จากกรณี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับแจ้งชาวบ้าน หมู่ที่ 5 บ้านหนองด่าน ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู แจ้งว่าที่ดินที่อยู่กลางไร่อ้อยดิน ได้ทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่
ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านตำบลด่านช้างเวลาออกไปทำไร่ทำนา ก็ต้องอยู่แบบหวาดผวา ไม่รู้ว่าดินจะทรุดตัวลงตอนไหน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ด้านล่างใต้ดินจะเป็นโพรงอุโมงค์น้ำ น้ำจะไหลแรงมาก และกัดเซาะดินบริเวณนั้น ให้ทรุดตัวลงขยายเป็นวงกว้าง ถ้าหากยังไม่มีการแก้ไข ในอนาคตข้างหน้าคาดว่าเหตุการณ์ดินทรุดจะขยายเป็นวงกว้าง และทำให้พี่น้องประชาชนในเขตตำบลด่านช้าง ต้องเสียประโยชน์ในพื้นที่ทำกิน บริเวณใกล้กันมีเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ ก็เกิดดินยุบเป็นหลุมกว้าง จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย
ล่าสุด วันที่ 12 มิ.ย. 64 ทีมข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหนองด่าน ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู จากการตรวจสอบ พบว่าหลุมดังกล่าวอยู่ที่บริเวณกลางไร่อ้อยดินได้ทรุดตัวเป็นหลุมลึกกว่า 30 เมตร และกว้างเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 100 เมตร เป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ มีดินทรุดตัวทั้งหมดกว่า 10 หลุม กินเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากชาวบ้านในตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง มีดินทรุดเกือบ 100 หลุม กินพื้นที่เป็นวงกว้างหลายไร่ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ค่อย ๆ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ
นายหนู อัมพวา อายุ 66 ปี ชาวไร่ในพื้นที่ บอกว่า ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะขาดรายได้ตรงจุดที่ดินมันยุบลงไป ได้ปีกว่าแล้ว ถ้าไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วย ที่ทำกินของตนก็คงจะไม่เหลือ ตอนนี้ได้คุยกับชาวบ้านที่เดือดร้อนในลักษณะเดียวกันแล้ว ลงความเห็นกันว่าหากมันแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็จะขุดให้มันเป็นคลองสำหรับเก็บน้ำไปเลย ส่วนตัวเคยแก้ไขเอาดินมาถมเองแล้ว ดินมันก็ยุบลงไปอยู่ดี ต้องมาสูญเงินค่าถมดินอีก ตอนนี้ดินที่ยุบกำลังจะยุบปิดทางเข้าออกบ้านแล้ว ก็วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยหน่อย เพราะตนเดือดร้อนจริง ๆ
นายศักดิ์สิทธิ์ ทูลพุทธา อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 กล่าวว่า ตนเองมารับตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านได้ประมาณ 1 ปี ช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ชาวบ้านก็เริ่มมาร้องเรียนเรื่องนี้ ตนก็พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังส่วนอำเภอและจังหวัดให้แล้ว แต่ก็อย่างที่เห็น คือดินมันยุบตัวลงไปเรื่อย ๆ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ที่ดินพื้นนี้ถ้ามีน้ำไหลมาอีก ดินจะยุบขยายตัวไปอีก อีกอย่างพรุ่งนี้พายุจะเข้าในพื้นที่ ก็จะทำให้มีน้ำสะสมจำนวนมาก สำหรับงบประมาณที่จะมาถมดินให้กับชาวบ้านยังไม่มี ส่วนตัวก็เป็นห่วงชาวบ้านที่เดือดร้อน ไฟไหม้ยังเหลือที่ดินปลูกบ้านใหม่ แต่นี่ที่ดินทำกินของชาวบ้านมันหายไปเลย
ทีมข่าวเดินทางต่อไปยังหมู่ที่ 7 ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พบหลุมใกล้กับบ้านคน และใกล้กับเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ ซึ่งเสาไฟฟ้าต้นนี้จะเป็นเสาไฟฟ้าที่เชื่อมต่อมาจากจังหวัดอุดรธานี และจะเป็นเสาไฟที่ส่งต่อมาที่จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดเลย ซึ่งหากเสาไฟฟ้าต้นนี้ล้ม ไฟฟ้าจะดับทั้งจังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดเลย
ทีมข่าวเดินเท้าเข้าไปประมาณ 100 เมตร จากการตรวจสอบลักษณะหลุมนี้จะมีความกว้าง 10 เมตร ความยาว 15 เมตร ความลึกประมาณ 5 เมตร อยู่ห่างกับเสาไฟประมาณ 2-3 เมตร เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าจังหวัดหนองบัวลำภู ได้นำลวดสลิงมาขึงไว้กับต้นไม้ทั้ง 4 ด้าน โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณี จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่มาตรวจสอบแล้ว
นายวิรัตน์ แสนสี อายุ 69 ปี เจ้าของที่ดิน เผยว่า ตนนาทีได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายเสียงของอุกกาบาตตกลงมา วันที่ 8 มิ.ย. ช่วง 06.00 น. ตนนั่งสังเกตการณ์อยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงดังกลางนาข้าวใกล้กับบ้านและเสาไฟฟ้าแรงสูง หันไปมองมีน้ำพุ่งขึ้นจากดิน แล้วดินก็ถล่มลงไป สักพักปากหลุมก็เริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้น้ำไหลลงไปเต็มหลุม หลังจากนั้นตนก็แจ้งไฟฟ้าให้มาดูกลัวเสาไฟมันจะล้มลงมา ตอนนี้กลัวอย่างเดียวคือหลุมมันจะขยายความกว้างไปถึงบ้าน ตอนนี้คือตนมีที่อยู่ทั้งหมด 14 ไร่ แบ่งปลูกอ้อย 10 ไร่ แล้ว 4 ไร่ ที่เกิดหลุมตั้งใจจะปลูกเป็นนาข้าวไว้กินยามยาก แต่มันมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็หวังให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ
โดยจากการสำรวจภาพมุมสูง หลุมที่ใกล้กับเสาไฟฟ้าแรงสูงจะเกิดการทรุดของดินตลอดเวลา ขณะเดียวกันหลุมที่ใกล้กับเสาไฟฟ้าแรงสูงเกิดการจะมีหลุมเล็กอีก 11 หลุม คาดว่าหลุมที่เกิดขึ้นมาใหม่จะขยายตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ในอนาคตข้างหน้า
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่อาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วย ไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลปูช้าง เชื่อว่าปู่ช้างจะช่วยทำให้สิ่งที่ไม่ดี ให้กลายเป็นดีได้
นางกาญจน์ณิญาภา ปัญญาวร อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่นับถือปู่ช้าง มาทำพิธีขอพึ่งบุญบารมีกับปู่ช้าง ชื่อว่าพลายเทพลงคลและพลายชัยมงคล โดยการทำพิธีไหว้ปู่ช้างในครั้งนี้ มีการจุดธูปจำนวน 9 ดอกและเทียน 9 เล่ม ดอกไม้ 9 ดอกมาไหว้กับปู่ช้างทั้ง 2 เชือก พร้อมระบุว่าสมัยตัวเองเป็นเด็ก พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าจุดที่ดินทรุดเป็นหลุม เคยเป็นเส้นทางเดินของช้างป่าจำนวนหลายสิบเชือก มีชาวบ้านเคยพบโครงกระดูกของช้างบริเวณใกล้เคียงจุดที่ดินทรุด มีสัตว์ป่าจำพวกช้างและเสือจะมาทำอันตราย หากไม่ทำที่พักอยู่บนที่สูง ปัจจุบันนี้ชาวบ้านได้มาถมคลองน้ำตรงจุดนี้เพื่อทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าว ปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง จึงคิดว่าการที่มาถมที่ทับกับคลองน้ำใสสมัยโบราณ อาจจะทำให้เกิดเหตุเภทภัยก็เป็นได้
ล่าสุด นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฏหมายการยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เตรียมลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ในวันที่ 13 มิ.ย.64 หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน
