กรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature" แชร์เรื่องราวผู้โพตส์ในกลุ่มรวมพลคนขับแท็กซี่ (แห่งประเทศไทย) เป็นเรื่องที่หญิงสาว สมาชิกกลุ่มโพสต์คลิปทะเลาะกับ วินจักรยานยนต์เบอร์ 33 ซึ่งหญิงสาวผู้ซ้อนท้ายสวมเสื้อสีม่วงลายดอก ระบุว่า “หากินก็ยากลำบาก ยังเจอนักเลงเจ้าถิ่น ทำลายข้าวของ เกือบทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง กระชากบังแดด เงื้อมือจะเอาหมวกกันน็อกแบบเต็มใบฟาด ดูหน้าไว้นะเผื่อใครเจอจะได้ไม่หลงไปมองหน้าเขา ปล.ตอนที่เขาด่ากับพยายามจะทำร้าย ถ่ายไว้ไม่ทัน พอเปิดกล้องก็ไม่กล้า”
ล่าสุดวันที่ 28 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเป็นคอนโดมิเนียม ย่านรามคำแหง มีเส้นทางเข้า-ออกคอนโดฯ คอนแคบมาก ขณะที่ป้อม รปภ.ที่เกิดเหตุของคอนโด มีเจ้าหน้าที่รปภ.อยู่ ทีมข่าวจึงเข้าไปสอบถามนายซี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงสาย ๆ ของวันนี้ แท็กซี่ก็ขับวนเข้าไปส่งผู้โดยสารปกติ แต่เมื่อขับออกมา กลับมีรถกระบะกำลังวนเข้าซองจอดบริเวณช่องกลางที่ส่วนใหญ่คนมาคอนโดฯ จะจอดจุดนั้น แต่เห็นว่ารถคันดังกล่าวจอดไม่ได้สักที กระทั่งรถเริ่มติดยาว ก็พบวินจักรยานยนต์คันที่ปรากฏตามคลิป ตะโกนอะไรสักอย่าง ตนอยู่ในป้อมจึงไม่ได้ยิน
กระทั่งรถเลื่อนมาอยู่ที่ป้อม ก็พบว่าวินจักรยานยนต์เถียงกับแท็กซี่ แต่ตนไม่ได้สนใจ เพราะเห็นรถคันที่จะจอดยังถอยจอดไม่ได้ จึงไปช่วยโบกก็พบว่าเป็นชายสูงอายุแล้วที่เป็นคนขับรถ จึงได้แต่บอกให้ลุงคนขับว่า "เนี่ยข้างหน้าเขาทะเลาะกันเพราะลุง" ซึ่งลุงคนขับก็หัวเราะ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าทั้งคู่คงเข้าใจผิดกัน แต่พื้นที่แห่งนี้ปกติคนก็เถียงกันเรื่องจอดรถบ่อย เพราะทางค่อนแคบมาก ๆ
ทีมข่าวได้พบกับ น.ส.สิริภัทร ทับจันทร์ ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะมีรถอีกคันกำลังตั้งหลังถอยเข้าซอง ตนมองว่าควรจอดให้รถอีกคันจอดให้เสร็จ เพราะหากขยับไป เกิดจังหวะรถคันที่จะจอดถอยมาพอดีก็จะชนกันได้ แต่จังหวะแรกพบวินจักรยานยนต์ตะโกนให้ของลับ ตนจึงมองกระจกข้างขวา เห็นหน้าวินจักรยานยนต์พอดี วินจักรยานยนต์กลับด่าตนว่า “มอง...อะไร” ตนถึงขั้นตกใจ จนรถสามารถขยับไปได้เคลื่อนไปถึงป้อม รปภ.
ทั้งนี้ตนก็มองวินจักรยานยนต์ผ่านกระจก และเขาก็ด่าอีกรอบ จุดนี้ตนยืนยันว่าวินด่าคำนั้นจริง ๆ เพียงแต่ไม่ได้ถ่ายคลิป กระทั่งมีปากเสียกันและหญิงสาวที่ซ้อนท้ายวิน คาดว่าเป็นญาติกัน ลงมาด่ากราดและพุ่งมากระชากที่กันแดด ซึ่งเป็นแม่เหล็กมีน้ำหนัก จนหลุดออกจากรถมีเสียงดัง จึงตัดสินใจถ่ายคลิปเพราะเหตุการณ์เริ่มบานปลาย แต่ไม่คิดว่ากันสาดจะแตก มาเห็นอีกทีตอนขับรถเข้าบ้าน
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าวินด่าให้ของลับจริงถึง 2 รอบ แต่กลับอ้างว่าด่าคนอื่น วินโกหก ไม่เช่นนั้นตนจะถามวินหรือว่าเป็นลูกผู้ชายพอหรือไม่ ขณะที่หญิงสาวที่มาด้วยก็ยังพูดท้ายคลิปว่า “ติดใจอะไร บอกได้” ความจริงตนจะไม่แจ้งความ แต่ก็คิดว่ามีของเสียหายแจ้งความดีกว่า อีกอย่างที่สำคัญคืออยากให้วินได้เรียนรู้ว่าควรใจเย็น ๆ และไม่ควรด่าคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแบบนี้
ทีมข่าวได้เจอนายเอ วินจักรยานยนต์ หลังตลาดนัมเบอร์วัน เบอร์ 33 กล่าวชี้แจงว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 10.00 น. ระหว่างที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีลูกสาวซ้อนท้ายกำลังออกจากโครงการฯ พบรถติดอยู่ จึงตะโกนพร้อมอุทานให้ของลับกับรถที่กำลังจะจอดเข้าซองว่า "พี่ทางซ้ายว่างอยู่ถอยได้เลย" แต่แท็กซี่คู่กรณีก็อยู่หน้าสุด และก็ยังไม่ได้ขยับเหมือนกัน พร้อมกับเห็นว่าแท็กซี่มองหน้าตนผ่านกระจกมองข้าง แต่ตนไม่สนใจ จนรถคันด้านขวาที่จะจอดขยับไป และแท็กซี่ก็ขยับได้เช่นกัน ทำให้คันอื่น ๆ ไหลตามกันไปเรื่อย ๆ
แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบแค่นั้น แท็กซี่ได้ไปจอดรถตรงป้อม รปภ.เหมือนจะสอบถาม และมีเรื่องติดใจกับตน จึงตัดสินใจจอดรถจักรยานยนต์ แต่จังหวะแรกจะเดินเข้าร้านไปเอาหน้ากากอนามัย แต่ก็หันไปเห็นแท็กซี่มองหน้าข้องใจอีก จึงหันไปถามว่า "มีอะไรหรือเปล่า" คนขับรถแท็กซี่ก็บอกว่า "ทำไมต้องด่าด้วย" ตนจึงได้ชี้แจงไปว่า "ผมไม่ได้ด่าคุณ ผมบอกรถอีกคันว่าทางซ้ายว่างให้เขาขยับไป" แต่ขับแท็กซี่ยังกล่าวหาว่าตนไปด่าเขา
สำหรับการให้ของลับ ตนก็ยอมรับว่าพูดคำนั้นจริง แต่แค่อุทานลอย ๆ ให้รถที่จะจอดเท่านั้นเอง และอธิบายแล้วแท็กซี่ก็ควรจะจบ แต่กลับมาเถียงกันรถก็มาติดยาว กระทั่งรปภ.ต้องเข้ามาบอกให้ขยับ ทั้งนี้อยากถามแท็กซี่ว่า “ต้องการอะไรจากสังคม” หากยังไม่จบและทำให้แท็กซี่เข้าใจผิด ตนก็ขอโทษ เพราะตนก็เป็นลูกผู้ชายพอ
.jpg)
