เหยื่อแฉกลโกง “โจรอุ้มหมา” ลวงให้ตายใจก่อนฉกทรัพย์ - ตร.เร่งล่า อึ้งแปลงโฉม-เปลี่ยนชื่อถี่ยิบ (คลิป)

16 ส.ค. 61
จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return โพสต์แชร์เรื่องคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง มีพฤติกรรมลักทรัพย์มาตลอด 15 ปี และใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาโดยตลอด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจปทุมธานี ได้นำหมายบุกค้นบ้านของผู้ต้องหาที่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา พบทรัพย์สินที่ขโมยมา มากว่า 100 รายการ แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ ทราบชื่อคือ นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และนางฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน และขอศาลออกหมายจับ (อ่าน : เพจแฉ! 2 ผัวเมียตระเวนลักทรัพย์ 15 ปี ชีวิตหรูดูแพง มุกเดิมอุ้มหมาฉกของร้านค้า)
นายอภิชาติ และนางฑิญาตา บุญเรือง คนร้าย
วันที่ 15 ส.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ปทุมธานี มี 3 ราย และยังมีผู้เสียหายอีกหลายจังหวัด เช่น นครปฐม อยุธยา นนทบุรี โดยคนร้ายจะเลือกก่อเหตุในภาคกลาง จากข้อมูลทราบว่า 2 สามีภรรยาเป็นโจรมืออาชีพ มีพฤติกรรมอุ้มสุนัขไปที่ร้านค้าต่าง ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วจะปล่อยให้สุนัขวิ่งเล่นในร้าน จากนั้นจึงฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินมีค่า ส่วนมากจะเน้นเงินสด และสร้อยทอง พระ รถยนต์ 2 คัน เมื่อได้ของมาแล้วก็จะนำไปขาย ส่วนวิธีการขโมยก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่ใช้แผนเดิม ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายเรียกว่า "โจรอุ้มหมา" โดยทั้ง 2 คน มีใบแจ้งความแรกเมื่อปี 2545 และมีหมายจับร่วมกัน 6 คดี
สภ.ปทุมธานี
ใบรับจำนำทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไป
ทั้งนี้ สองสามีภรรยาจะเปลี่ยนชื่อนามสกุลอยู่บ่อยครั้ง เพื่อหนีการจับกุม ส่วนภรรยาก็จะทำศัลยกรรมใบหน้าหลายครั้ง เพื่อให้คนจำหน้าไม่ได้ ซึ่งทั้งคู่ไม่มีอาชีพ มีบุตร 3 คน มีรถขับ 3 คัน ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ด้วยการได้เงินมาจากการลักทรัพย์มากกว่า 15 ปี อีกทั้งมีข้อมูลเพิ่มเติ่มว่า คนร้ายอ้างว่ามีธุรกิจขายรถมือสอง
นางรสสุคนธ์ วิมูลชาติ หรือ เจ๊หมวย ผู้เสียหาย
จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณแยกสันติสุข จ.ปทุมธานี พบกับ นางรสสุคนธ์ วิมูลชาติ หรือ เจ๊หมวย เจ้าของร้านขายอุปกรณ์การเกษตร ผู้เสียหาย เล่าว่า วันที่ 7 ส.ค. 61 เวลา 09.00 น. น้องสาวของตนได้ออกไปซื้อข้าวนอกบ้าน ตนอยู่ร้านคนเดียว จากนั้นก็มีผู้หญิงรูปร่างดี หน้าตาดี แต่งตัวดูดี เดินมาชื้อไม้กวาด อันละ 60 บาท เมื่อซื้อเสร็จก็เดินออกจากร้านไปขึ้นรถป้ายแดง จากนั้นอีกประมาณ 10 นาที ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาในร้าน สั่งซื้อตาข่ายพลาสติก 3 ผืน ผืนละ 6 เมตร และผ้าเต็นท์เคลือบหนาสีดำ ซึ่งของที่ซื้อเป็นของที่ต้องใช้เวลาตัด จากนั้น ตนก็ตัดตาข่ายพลาสติกให้ โดยไม่ทันสังเกตสิ่งผิดปกติ ขณะนั้นคาดว่าชายคนดังกล่าว ได้เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะที่ตนนั่งประจำ แล้วก็ใช้จังหวะที่เผลอ หยิบเอากระเป๋าไป ซึ่งในกระเป๋ามีทองหนักประมาณกว่า 20 บาท เงินสด 30,000 บาท พระเลี่ยมทอง และนาฬิกาข้อมือ เรือนละ 6,000 บาท อีก 1 เรือน เจ๊หมวย เล่าต่อว่า หลังจากที่ชายคนดังกล่าวหยิบกระเป๋าไปแล้ว ก็หันมาบอกกับตนว่า "เดี๋ยวไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อก่อนครับ แล้วจะกลับมาเอาของที่สั่งไว้" ซึ่งตนก็ไม่ได้หันไปมอง เพราะกำลังตัดตาข่ายอยู่ แต่ตอบไปว่า "ได้ค่ะ" จากนั้นเมื่อตัดตาข่ายเสร็จ ตนก็มานั่งเขียนบิลที่โต๊ะ ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มา ตนจึงเริ่มสงสัยและไปเปิดลิ้นชักโต๊ะดู ปรากฏว่ากระเป๋าหายไป จากนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก ตกใจ วิ่งไปหน้าร้านสะดวกซื้อก็ไม่เจอใคร จนกระทั่งน้องสาวกลับมา ก็ให้น้องสาวขับรถจักรยานยนต์ตาม แต่ก็ไม่เจอ รู้ตัวอีกทีก็เหลือเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่บาท เจ๊หมวย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนก็นั่งระแวง และกลัวตลอด รู้สึกท้อแท้ เสียใจ เพราะกระเป๋าใบที่ชายคนดังกล่าวขโมยไป ทุกอย่างอยู่ในนั้นหมด เงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตก็อยู่ในนั้น ส่วนพระเลี่ยมทอง อยู่ที่ สภ.ปทุมธานีแล้ว หลังตำรวจยึดได้เป็นกลาง แต่ยังไม่ได้ไปรับคืน ทั้งนี้ อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้โดยเร็ว นอกจากนี้ ฝากบอกคนร้ายว่า ให้เลิกทำพฤติกรรมแบบนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ