กรณีนายธนัญ ศักดิ์สมุทรานันท์ อายุ 60 ปี เจ้าของรีสอร์ตวังทิพย์ หมู่ 13 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 ที่ผ่านมา
โดยมีสาเหตุจากความเครียด หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนทำธุรกิจซื้อขายเสื้อผ้าออนไลน์จากประเทศจีนและธุรกิจอื่น ๆ สูญเงินไปเกือบ 30 ล้านบาท โดยมีการเขียนบรรยายลงบนกระดาษทิ้งไว้ก่อนปิดชีวิตตัวเอง และกล่าวถึงบุคคลและพฤติการณ์ของมิจฉาชีพไว้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ จดหมายที่ผู้ตายเขียนรายละเอียดไว้ ระบุว่ารู้จักกับ หญิงสาวคนหนึ่ง เมื่อวันที่ 14 ม.ค.63 ฝ่ายหญิงทักมาคุยอ้างว่าชอบข้อความในเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่อยมา โดยฝ่ายหญิงให้เบอร์โทรศัพท์พร้อมไลน์ไอดี และคุยกันเรื่อยมาพร้อมนัดเจอกัน อีกฝ่ายเรียกตนว่าที่รัก ตนจึงเรียกตอบ โดยหญิงสาวรายนี้ ขอมีความสัมพันธ์ด้วย แต่ตนปฏิเสธไป
ล่าสุดวันที่ 2 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ทราบว่าผู้ที่ถูกระบุในจดหมายชื่อหนึ่งคือ นาเดียร์ พริตตี้เจ้าของเพจขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่เคยมีข่าวโด่งดังในคดีฉ้อโกงก่อนหน้านี้
น.ส.ฉัตรสุดา สมิติวันฑิกุล อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนถูกนาเดียร์หลอกลวงเรื่องการขายเสื้อผ้า เมื่อปี 2561 โดยตนรู้จักนาเดียร์ตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ จากนั้นจึงเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น มีการพูดคุยกันจนนัดหมายกันไปรับประทานอาหารกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง และยังนัดตนไปทานข้าวเป็นส่วนตัวด้วย ตนจึงมีความไว้เนื้อเชื่อใจและสนิทสนมกับนาเดียร์มากขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งนาเดียร์ชักชวนตนให้ร่วมทำธุรกิจ และร่วมลงทุน จนสูญเงินไปเกือบ 600,000 บาท เนื่องจากรายละเอียดต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นมามาก จนทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนตนพยายามทวงถามถึงของที่จะต้องได้ แต่นาเดียร์ก็อ้างว่าติดปัญหาหลายอย่างจนทำให้ไม่ส่งของให้ตน
ทั้งนี้ตนอยากจะให้นาเดียร์ได้รับโทษถึงที่สุด ตนไม่คิดว่าเขาจะไปหลอกลวงคนอื่น มูลค่ารวมกันเสียหายหลายล้านบาท จนทำให้มีคนเสียชีวิต กรณีนี้ตนไม่ได้ทราบสาเหตุหรือเบื้องลึกเบื้องหลังใด ๆ แต่เมื่อเทียบเคียงกับกรณีของตน มองว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหลอกลงทุนทำเสื้อผ้าในลักษณะเดียวกัน ตนก็ไม่สามารถติดต่อนาเดียร์ได้อีกเลยหลังจากที่เป็นคดีความ
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ซึ่งเป็นทนายฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คดีที่ตนดูแลให้ผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายนำเรื่องราวและหลักฐานมาเล่าให้ฟังว่า การให้ทรัพย์นั้นไม่ได้ให้ด้วยเสน่หา เพราะมีการชักชวนทำธุรกิจลงทุนนำเข้าเสื้อผ้าจากจีน เรื่องราวจะคล้าย ๆ กับนายธนัญที่ยิงตัวตาย
เมื่อตนทำคดีไปเรื่อย ๆ ปรากฏมีผู้เสียหายหลายคนติดต่อเข้ามา ทำให้คดีนี้ตนทำเรื่องร้องต่อศาล จนศาลประทับฟ้องออกหมายเรียก และออกหมายจับ น.ส.เดียร์ เพราะไม่ยอมมาศาล หลังจากนั้นศาลไปจับมาขึ้นสู่กระบวนการ ก็มีการประกันตัวสู้คดี ก่อนที่ น.ส.เดียร์ จะไปหาคนมีชื่อเสียงมาฟ้องหมิ่นประมาทลูกความกลับ ซึ่งคดีนี้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการไตร่สวนมูลฟ้อง แต่คดีที่ตนร้องนั้นเตรียมขึ้นศาลเดือนหน้าเพื่อสืบพยาน
ในระหว่างการต่อสู้คดี น.ส.เดียร์ ได้ติดต่อมาไกล่เกลี่ยว่า จะชดใช้เงิน 1.2 ล้านบาท ตอนนี้จ่ายมาแล้ว 3 แสนบาท จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 2 ปี ยังได้เงินกลับมาไม่ครบ ส่วนคดีอยู่ชั้นศาล ไม่สนใจว่าจะคืนเงินหรือไม่ ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนตัวอยากให้ดูตามความจริง อย่างกรณีครอบครัวนายธนัญ ที่ยิงตัวตาย ลูกชายผู้ตายเคยโทรศัพท์หาตน มีการติดต่อมาปรึกษาเรื่องนี้ โดยระบุว่าก่อนหน้านี้เห็นข่าวเรื่องพริตตี้เดียร์ ตนจึงแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ เพราะคดีฉ้อโกงมีอายุความ กระทั่งพ่อของเขายิงตัวตาย ตอนนี้ก็รอให้ลูกชายผู้ตายมาพบ
สำหรับมุมทางกฎหมายคดีฉ้อโกงเป็นความผิดต่อส่วนตัว ต้องแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนตั้งแต่รู้เหตุ โชคดีคดีนี้ที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ก่อนจะตาย ส่วนเรื่องที่จะอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา ตนอยากบอกว่าการคบหากันก็ส่วนหนึ่ง แต่หากชวนลงทุนและไม่มีธุรกิจอยู่จริง ก็คือความผิดฉ้อโกง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการร้องทุข์กล่าวโทษของภาครัฐ
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายกอล์ฟ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย ที่สูญเงินราว 1.7 ล้านบาท ซึ่งเรื่องราวเริ่มต้นช่วงกลางปี 2562 ระยะถูกหลอกราว 6 เดือน ก่อนแจ้งความช่วงปลายปี 2562 เปิดเผยว่า คดีตนผ่านมา 2 ปี ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย
นายกอล์ฟ ระบุว่า ระยะเวลา 6 เดือนที่ตนรู้จักกับนาเดียร์ ตนสูญเงินไป 1.7 ล้านบาท เป็นเงินสำหรับลงทุนธุรกิจนำเข้าส่งออกเสื้อผ้าจากจีน ซึ่งความเสียหายที่ตนเสียไปก็จะมีลักษณะเหมือนกับผู้เสียหายรายอื่น ๆ และสุดท้ายนาเดียร์จะใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย หากดูแล้วก็จะมีลักษณะเหมือนกับกรณีของนายธนัญ ที่ฆ่าตัวตาย
ตอนนี้คดีความก็ยังไม่จบ นาเดียร์จะติดต่อผ่านทนายมาเป็นช่วง ๆ มา ๆหาย ๆ ซึ่งตนไม่ได้สนใจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนยืนยันว่าไม่ได้เริ่มต้นเชิงชู้สาวกับนาเดียร์ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยตนเริ่มลงทุน ก็กลัวว่าจะไม่ได้เงินคืนก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น ส่วนตัวยังส่งสัยว่านาเดียร์รอดมาได้อย่างไร ทำพฤติกรรมแบบนี้ต่อเนื่อง หลอกลวง ใช้ความโลภของคน และสร้างเรื่องว่ามีปัญหาหลาย ๆ จุด ต้องการให้ช่วยเหลือ เพื่อหลอกเอาเงินจากผู้เสียหาย
สำหรับตนเริ่มจากลงทุนหลักหมื่นบาท และนาเดียร์จะอ้างว่ามีปัญหาเรื่องเครดิตที่จีน ต้องเอาเงินไปแก้ปัญหา ตนก็ให้ไปเป็นยอดเกือบ 1 แสนบาท ต่อมาก็อ้างว่าติดขัดหลาย ๆ อย่างในขั้นตอนนำเข้า ก็ต้องใช้เงินแก้ปัญหา ในฐานะผู้เสียหายก็กลัวจะไม่ได้รับเงินคืน จึงยอมให้เพิ่มไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเมื่อขอดูหลักฐานกลับถูกบ่ายเบี่ยง จนตนต้องไปหาข้อมูลเอง และไปพบว่าไม่มีเอกสารใด ๆ ทำให้ตนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง ตอนี้คดีถึงชั้นศาลแล้ว มั่นใจและยืนยันว่านาเดียร์ไม่มีธุรกิจใด ๆ เป็นเพียงการแสดง อย่างไรก็ดี ส่วนตัวรู้สึกสะเทือนใจหลังเห็นข่าวเรื่องที่นายธนัญ ฆ่าตัวตาย ตนจึงอยากให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้ ที่ผ่านมาก็เสียดายเวลาและเสียดายเงิน
นายแจ๊ส (นามสมมติ) อีกหนึ่งผู้เสียหายที่สูญเงิน 5 แสนบาท เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนาเดียร์ เนื่องจากตอนนั้นตนว่างงาน และมีความคิดอย่างทำธุรกิจ ประกอบกับมีเพื่อนทำธุรกิจลงทุนกับนาเดียร์อยู่แล้ว ตนจึงได้เข้าไปร่วมลงทุนด้วย โดยรู้ว่าเป็นการลงทุนธุรกิจเสื้อผ้านำเข้าจากจีน โดยตอนแรกลงทุนไป 1 แสนบาท แต่นาเดียร์ต้องการ 30% คือ 3 แสนบาท ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน แต่ตอนนั้นมั่นใจเพราะเพื่อนเคยลงทุนกับเขา
หลังจากลงทุนไป ตอนนั้นนาเดียร์ก็อ้างว่ามีปัญหาเรื่องติดขัดหลายอย่าง ทั้งหน้าร้านที่ประตูน้ำ การทำเรื่องจากจีน กระทั่งนาเดียร์ขู่ว่าจะถอนหุ้นตนออก ด้วยความกลัวว่าจะสูญเงินไปทั้งหมด จึงยอมนำรถยนต์ไปขายได้เงินมา 4 แสนบาท และนำมาลงทุนเพิ่ม ระยะ 3 เดือนตนเสียเงินไป 5 แสนบาท ยอมรับว่าตอนนั้นตนเคยไปอาศัยอยู่กับนาเดียร์ เพราะต้องการลงทุนทางธุรกิจ จนมี.ค.62 ตนหนีออกมาเพื่อมาตรวจสอบข้อมูบ และรู้ว่านาเดียร์มีคดีฉ้อโกง ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
หลังจากนั้นราว 14 วัน นาเดียร์ได้ไปหลอก นายกอล์ฟ ซึ่งสูญไปเกือบ 2 ล้านบาท ตนมาทราบภายหลังจึงคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่หยุดพฤติกรรมแน่ ๆ อย่างไรก็ตาม คดีตนมีผลออกมาแล้ว ตนสู้มาตั้งแต่ปี 2561 ล่าสุดวันที่ 22 เม.ย.64 ศาลมีคำสั่งให้นาเดียร์ชดใช้เงิน 2 แสนบาท ทุก ๆ วันที่ 15 ของทุกเดือน จนถึง 15 ก.ย.64 ซึ่งนาเดียร์รับสารภาพทุกข้อหา ส่วนตัวไม่ได้ต้องการเงิน แต่ตนอยากให้นาเดียร์รับสารภาพ และจะนำใบเอกสารของศาลฉบับนี้เป็นบรรทัดฐาน เพื่อยืนยันว่านาเดียร์มีพฤติกรรมฉ้อโกง เขาทำคนตาย 1 คน และตนไม่หวังจะเอาเงินจากนาเดียร์ เพราะเหมือนนาเดียร์เอาเงินที่โกงมาจ่ายตน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ฐิติรัตน์ หรือ นาเดียร์ ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนทราบข่าวแล้ว ตนก็รู้สึกเสียใจ ตนไม่คิดว่าสิ่งที่นายธนัญ พูดไว้กับตนเขาจะทำจริง ๆ ตนก็รู้สึกช็อกเหมือนกัน ส่วนตัวยืนยันว่าได้รับผลกระทบจากข่าวที่นำเสนอว่าตนเป็นคนหลอกลวง ซึ่งตนกำลังรอเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อกลับมา ตนก็พร้อมจะเข้าพบเจ้าหน้าที่
ส่วนตัวพูดได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับนายธนัญ มีอะไรมากกว่าที่ข่าวนำเสอนไป ลองคิดดูว่าคนที่โอนเงินเป็นร้อยครั้ง แล้วบอกว่าถูกหลอก จะจริงหรือไม่ ตนยืนยันว่าสาเหตุที่มีการโอนเงินไม่ใช่การลงทุน ส่วนตัวยังไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้ เพราะตนแสดงตัวไม่ได้ ตนต้องอยู่ในจุดของตน หวังว่าจะเข้าใจ
