องทะเบียนทางอู่ก็ไม่ทราบว่าหายไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ตนยืนยันว่าทางอู่ไม่ได้ถอดออกอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจะมีลูกค้านำรถมาซ่อมเป็นจำนวนมาก รวมถึงตำรวจ สน.บางนา ก็นำรถมาซ่อมบ่อยครั้ง โดยที่ตนก็ไม่ทราบว่ารถแต่ละคันมีที่มาอย่างไร หรือเป็นคดีความอยู่หรือไม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส