กรณีนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล อายุ 44 ปี ถูกออกหมายจับ 3 ข้อหา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หลานสาว เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 บนเขาภูเหล็กไฟ หลังจากนั้นทนายตั้ม ได้พาลุงพลเข้ามามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้จับกุมผู้ต้องหา คือ เส้นผมกลุ่มเดียวกับ 36 เส้นที่ถูกตัดและสับด้วยมีด รวมทั้งดีเอ็นที่พบในขน 3 เส้นครั้งแรกผ่านการตรวจดีเอ็นเอแบบไมโตคอนเดรีย พบว่าเชื่อมโยงกับเพศหญิง ระบุได้ว่าเป็นของญาติสายเลือดเดียวกันฝั่งแม่ และเมื่อตรวจละเอียดวิธีพิเศษ "อนุภาคแสงซินโครตรอน" ด้วยเครื่องมือพิเศษที่มีเพียง 2 เครื่องในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย และสิงคโปร์ พบความเข้ากันได้มากที่สุดกับ "ป้าแต๋น" ที่อาจเชื่อมไปถึง "ลุงพล"
ล่าสุดวันที่ 8 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ได้เดินทางไปพูดคุย รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายว่า ขณะนี้คดีของน้องชมพู่ต้องพึ่งพาหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ต้องใช้เทคนิคเอกซเรย์ด้วยกล้องอิเล็กตรอนแบบส่องกราด (Scanning electron microscope หรือ SEM) ในการตรวจสอบว่าเป็นเส้นผมของใคร และเข้ากับใครที่เป็นผู้ต้องสงสัย แต่เจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐานที่ละเอียดกว่านี้จึงต้องพึ่งการตรวจด้วยแสงซินโครตรอน ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ 1 เครื่องที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา
โดยแสงซินโครตรอน จะช่วยเอกซเรย์ภาพตัดขวางของพื้นผิวของวัตถุ (ในที่นี้คือเส้นผม) ซึ่งหากภาพเอกซเรย์เส้นขน 3 เส้น เหมือนหรือเข้ากับบุคคลใด แปลว่าบุคคลนั้นคือคนร้ายหรือบุคคลใกล้ชิดคนร้าย ซึ่งแสงซินโครตรอน เกิดจากการยิง Electron จนทำให้เกิดการหมุนโค้งเป็นวงกลม เพราะฉะนั้นเครื่องซินโครตรอนจะมีขนาดใหญ่มาก ต้องมีเส้นทางให้ลำแสงวิ่ง เพื่อบังคับให้ Electron ได้ปลดปล่อยพลังงานออกมาเป็นแสงซินโครตรอน
สำหรับ แสงซินโครตรอน มีประโยชน์ในการพิสูจน์ทราบในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย นิติวิทยาศาสตร์ แต่หน้าที่หลัก ๆ คือ นำมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเคมีเชิงฟิสิกส์ ที่อยู่ในระดับอนุภาคอะตอม นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในเรื่องของเทคโนโลยีการเอกซเรย์ แบบ Deflection หรือ fluorescent ดังนั้นที่จำเป็นต้องใช้แสงซินโครตรอน ก็เพื่อปิดจุดอ่อนในสิ่งที่การตรวจ DNA ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
เพราะฉะนั้นการที่มีบุคคลมากล่าวอ้างว่า การตรวจพิสูจน์ที่แน่ชัดจะต้องเป็นการตรวจผล DNA เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในส่วนนี้ตนยืนยันว่าไม่ใช่ และอยากให้ทำความเข้าใจใหม่ เพราะขณะนี้สังคมกำลังเข้าใจผิด ตนยืนยันได้ว่าแสงซินโครตรอน สามารถเป็นตัวชี้ผู้กระทำผิดได้ เนื่องจากหากพูดกันตามตรง หลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบคือ เส้นผม ซึ่งเป็นหลักฐานที่มีขนาดเล็กกว่า ขนาด 2 ไมครอน ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีที่ละเอียดสูง ก็คือซินโคนตรอน ซึ่งหากผลตรวจบังเอิญไม่ตรงกับต้นทาง บุคคลนั้นก็ต้องให้คำตอบชี้แจงให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ไปเจอหลักฐานนี้ ที่ตรงกับคุณอยู่ที่จุดเกิดเหตุได้อย่างไร
สุดท้ายนี้ ตนขอยืนยันว่า แสงซินโคนตรอน ใช้ในหลักนิติวิทยาศาสตร์มาแล้วทั่วโลก ซึ่งคดีอื่น ๆ ที่ถึงทางตันก็ใช้วิธีนี้ในการตรวจสอบจนสามารถปิดคดีกันได้ ทั้งนี้ก็ต้องไปดูแนวทางเจ้าที่ตำรวจและทนายจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่ทนายควรศึกษาเพราะจะต้องสามารถอธิบายให้ศาลเชื่อและเคลียร์ทุกประเด็น
ส่วนกรณีที่ทนายบางคนกล่าวถึง เครื่องซินโคนตรอนว่าไม่มีมาตรฐาน ในส่วนนี้ตนอยากถามว่าคุณไปเอาที่ไหนมาพูด อีกทั้งเครื่องซินโคนตรอน เป็นเทคโนโลยีระดับโลก หากคุณไม่เชื่อมั่นในซินโคนตรอน ตนแนะนำให้กลับไปไหว้พญานาคต่อ
