ลุงโต้ ใช้อิทธิพลช่วย “เอ็ม” พ้นคดี “น้ำหวาน” ยันไม่หนี เตรียมสู้ไม่ได้ข่มขืน (คลิป)

จากกรณีการเสียชีวิตของน.ส.วรรณวิสา สำราญ หรือ น้ำหวาน อายุ 21 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา นายพลสันต์ รัตนพลที หรือ เอ็ม อายุ 39 เป็นผู้ต้องหาในคดีขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยญาติของผู้เสียชีวิตยังสงสัยว่าเหตุการณ์เสียชีวิตของน้ำหวาน อาจจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่าอุบัติเหตุนั้น

วันที่ 10 ส.ค. 61 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของนายพลสันต์ รัตนพลที หรือ เอ็ม อายุ 39 ปี คนขับรถยนต์คันเกิดเหตุ ซึ่งบ้านยังคงปิดเงียบ มีเพียงรถมอเตอร์ไชค์จอดทิ้งไว้ ต่อมา นายสมศักดิ์ สุวรรณศรี ลุงของเอ็ม เข้ามาที่บริเวณบ้าน โดยนายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า นายเอ็มเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ไม่ดื่มเหล้า ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน แต่กลับมาได้ยินข่าวว่ารถชน หลังจากไปเที่ยวกลับมา ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่าตกใจ ยิ่งทราบภายหลังว่าการตายของนางสาวน้ำหวานมีเงื่อนงำ ทำให้ตนก็อยากจะเชื่อและก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยเช่นกัน แต่ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของตำรวจ ทั้งนี้ ไม่เคยเห็นมีผู้หญิงในหมู่บ้านตามจีบนายเอ็ม เพราะเอ็มไม่ใช่คนเจ้าชู้ และเอ็มเป็นคนที่กลัวผู้หญิงด้วยช้ำ ไม่เคยเห็นสุงสิงกับสาว ๆ ขณะที่นายเอ็มกับนางสาวน้ำหวานจะสนิทกันอย่างไรนั้น ตนไม่ทราบทั้งหมด แต่อาจจะเกิดจากเป็นคนบ้านเดียวกันจึงรู้จักกันเท่านั้น ส่วนที่นายเอ็มพาน้ำหวานไปมีอะไรกันที่ในโรงเรียน ส่วนตัวมองว่าเอ็มก็คือผู้ชายคนหนึ่ง อะไรก็เป็นไปได้ นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเอ็มจะหลบหนี และก็ไม่แนะนำให้หนีด้วย เพราะคนซื่อ ๆ อย่างเอ็มก็คงจะไม่คิดแบบนั้น ตนขอยืนยันว่า ไม่หนีแน่นอน ถูกว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด

นายศรี สุวรรณศรี รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านค้อ ลุงของเอ็ม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ ยอมรับว่าตนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าไม่ใช่การข่มขืนเพื่อฆาตกรรม เนื่องจากนายเอ็มค่อนข้างถือตัว และไม่เคยไปทำร้ายร่างกายใคร ไม่เคยชกต่อยกับใคร ไม่เคยมีประวัติ เป็นคนธรรมมะ ธรรมโม ไม่เคยสร้างปัญหาให้กับพ่อแม่ด้วย นายศรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 61 พ่อแม่ของนายเอ็มเดินทางมาหาตน เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการเงิน หลังจากเจ้าหน้าหน้าที่บอกว่าคดีนี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งครอบครัวของนายเอ็ม ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย จึงขอยืมเงินตน 20,000 บาท เพื่อใช้เป็นค่าน้ำมัน เดินทางไปหาญาติที่จังหวัดขอนแก่น และขอยืมเงินญาติพี่น้องคนอื่นอีก และเตรียมเงินจ้างทนายความต่อสู้คดี นายศรี กล่าวต่อว่า ส่วนที่สังคมกำลังสงสัยว่า ครอบครัวเอ็มมีนามสกุลสุวรรณศรี เป็นคนที่อยู่ในระดับการเมืองท้องถิ่น จะการช่วยเหลือทางคดีได้นั้น ตนขอยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ชอบความไม่เที่ยงธรรม เพราะคนที่จะมาช่วยก็ไม่มีใครอีกแล้ว เนื่องจากญาติที่เป็นนายอำเภอก็ไปบวชเป็นพระ ส่วนญาติที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. นั้น ก็ไม่รู้เรื่องด้วย เพราะท่านป่วยอยู่ "ถ้าเอ็มผิดจริง จะเข้าไปช่วยเหลือทำไม คนผิดต้องยอมรับผิด ทำกรรมอะไรต้องยอมรับกรรม จะช่วยก็ช่วยอะไรไม่ได้ หากมีหลักฐานชัดเจน" นายศรีกล่าว นอกจากนี้ ประเด็นที่มีคนสงสัยว่านามสกุลสุวรรณศรี เป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ตนยืนยันว่า อิทธิพลมีอย่างเดียวคือ มีลูกหลานมีจำนวนทาก นามสกุลแพร่หลาย แต่ไม่เคยมีประวัติเสียหาย