“โจ้ สปอตไลท์” เผยความลับ “เสี่ยอ้วน” อาภัพรัก แค้น “สปาย” ปม 4 ล้านคืน - เชื่อคบ “ฟอร์ช” เป็นแฟน (คลิป)

จากเหตุการณ์กระหน่ำยิง เป็นเหตุให้นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอร์ช อายุ 20 ปีและน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี เสียชีวิตที่ลานจอดรถสถานที่ท่องเที่ยวเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว 3 ราย และหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและคาดว่าเป็นผู้ว่าจ้างฆ่าในครั้งนี้ คือ เสี่ยอ้วนบางลา หรือ นายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังใน จ.ภูเก็ต

วันที่ 2 ส.ค. 61 นายธรรมรัตน์ สุวรรณโพธิศรี หรือ โจ้ สปอตไลท์ ผู้ก่อตั้งเพจ Spotlight Phuket เปิดเผยว่า เสี่ยอ้วนคบหากับน้องสปายจริง แต่ปกติเจ้าตัวเป็นคนอาภัพรัก ชอบผู้หญิงคนไหนก็จะทุ่มให้ โดยที่อีกฝ่ายจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงเดือน พ.ย. ปี 2560 ที่มีเหตุการณ์เสี่ยอ้วนยิงพ่อค้าขายไอศกรีม ตนอยากให้ไปสืบว่า ผู้หญิงที่นั่งอยู่กับพ่อค้าขายไอศกรีมก่อนเกิดเหตุคือน้องสปายหรือไม่ เนื่องจากคดีดังกล่าวตำรวจส่งฟ้องศาล แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องการป้องกันตัวอันสมควรแก่เหตุ ทั้งนี้ น้องสปายที่ทำงานเป็นโคโยตี้ในร้านของเสี่ยอ้วน แต่เสี่ยอ้วนคอยดูแลถึงขั้นเคยบอกว่าจะแต่งงานด้วย โดยหมดเงินกับน้องสปายประมาณ 4 ล้านบาท หลังจากนั้นช่วงประมาณต้นปี เสี่ยอ้วนก็บอกว่าตัวเองถูกแฟนทิ้ง ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ทราบว่าเป็นน้องสปาย จนกระทั่งมีข่าวเรื่องยิงกันที่เขาชีจรรย์ ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า คนที่ก่อเหตุนั้นไม่ใช่มือปืนอาชีพ ทั้งวิถีการยิง และการเลือกสถานที่ซึ่งมีคนพลุกพล่าน ทั้งนี้ มูลเหตุที่เสี่ยอ้วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องสปายหรือไม่นั้น ตนคิดว่าอาจจะมีเรื่องหึงหวงเป็นประเด็น แต่อาจจะมีเรื่องอื่นด้วย เพราะคดีเก่าปี 2560 ที่เสี่ยอ้วนยิงคนขายไอศกรีม หากสปายคือผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็จะเป็นพยานสำคัญในคดีได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของตนเท่านั้น โดยตัวเสี่ยอ้วนนั้น เป็นคนอารมณ์ร้อน ควบคุมตัวเองไม่ได้ และมีคดีติดตัวเกี่ยวกับทำร้ายร่างกายหลายคดี แต่ตนไม่เคยเห็นเสี่ยอ้วนหึงหวงถึงขั้นทำร้ายร่างกายแฟน นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้เสี่ยอ้วนได้ติดต่อเพื่อนของตน บอกว่าจะขอเข้ามอบตัวและสอบถามเรื่องเงินประกันตัว แต่เพื่อนตนบอกว่าเรื่องใหญ่เกินไปจนไม่สามารถประกันตัวได้ เจ้าตัวจึงเงียบไป ซึ่งเพื่อนของตนยืนยันว่าหากเสี่ยอ้วนติดต่อมาอีกรอบก็จะบอกให้มอบตัวสู้คดี โดยเพื่อนเล่าว่าก่อนหน้านี้เสี่ยอ้วนเคยบอกในทำนองด้วยอารมณ์โมโห ว่าไม่พอใจน้องสปายมากและอยากได้เงิน 4 ล้านบาทคืนด้วย

จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่หอพักของเสี่ยอ้วน บนถนนพระเมตตา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งผู้พักอยู่ที่ชั้น 2 รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตัวเองอาศัยอยู่ที่หอพักนี้มากว่า 1 ปีแล้ว โดยทำงานในซอยบางลา แต่ไม่ใช่ร้านของเสี่ยอ้วน และก่อนหน้านี้เสี่ยอ้วนก็เคยพักอยู่ที่ชั้นบน แต่หลังจากเกิดเหตุยิงพ่อค้าขายไอศกรีมก็ได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น โดยเสี่ยอ้วนเคยเล่าว่า พ่อค้าขายไอศกรีมเดินตามตัวเองขึ้นมาถึงชั้นบนของหอพัก ตัวเองมีทรัพย์สินมากจึงต้องยิงป้องกันตัว โดยหลังเกิดเหตุเสี่ยอ้วนยังเข้ามาถามตนว่า มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหอพักบ้างหรือไม่ ซึ่งตนคาดว่าเสี่ยอ้วนน่าจะหวาดระแวง หลังจากมีชายแปลกหน้าเข้าไปในหอพัก หลังเกิดเหตุก็มีผู้เช่าย้ายออกจากหอพักหลายราย ด้วยความกลัวเพราะมีคนตายที่หอ และในตอนนี้ก็มีคนพักอยู่ที่หอแค่ 2-3 ห้องเท่านั้น เพราะบางส่วนกลับบ้านไป หลังบาร์เสี่ยอ้วนปิดให้บริการ ทั้งนี้ ตนก็กำลังหาที่อยู่ใหม่เช่นกัน นอกจากนี้ ส่วนตัวมองว่าเสี่ยอ้วนใจดี ไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล ส่วนน้องสปาย ตนไม่เคยเห็นและไม่รู้จักคาดว่าไม่ได้พักอยู่ที่หอนี้

ด้าน น.ส.ออย (นามสมมติ) อดีตพนักงานร้านของเสี่ยอ้วน เปิดเผยว่า เสี่ยอ้วนเคยคบหากับน้องสปายจริง โดยเด็กที่ทำงานในร้านทุกคนก็ทราบดี ซึ่งนายแบบและทอมในร้านก็จะไม่มองน้องสปาย เพราะเป็นคนของหัวหน้า ส่วนเรื่องที่มีการ์ดตามน้องสปายนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องหึงหวง แต่เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีคนเดินตามดูแล โดยการที่เสี่ยอ้วนคบหากับน้องสปาย ทางบ้านของฝ่ายหญิงก็รับรู้ และมีการพูดคุยโทรศัพท์กันตลอด จริงจังถึงขั้นที่เสี่ยอ้วนเคยบอกตนว่าจะแต่งงานกับน้องสปาย โดยตอนนั้นกำลังสร้างบ้าน และเปิดภาพเอกสารที่โอนเงินให้น้องสปายให้ตนดู แต่ตนไม่ทราบจำนวนเงิน น.ส.ออย เล่าต่อว่า ส่วนน้องฟอร์ชกับน้องสปายที่คบหากันนั้น ฟอร์ชมักจะแสดงออกคล้ายตุ้งติ้ง แต่เจ้าตัวเคยบอกว่ารู้สึกดีกับผู้หญิงแค่คนเดียว คือน้องสปาย ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยมีคนบอกเสี่ยอ้วนแล้ว แต่เจ้าตัวไม่เชื่อ และคิดว่าทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนกัน โดยน้องฟอร์ชก็รู้ว่าเสี่ยอ้วนคบกับน้องสปาย แต่น้องฟอร์ชเต็มใจ ตนไม่ทราบว่าจะเป็นเพราะเงินหรือไม่ ซึ่งช่วงหลังตนทราบว่าสปายทะเลาะกับเสี่ยอ้วน จึงลาออกจากร้านไป นอกจากนี้ ตนก็ไม่เคยเห็นเสี่ยอ้วนทำร้ายร่างกายน้องสปาย แต่ยอมรับว่าเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ในมุมของลูกน้อง ก็มองว่าเจ้านายเป็นคนดี คอยช่วยเหลือลูกน้องเสมอ