กิ๊ฟซ่า เปิดความลับ ยอมรับ Girly Berry มีปัญหาทะเลาะกันบ่อย !

21 เม.ย. 64

แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักสี่สาวสุดเซ็กซี่วง Girly Berry เกิร์ลกรุ๊ปที่ดังพลุแตกในยุคหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยุคสมัยก็ต้องเปลี่ยนแปลง แม้ทั้ง 4 สาว จะแยกย้าย วางไมค์ไปแล้ว แต่ความผูกพันที่มีให้กันมายังคงอยู่ ซึ่งหนึ่งใน 4 สาว Girly Berry กิ๊ฟซ่า ปิยา ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เผยถึงที่มาที่ไปของชื่อ กิ๊ฟซ่า กิ๊บซี่ ที่ทำไมต้องใช้ชื่อนี้ พร้อมทั้งยังเปิดความลับยอมรับว่าในช่วงที่เป็นวง Girly Berry มีปัญหาทะเลาะกันบ่อย พร้อมแง้มเรื่องหัวใจและคำตอบเรื่องแต่งงาน

s__71074594

 

ถาม ที่มาของชื่อ กิ๊บซี่ และ กิ๊ฟซ่า

กิ๊ฟซ่า : ที่ตั้งวงคือมี กิ๊ฟ สองคน ตอนที่เราเป็นศิลปินฝึกหัด เราก็เริ่มคุยกันแล้วว่าชื่อซ้ำกันสองคน ออกเทปไป เขาจะเรียก จะจำเรายังไง ตอนแรกก็จะให้เรียกว่า กิ๊ฟ กิ๊ฟ ไม่ได้ ทางค่ายก็เลยจะไปคิดให้แล้ว วันที่ถ่ายปกทุกอย่างแล้ว เขาก็บอกเราว่าเธอคนนี้คือ กิ๊บซี่ และคนนี้คือ กิ๊ฟซ่า ซึ่งตอนแรกเราไม่ชินเลย เพราะเราเขิน เวลามีคนเรียกเรา อย่างเวลาที่เราไปมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ จะเรียกเราว่า กิ๊ฟ ปิยา พอรู้ว่าเราชื่อนี้ก็จะบอกเราว่า กิ๊ฟซ่า เหรอ ซ่ามากไหม ถามว่าถ้าย้อนกลับไปในตอนนั้น เราซ่ามากไหม เราไม่ซ่า แต่เราห้าวๆ เพราะด้วยความที่เราเรียนโรงเรียนหญิงมา ก็จะเป็นสังคมผู้หญิง และด้วยความที่เป็นผู้หญิงหมดเลย เราก็เลยรู้สึกว่าเราต้องสตรอง เราก็เลยทำตัวห้าวที่สุด แบบไม่ยอมใคร เพราะฉันไม่ใช่สายหวาน


ถาม ด้วยความที่เป็นผู้หญิงแล้วอยู่รวมตัวกันเยอะ แต่ละคนก็จะมีสไตล์ที่แตกต่างกันอีกด้วย ไปไหนมาไหนด้วยกันมีปัญหากันบ้างไหม

กิ๊ฟซ่า : สมัยที่เป็นศิลปินฝึกหัดมาแรกๆ ก็เหมือนมีมิตรไมตรีต่อกัน แต่พอเริ่มอยู่ด้วยกันไปนานๆ ทำงานด้วยกัน ส่วนใหญ่จะมาเจอกันตอนที่ทำงานเท่านั้น ตอนทำงานแรกๆ ก็โอเค จนพอเริ่มมีชื่อเสียงอันนี้ยาก เพราะว่าแต่ละคนก็จะมีจุดของตัวเอง มีอารมณ์ของตัวเอง ก็จะทะเลาะกันเรื่องงานบ่อย บางทีก็งอนกันแต่เรื่องงานนะคะ เพราะว่าพอจบเรื่องงานแล้วเป็นเรื่องส่วนตัว เราก็จะไม่ทะเลาะกันแล้ว ตอนที่เรามีค่าย เราก็มีคนตรงกลางคอยสรุปให้ ซึ่งเรื่องที่ทะเลาะกันไม่มีอะไรเลย แค่เรื่องจะร้องเพลงอะไร แล้วก็จะใส่ชุดอะไร กิ๊ฟซี่ เขาเป็นคนที่ชัดเจนใช่คือใช่ ไม่คือไม่ เอาคือเอา ไม่เอาคือไม่เอา ส่วนตัวเราจะโอเค ดูภาพรวม เอาที่ทุกคนเหมาะสมแล้วดูดี ส่วนเบลล์กับแนนนี่ เขาเป็นคนที่ยังไงก็ได้ แต่แนนนี่จะเป็นคนที่อยากร้องเพลงที่ตัวเองอยากจะร้อง เราก็จะสะกิดแล้วมีเหตุผลให้เขาว่าเราเป็นสายเต้นแล้วถ้าเราไปร้องเพลง หมอกและควัน เราจะเต้นยังไง ส่วนอย่างเรื่องชุด แต่ละคนก็อยากจะใส่ไม่เหมือนกัน

s__71074602

ถาม แต่พอทะเลาะกันไปกันมา เถียงกันไปมา แต่ทุกครั้งจะจบเมื่อมีคน กรี๊ด ออกมา!!

กิ๊ฟซ่า : ใช่ค่ะ กรี๊ด …แล้วบอกว่าจบแค่นี้แหละ แล้วก็จบค่ะ ทุกครั้ง ซึ่งก็ไม่ได้กรี๊ดคนเดียวนะคะ ก็จะเวียนกันไป แต่อย่างแนนนี่ เขาจะไม่ค่อยพูด แต่จะเหวี่ยงด้วยท่าทาง แต่กิ๊บซี่กับกิ๊ฟจะเป็นคนที่กรี๊ดเยอะ


ถาม ตอนนี้ต้องพูดว่าบทบาทของการเป็น Girly Berry ค่อนข้างห่างหายกันไป กิ๊ฟซ่า เลยมาโฟกัสในเรื่องของการแสดง

กิ๊ฟซ่า : พอหลังจากที่เราหมดสัญญาแล้ว เราก็พยายามที่จะเข้ามาทางสายละคร พยายามที่จะหาจุดของตัวเองในการแสดง ซึ่งก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันตั้ง 4 ปี ถึงจะอยู่ตัว ซึ่งตอนแรกต้องบอกว่าเราเคว้งมาก เพราะว่าตอนที่เราอยู่อาร์เอส เราเคยเล่นละครกับพี่บุ๋ม ตอนนั้นเราก็มีความรู้สึกว่าก็สนุกดี แต่ด้วยความที่เราไม่รู้ไง เพราะว่าเราก็รู้สึกว่าเราก็เรียนการแสดงมา แต่การแสดงที่เราเรียนมาคือละครเวที มันจะไม่เหมือนกับการแสดงในจอเวที พอมีผู้ใหญ่มาว่ามาติทำให้เราค่อนข้างจุก เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่เราค่อนข้างสนิท  ตอนนั้นเราก็ตั้งใจมาก แล้วเราก็อยากทำให้มันดี เราก็พยายามทำการบ้าน แต่เราอาจจะทำไม่ถูกจุดหรือเราอาจจะตั้งใจมากเกินไปแล้วบวกกับที่เราเป็นนักร้องมานานแล้วมันก็ทำให้เราห่างจากการที่เราเรียนการแสดงมานานแล้ว บวกกับที่เราไม่ได้เวิร์คชอปแล้วเรานั่งอยู่ในกอง เราก็พูดกับพี่ผู้กำกับว่าถ้ามีอะไรติหนูได้เลยนะ บางทีหนูอาจจะห่างหายจากการแสดงมานาน อาจจะต้องเคาะสนิมหน่อย แล้วพี่เจี๊ยบ โสภิตนภา เป็นผู้จัด เขาก็พูดว่า ต้องเคาะเยอะแหละ ด้วยความที่ปกติเรากับพี่เจี๊ยบก็สนิทกันอยู่แล้ว พี่เขาก็ติเพื่อให้เราปรับปรุง ให้เราได้รู้ว่าละคร แต่ละเรื่องคาแรคเตอร์ของตัวละครมันต่างกันนะ และในส่วนของมุมกล้อง เราก็ไม่ได้ชำนาญ หน้าเราไปบังคนอื่นที่เข้าฉากด้วย มันก็เป็นเรื่องเทคนิคในการแสดง แล้วในแต่ละครเรื่องก็จะมีจังหวะเป็นของแต่ละเรื่องนั้น ถ้าเราเล่นแต่จังหวะของตัวเองไม่สนใจคนอื่น มันไม่ใช่ พอเรามาไล่ดูก็เริ่มเข้าใจ เราก็ไปเวิร์คชอปมากขึ้น หรือพอเราจะไปเล่นกับผู้กำกับท่านไหน เราก็จะศึกษางานของเขาก่อน บทที่ได้มาเราก็พยายามทำการบ้านก่อน แล้วก็เอาไปขายเขาว่าเราเล่นประมาณนี้ได้ไหม ซึ่งพอหลังจากที่เราออกมาจากอาร์เอสก็ใช้เวลาอยู่หลายปีที่กว่าจะลงตัวมีผู้ใหญ่ให้โอกาสและเชื่อในความตั้งใจของเรา เราก็ต้องขอบคุณคำพูดของพี่เจี๊ยบ วันนั้นมากๆ เพราะไม่งั้นเราก็จะไม่ได้สำรวจตัวเองเลย เราก็จะคิดไปเองว่าทำได้ เพราะเราก็เป็นคนที่ตั้งใจทำจริงทุกอย่างในเรื่องของงาน แต่จะมีข้อเสียในตัวอย่างคือจะคิดว่าไม่เห็นยากเลย ฉันทำได้ หลังจากคำพูดนั้นเราก็ไม่มีความประมาทนั้นเลย เพราะเมื่อเราทำงานแล้วมันผ่านไปแล้วมันจะแก้ไขไม่ได้

s__71074600

ถาม นอกเหนือจากความประมาทในงานที่กลัวแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่กลัวมากคือเรื่องแต่งงาน ทำไมถึงกลัว

กิ๊ฟซ่า : คนนี้คบกันมา 13 ปีแล้วค่ะ ถามว่ามีคุยเรื่องการแต่งงานกันไหม ก็มีคุยกันบ้างค่ะ ตอนแรกๆ ช่วงที่คบกันมา 6-7 ปี เราก็คิดว่าเราจะแต่งช่วง 32 พอใกล้ๆ ถึงเราก็คิดว่าหรือจะ 34 พอผ่าน 34 เราก็ยังไม่ได้คิดเลย แต่กิ๊ฟว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แฟนเราเขารู้สึกมั่นคงเพียงพอแล้ว น่าจะมีข่าวดีค่ะ


ถาม ตอนนี้นอกจากจะรับงานแสดงแล้ว ยังเป็นคุณครูสอนขี่จักรยานอีกด้วย

กิ๊ฟซ่า : เป็นสถานที่ออกกำลังกายของ เอมมี่ มรกต กิ๊ฟเป็นเทรนนิ่งที่นี่ค่ะ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส