กรณีคนร้ายก่อเหตุยิงนายไอซ์ อายุ 15 ปี และนายกอล์ฟ อายุ 17 ปี เสียชีวิต ส่วนนายนนท์กฤช นูพิมพ์ หรือ เม่น อายุ 24 ปี ถูกยิงบาดเจ็บหน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าหมู่บ้านสินทรัพย์ ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งพบว่าเป็นการยิงผิดตัว ผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุเห็นว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตไปกับอริมีการขอยืมไฟแช็กกันที่หน้าร้านค้า ทำให้เข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกัน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 64 ตำรวจ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับนายนพเกล้า คุ้มแก้ว อายุ 25 ปี มือยิง และนายณัฐพล กล่ำเจริญ หรือ ต้น อายุ 22 ปี คนขับรถจักรยานยนต์
ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน
ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ธัญบุรี ชุดสืบสวนจังหวัดปทุมธานี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 แบ่งกำลังติดตามตัวเฝ้าตามสถานที่ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไป ตำรวจให้ทางญาติเกลี้ยกล่อมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้เข้ามอบตัวได้สำเร็จ
พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มาสอบปากคำนายนพ และนายต้น ด้วยตนเอง จากนั้นก็นำทั้งคู่มาจำลองเหตุการณ์หน้า สภ.ธัญบุรี โดยเริ่มจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันเดียวกันมา ก่อนจะให้นายนพมือยิง วิ่งลงจากรถมาใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงไปทางกลุ่มผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ซึ่งยืนรวมกันอยู่ ก่อนที่นายนพจะรีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ หลบหนีไป
นายนพ มือยิง กล่าวขณะจำลองเหตุการณ์ว่า ตนรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้น้องทั้ง 2 คนต้องเสียชีวิต ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยอมรับว่าเสียใจและอยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย ขอฝากบอกไปยังพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตว่าไม่มีเจตนาจะฆ่าลูกเขา แต่เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะตนต้องการแก้แค้นให้กับนายเอ็ม ลูกพี่ลูกน้องที่ถูกนายแซ็ค กลุ่มผู้บาดเจ็บทำร้าย และเกิดจากความเข้าใจผิดคิดว่ากลุ่มผู้ตายเป็นกลุ่มเดียวกับนายแซ็ค ยอมรับว่าอยากจะไปขอขมาศพน้องทั้ง 2 คน แต่ไม่กล้าไป เพราะกลัวเพื่อนและญาติน้องทำอันตราย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดมูลจินดาราม จ.ปทุมธานี ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายไอซ์ อายุ 15 ปี และนายกอล์ฟอายุ 17 ปี
นางสาวปนัดดา บุญลา หรือ พู่ อายุ 34 ปี แม่ของนายกอล์ฟ เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนที่ติดเพื่อน แต่ก็ไม่ได้เกเรหรือเที่ยวไปมีเรื่องกับใคร เพราะส่วนใหญ่เวลาว่างลูกชายก็จะมาช่วยตัวเองขายของ และเข็นของในตลาด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประวัติเรื่องการชกต่อยหรือไปมีเรื่องกับใคร ดังนั้นจึงยืนยันว่าลูกชายของตนเองไม่มีคู่ขัดแย้งหรือคู่อริที่ไหน แต่เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่ถูกยิงผิดตัว
ซึ่งตนเพิ่งจะทราบข่าวเมื่อคืนนี้ว่าผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว รู้สึกดีใจและอยากขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่ได้ช่วยกันกดดันตามหมายจับ จนต้องยอมออกมามอบตัว อย่างไรก็ตาม ตนเองในฐานะแม่ ไม่ได้ถือโทษโกรธใคร เพราะตอนนี้ถือว่าลูกชายก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่ถ้าหากเป็นไปได้ก่อนที่จะมีการฌาปนกิจศพ อยากให้ตำรวจนำตัวผู้ต้องหา พามาขอขมาอย่างน้อยลูกชายก็จะได้ไปสู่สุคติ ตนเองพร้อมที่จะให้อโหสิกรรม แม้ว่าจะทำใจไม่ได้ก็ตาม
หลังเกิดเหตุตนเข้าห้องนอนแล้ว แต่ยังนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงคนเปิดปิดตู้เย็น 2-3 ครั้ง ตนก็เชื่อเลยว่าลูกชายต้องกลับบ้านมา เนื่องจากลูกชอบเปิดปิดตู้เย็นกลางคืนบ่อย ตนจึงเปิดประตูห้อง แล้วเห็นว่านายจารุวัฒน์ลูกชายของตนกลับมาบ้าน ด้วยเสื้อลายสีดำ กางเกงยีนส์ ตนก็ถามว่า "กอล์ฟ กินข้าวหรือยังลูก?" จากนั้นวิญญาณขอบกอล์ฟก็หันมามองตนด้วยสีหน้าแววตาที่เศร้าหมอง จากนั้นก็เดินหายออกไป ซึ่งตนเชื่อเต็มว่านี่คือลูกชายของตน ซึ่งตอนแรกตนคิดสั้นอยากตามลูกไป แต่นึกขึ้นว่าต้องอยู่เพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกชาย
นางสาวอรอนงค์ ปิ่นแก้ว แม่ของไอซ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจและอยากขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถทำให้ผู้ต้องหายอมมามอบตัว แต่ตนก็ยังติดใจกับทางตัวผู้ต้องหา เนื่องจากใจคลิปวงจรปิดที่ตนเห็น คนที่ยิงรูปร่างผอมกว่านี้ แต่พอมาเห็นผู้ต้องหาในวันนี้ปรากฏว่าคล้ายกับเป็นคนละคนกัน ซึ่งในวันนี้ตนยังรู้สึกแปลกใจมากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ เพราะตนอยากจะไปดูหน้า และสอบถามสักครั้งว่าฆ่าลูกตนทำไมกัน ที่สำคัญทางครอบครัว หรือเพื่อนของลูกชายไม่มีที่จะคิดรุมประชาทัณฑ์ เพราะแยกแยะได้
หลังจากที่นำตัวผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว ตนก็ไม่เห็นว่าทางญาติของผู้ต้องหาจะติดต่อมาหาตน ไม่มีการขอโทษ ไม่มีการมารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาก่อเหตุขึ้น ถ้าหากจะมาที่งานศพ ตนก็ยินดีอยากให้เดินทางมา ไม่ต้องหวั่นกลัวว่าครอบครัวของตนจะเข้าทำร้าย เพราะพ่อแม่หรือญาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทางผู้ต้องหามาขอขมาต่อหน้าศพของลูกชาย และที่ทางผู้ต้องหาบอกมาว่าต้องนำรูปลูกชายมาที่โรงพักเพื่อทำการขอขมา ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากลูกชายตนถูกยิงกลางพื้นที่สาธารณะ คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ตนจะต้องแบกรูปถ่ายลูกชายตนเองไปให้ขอขมา
