แฟน “โจ้” อดีตจำเลย เล่านาทีคนแทงเด็กอุเทนฯ สารภาพเห็นจะจะ มือเปื้อนเลือด

จากกรณีนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือเต้ ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย.59 โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 61 ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องนายณัฐพงษ์ หรือ โจ้ จำเลยในคดี เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ หนึ่งในนั้นมีเหตุผลที่ระบุว่า นายตง ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในคดี เคยให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ต่อมาไม่สามารถเบิกตัวเข้าให้การในชั้นศาลได้ เนื่องจากตรอบครัวนายตงนำเอกสารใบรับรองแพทย์แจ้งต่อศาลว่า นายตงมีอาการป่วยทางจิตเวช เป็นเหตุให้นายศุภชัย ทัฬหสุนทร ผู้เป็นพ่อเกิดความเครียดและผิดหวัง ตัดสินใจกระโดดจากชั้น 8 ของตึกศาลอาญาเสียชีวิต

วันที่ 26 ก.ค.61 นายณัฐพงษ์ หรือโจ้ ผู้ต้องหาคดีแทงนายธนิต ทัฬหสุนทร หรือ เต้ ผู้เสียชีวิต พร้อมมารดาและน.ส.หมูแฟนสาว ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เล่าย้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.59 เวลาประมาณ 19.00 น.ตนและน.ส.หมู แฟนของตนได้ขับรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางไปเล่นน้ำสงกรานต์ภายในซอยประชาสงเคราะห์ 1 ก่อนที่นำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดภายในซอยตรงตู้โทรศัพท์ ที่มีระยะห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 30 เมตร แล้วเดินออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่บริเวณหน้าปากซอย โดยในละแวกนั้นก็จะมีนายโฟล์ค และน้องอีก 2-3 คนที่ตนรู้จัก หลังจากนั้นเมื่อตนเล่นน้ำสงกรานต์ได้สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านข้างแต่ส่วนตัวไม่ได้สนใจอะไร ทราบภายหลังว่า คนที่ถูกตบหน้าคือนายอารีย์ชัย หรือ เบนซ์ และผู้ที่ตบหน้าคือนายเต้ สักพักก็มี ผู้หญิงที่รู้จักกัน เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยพูดประมาณว่า “พวกเธอมาด้วยกันแล้วจะทะเลาะกันทำไม” หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าไปไกล่เกลี่ยกันในซอย ตนยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ตามเข้าไป นายโจ้ ได้พูดอิงจากภาพกล้องวงจรปิดที่เห็นว่า นายเต้ ยกมือไหว้ผู้หญิง สำหรับผู้หญิงในภาพคือญาติของรุ่นน้องที่ตนรู้จักก่อนที่จะเดินไปเคลียร์ภายในซอย แต่ตนไม่ได้เดินเข้าไปด้วย ก่อนที่ตนจะชวนรุ่นน้อง 2 คนที่รู้จักไปปัสสาวะด้านในซอย บริเวณใกล้ตู้โทรศัพท์ จากนั้นก็นั่งกินลูกชิ้นทอดบนเบาะรถจักรยานยนต์ โดยตนมองไปด้านข้างเห็นนายตงอยู่กับนายเบนซ์ นายตงได้พูดกับนายเบนซ์ว่าถ้าคาใจอะไรเดี๋ยวจะช่วยเอง ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจจึงเดินกลับมาที่หน้าปากซอยเพื่อเล่นน้ำต่อ

เมื่อกลับมาเล่นน้ำได้สักพัก นายเต้ ผู้เสียชีวิต ก็เข้ามาพูดกับตนว่าแฟนตนมองหน้ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ตนก็ตอบกลับไปว่าตนมาเล่นน้ำไม่ได้มามีปัญหา จากนั้นเพื่อนนายเต้ก็มาดึงแขนในเต้ออกไป จากนั้น ตนจึงเรียกแฟนมาถามว่ามองหน้านายเต้จริงหรือไม่ ซึ่งแฟนตนปฏิเสธว่าไม่ได้มอง จากนั้น แฟนตนเห็นท่าไม่ดีจึงชวนกลับ ตนและแฟนจึงกลับไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ แต่นายเต้ก็ยังตามมาพูดกับตนด้วยคำหยาบคายว่าแฟนตนไปมองหน้า มีอะไรหรือเปล่า จากนั้นตนและนายเต้ก็มีปากเสียงกันโดยนายเต้ด่าตนด้วยคำหยาบคาย ตนจึงเตะนายเต้ 1 ครั้ง และต่อยอีก 1 ครั้ง นายเต้ก็สวนกลับเช่นกัน จากนั้นผู้หญิงที่รู้จักกันก็มาดึงตนออกไปข้างซอยตรงข้ามตู้โทรศัพท์ และพยายามดึงตนออกไปทางด้านหลังซอยเพื่อไม่ให้เจอนายเต้ หลังจากนั้นก็มีกลุ่มคนที่ตนไม่รู้จักวิ่งมาจากทางปากซอยแล้วมาตะลุมบอนนายเต้ ซึ่งตนไม่เห็นเหตุการณ์เพราะตนอยู่กับผู้หญิงที่รู้จักตลอดทำให้ตนไม่เห็นเหตุการณ์ตะลุมบอนซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 1 นาที หลังจากนั้น ตนได้เดินทางไปกินหมูกระทะกับรุ่นน้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับตนช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. พร้อมบอกว่า “มันตายแล้ว” ตอนแรกก็สงสัยแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบายรายละเอียดว่าเป็นบุคคลใด ตนบอกว่าได้มีการต่อยและเตะนายเต้เพียงเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญมาที่สถานีตำรวจดินแดง สำหรับประเด็นการชี้ตัว นายโจ้ บอกว่า ตอนชี้ตัวมีตนอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียว ไม่ได้มี 6 คน ตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ตนมาทราบภายหลังว่า คนที่ชี้ตัวคือ นายตง พร้อมถามว่า ถ้าตนเป็นคนกระทำหรือคนร้ายจริง ตนจะไปนั่งกินหมูกระทะอยู่บ้านรุ่นน้องหรือ และยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนายเต้ นายตง และ นายเบนซ์ มาก่อนเพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกในวันเกิดเหตุ

หมู แฟนนายโจ้เล่าว่า ระหว่างเกิดเหตุตนเองกับนายโจ้แยกกันเล่นน้ำ โดยตนเห็นว่ามีเหตุวัยรุ่นตบหน้ากัน แต่ก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นก็มีคนหันมามองหน้าตนด้วยท่าทางมองตั้งแต่หัวจรดเท้า จนกระทั่งนายโจ้เรียกไปถามว่าตนเองนั้นไปมองหน้าใครหรือเปล่า เพราะมีคนไปบอกนายโจ้ว่าตนมองหน้าเขา จนกระทั่งตนเห็นว่านายโจ้ไปเตะต่อยกับนายเต้และมีผู้หญิงที่รู้จักกัน มาดึงนายโจ้ออกมา จากนั้นก็เห็นคนนับสิบเข้าไปรุมนายเต้ หลังจากนั้นตนก็กำลังจะเดินเข้าไปหานายโจ้ เพื่อจะขอกุญแจไปเอารถมารับ แต่ระหว่างนั้นนายเบนซ์ก็วิ่งเข้ามาหาตนในสภาพมือเปื้อนเลือดและพูดว่า “พี่ ผมเป็นคนแทง” และจะขอกลับด้วย แต่เพราะไม่รู้จักกันตนจึงตอบกลับไปว่าให้ไปด้วยไม่ได้ หลังเกิดเหตุ นายโจ้และหมูยืนยันว่า ไม่ได้ติดต่อกับนายเบนซ์ เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอยู่แล้ว โดยนายโจ้ยกมือขึ้นไหว้และกล่าวยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่เป็นผู้มีอิทธิพล โดยดูจากสภาพความเป็นอยู่ของที่บ้านได้ พ่อตนเองต้องนอนป่วยติดเตียงเพราะเครียดคดี ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ตนสู้คดีมาด้วยความเชื่อมั่นในบริสุทธิ์ของตัวเอง ในชั้นศาลมีพยานที่รู้จักเห็นเหตุการณ์และตนก็ให้การไปตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง ซึ่งหลังจากนี้หากจะต้องกลับไปเป็นผู้ต้องหาอีก ตนเองก็พร้อมยอมสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของตัวเอง