จากกรณี วันที่ 28 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลใช้อาวุธยิงตนเอง ที่บริเวณบ้านห้วยลุง หมู่ 2 ต.วังโรงใหญ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นบ้าน 2 ชั้น บริเวณข้างบ้านพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนายขวัญใจ ผลาผล อายุ 44 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณหน้าอก เลือดออกแต่ยังรู้สึกตัวดี
ขณะเดียวกันพบปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ข้างตัว ถัดไปอีก 10 เมตรในป่าหลังบ้าน พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 อีกหนึ่งกระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานทางโรงพยาบาลสีคิ้วรับผู้บาดเจ็บไปรักษาต่อ
ล่าสุด วันที่ 29 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณข้างบ้าน จากการสำรวจไม่พบรอยคราบเลือดของผู้บาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าของบ้านทำการล้างทำความสะอาดไปหมดแล้ว
น.ส.อริสา หรือ เฟิร์น อายุ 28 ปี แฟนของนายวุฒธิชัย เผยว่า ผู้ก่อเหตุคือนายขวัญใจ ผลาผล อายุ 44 ปี มีศักดิ์เป็นอาของ นายวุฒธิชัย ฉาจันทร์ทึก หรือ นัด อายุ 29 ปี แฟนหนุ่มตน
ก่อนหน้านี้เมื่อ 3-4 ปี ก่อนทึ่ตนจะได้มาคบหาดูใจกับแฟน ตนยอมรับว่าเคยแอบคบหากับนายขวัญใจจริง ทั้งที่นายขวัญใจมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว กระทั่งเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ตนได้มาคบหาดูใจกับนายวุฒธิชัย แฟนหนุ่ม และรู้ว่าทั้งนายขวัญใจและนายวุฒธิชัยมีศักดิ์เป็นอาหลานกัน ตนจึงตัดสินใจถอยห่างจากนายขวัญใจ เนื่องจากอยากมีความรักครั้งใหม่ อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่แอบคบหากับ
นายขวัญใจ ภรรยาของนายขวัญใจกับมักจะชอบโทรมาต่อว่าตนอยู่บ่อยครั้ง หาว่าตนไปแย่งผัวเขา ตนจึงตัดสินใจที่จะเลิกยุ่งเกี่ยวกับ นายขวัญใจ เพื่อตัดปัญหาความรำคาญที่เกิดขึ้น
ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ตนคบหากับนายวุฒธิชัย นายขวัญใจก็มักจะโทรมาพูดคุยกับตนอยู่บ่อยครั้ง เวลามีความเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว เสมือนไว้ใจตน คิดว่าตนสามารถระบายและเป็นที่ปรึกษาให้เขาได้ ซึ่งตนก็ยินดีให้คำปรึกษาในฐานะคุณอาของแฟน
กระทั่งวันเกิดเหตุ 28 พ.ค.64 ช่วงเวลา 12.00 น. ขณะนั้นตนนอนอยู่บนชั้น 2 ของตัวบ้าน นายขวัญใจได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมตะโกนเรียกให้ตนลงไปหา เมื่อได้ยืนตนจึงเดินลงมาหานายขวัญใจ และพาเจ้าตัวไปอยู่คุยกันที่บริเวณข้างบ้าน โดยขณะพูดคุยนายขวัญใจพยายามง้อขอให้ตนกลับไปคบกับเขา พยายามพูดแต่เรื่องความสัมพันธ์ แต่ตนปฎิเสธ เพราะอยากตัดขาดแล้วจริง ๆ นายขวัญใจก็ไม่ยอม เกิดอาการหงุดหงิดชักปืนที่เหน็บเอวมาด้วย ออกมาทำท่าเหมือนจะจ่อยิงตัวเขาเอง ตนที่เห็นเหตุการณ์จึงพยายามเข้าไปแย่งปืน จนนายขวัญใจยอมใจอ่อนไม่ทำร้ายตัวเอง
ขณะนั้นตนเกิดหิวน้ำจึงเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบน้ำกิน ไม่ถึง 2 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั้นขึ้นจำนวน 1 นัด เป็นจังหวะที่แฟนหนุ่มของตนขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากทำงานพอดี ทั้งตนและแฟนจึงวิ่งไปตามเสียงปืนก็พบว่านายขวัญใจใช้อาวุธปืนยิงที่หน้าอกตัวเอก 1 นัด จนนอนล้มลงกับพื้น เลือดเต็มตัว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากตนพยามถอยห่างจากนายขวัญใจแล้ว ปมเหตุที่เกิดขึ้นตนมองว่านอกจากเรื่องตนก็น่าจะเป็นปมปัญหาความเครียดเรื่องครอบครัวของนายขวัญใจ หากจะมีโอกาสได้พูดกับนายขวัญใจตนก็อยากจะให้เรื่องทุกอย่างยุติลง เนื่องจากตนมีแฟนใหม่แล้ว
นางอนงค์รัตน์ เหมกลาง อายุ 43 ปี ภรรยานายขวัญใจ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่ารู้เรื่องทุกอย่าง ตนเป็นผู้ที่ต้องทนเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว หลังมารู้ว่าสามีของตนที่คบหากันมานาน 20 ปีมีลูกด้วยกัน 1 คน แอบไปหาแฟนสาวของหลานชายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยพูดคุยและต่อว่าทั้งสามี และ น.ส.เฟิร์น มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากมีความคิดว่าสามีและหลานชายจะมามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนเดียวกันไม่ได้ เป็นเรื่องที่ผิดศิลธรรม แต่ทั้งคู่ก็อ้างว่าเลิกยุ่งเกี่ยวแล้วตัดขาดกันแล้ว
หลังเกิดเหตุตนได้รับแจ้งช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. จากคนในครอบครัวว่าสามีไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเขาเองหวังฆ่าตัวตาย จนเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันนำส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลมหาราช ตนจึงรีบไปดูอาการสามีที่โรงพยาบาล ขณะนี้ยังบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากเป็นไปได้ตนก็อยากให้สามีเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าว เลิกยุ่งเกี่ยวกับแฟนสาวของหลานชายสักที จะได้ไม่ต้องมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก พร้อมทั้งอยากฝากไปถึง น.ส.เฟิร์น ด้วยเช่นกัน อีกทั้งขอฝากไปทุกคนให้ดูเคสของสามีตนไว้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ หากมีความรักควรมีความรักแค่เพียงผัวเดียวเมียเดียว จะได้ไม่ต้องมีใครต้องมาเสียใจและเจ็บปวดหัวใจแบบตนในตอนนี้
ด้านนายชัย (นามสมมติ) เพื่อนบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เผยว่า ช่วงเกิดเหตุเวลา 12.00 น. วานนี้ ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านจุดเกิดเหตุก็ต่างได้ยินเสียงปืนกันหมดทุกคน แต่ไม่มีใครอยากยุ่ง เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาทำการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ และนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราช ก่อนหน้านี้ตนยอมรับว่ามักจะเห็นนายขวัญใจไปมาหาสู่เข้าออกบ้านของ น.ส.เฟิร์น อยู่บ่อยครั้ง แต่ตนก็ไม่ทราบว่ามาทำอะไร จนช่วงหลัง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่พบเห็นนายขวัญใจเดินทางเข้ามา
จนกระทั่งวันเกิดเหตุ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกตกใจและคิดว่าโชคดีที่ในครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต มองว่าปมปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปมความรักที่คนเป็นผู้ชายไม่น่าจะคิดสั้นก่อเหตุดังกล่าวแบบนี้ อีกทั้งลูกและภรรยาของผู้บาดเจ็บเองก็มีอยู่แล้ว
