เมื่อวันที่ 6 เม.ย.64 เวลา 00.25 น. ร.ต.อ.ดนัยกร กรรณาริก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในรถเก๋ง บนถนนสายพหลโยธินขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 154-155 หมู่ที่ 2 เยื้องห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.ท่าศาลา อ.เมือง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบแพทย์เวร รพ.อานันทมหิดล และมูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยบนฟุตพาทพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้าสีแดง ทะเบียน กย-9098 ลพบุรี ด้านหน้าชนป้ายโฆษณาได้รับความเสียหายเล็กน้อย ที่เบาะตอนหน้าพบร่างนายพงศ์เทพ ขันธเขต อายุ 38 ปี ชาว จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 ภาคเหนือ จ.ลพบุรี ฟุบที่พวงมาลัยรถ พบแผลจากคมกระสุนเข้าที่ชายโครงซ้าย 1 นัด ไม่ทราบขนาดกระสุน จากการตรวจสอบพบมีรอยกระสุนปืนที่ประตูรถด้านขวาทะลุเข้าชายโครง 1 รู ภายในรถพบเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และสุราที่เหลืออยู่เล็กน้อย 1 แบน วางอยู่ที่พักเท้าด้านซ้าย
นายอธิคม สุขคล้าย อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เล่าว่า ตนได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งชนฟุตพาท ขณะนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่พยายามเรียกให้เปิดประตู แต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงได้ทุบกระจกด้านหลังคนขับ เพื่อที่จะช่วยเหลือหลังนำร่างออกมาจากรถ จึงทราบว่าถูกยิงและพยายามจะช่วยชีวิตแต่เสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจ ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มกินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองลพบุรี ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่ไม่มีเรื่องราวอะไรกับใคร ก็ยังตกใจว่าทำไมถึงได้เกิดเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญตัวเพื่อนร่วมวงก่อนเกิดเหตุและญาติสอบปากคำเพิ่มเติม และจะได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เบื้องต้นกำลังตรวจสอบกล้องหน้ารถ เพื่อหารถคนร้ายเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์ที่ รพ.อานันทมหิดล
ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณบนฟุตพาทดังกล่าว พบเศษวัสดุ, กระจกของรถผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกับพบกล้องวงจรปิดหลายตัว คาดว่ากล้องน่าจะสามารถจับภาพรถของผู้เสียชีวิตไว้ได้ว่าระหว่างทางมีสิ่งใดมาทำให้ประสบอุบัติเหตุหรือไม่ ขณะเดียวกันจากการสำรวจเส้นทางพบว่าผู้เสียชีวิตขับรถจากร้านอาหารมาถึงจุดเกิดเหตุ 4.6 กม. และพบว่าจุดเกิดเหตุห่างจากบ้านพักประมาณ 6 กม.
นายทศพร สุโชดายน อายุ 37 ผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เวลาประมาณ 00.20 น. ขณะขับรถเข้าบ้านซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุพอดี เป็นจังหวะที่หันไปพบรถยนต์สีแดงจอดอยู่บนฟุตพาท คาดว่าน่าจะเป็นบุคคลที่เมาและไม่สามารถขับรถไปต่อได้ จึงตัดสินใจวิ่งข้ามถนนไปเพื่อให้ความช่วยเหลือ
เบื้องต้นได้พยายามเคาะกระจก แต่ผู้ที่อยู่ในรถไม่ตอบสนองแต่อย่างใด ประกอบกับตนไม่สามารถรู้ได้ว่าบุคคลที่อยู่ในรถมีอาการเป็นเช่นไร เนื่องจากรถยนต์มีกระจกสีดำทึบรอบคัน กระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่ง ช่วยประสานมูลนิธิและตำรวจให้มายังที่เกิดเหตุ ขณะนั้นจึงช่วยกันเคาะกระจกอีกครั้ง แต่ไม่มีการตอบสนอง ก่อนตัดสินใจทุบกระจกด้านหลังผู้โดยสารฝั่งขวา จึงพบบุคคลดังกล่าวไม่ได้บาดเจ็บจากรถที่ประสบเหตุ แต่พบร่องรอยการถูกยิงที่ชายโครงขวาทะลุชายโครงซ้าย น่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต แต่เมื่อเจ้าหน้าได้นำผู้เสียชีวิตออกมาตนตกใจมาก เพราะชายดังกล่าวเป็นเพื่อนของตน
ทั้งนี้ตนในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิด และเคยช่วยตำรวจแกะวงจรปิดตามหาคนร้าย เบื้องต้นจึงไล่กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านของตนก่อน ซึ่งกล้องตัวนี้สามารถจับภาพรถต้องสงสัย 2 คัน คันแรกคือฮอนด้า ซีวิค รุ่นปี 2017 สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่มีเสียงปืนดังขณะที่มาเทียบรถของผู้เสียชีวิต ส่วนอีก 1 คัน เป็นรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ค่อนข้างน่าสงสัย เพราะลักษณะมีการเบรก ทั้งที่ด้านหน้าไม่มีรถขวางอยู่ ก่อนที่รถของเพื่อนตนจะไหลพุ่งไปชนขอบและปีนขึ้นฟุตพาท ตนจึงนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อประกอบกับหลักฐานอื่น ๆ และสืบหาคนร้ายต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อนของตนเป็นคนนิสัยดี ไม่มีศัตรูกับใคร และเวลาไปดื่มด้วยกันเพื่อนคนนี้จะเป็นคนมีมารยาทมาก ๆ ประกอบกับได้สอบถามรุ่นน้องในวงที่ไปดื่มเหล้าที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวเมือง ก็ทราบว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีใครมีเรื่องกับใคร ดื่มเสร็จก็แยกย้ายกันได้ 30 นาที ก็มาทราบว่านายพงศ์เทพ ประสบอุบัติเหตุแล้ว
นอกจากนี้ ตนจึงไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะมีปัญหากับผู้ขับรายอื่นบนถนนระหว่างทางหรือไม่ เพราะปกติเพื่อนไม่ได้เป็นคนขับรถเร็ว ตอนนี้จึงพยายามเดินทางตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณถนนเส้นนี้ในจุดอื่น ๆ เพื่อช่วยตำรวจสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตของเพื่อนต่อไป ตนทราบว่าผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่กับแม่เพียงคนเดียว และแม่มีโรคประจำตัวด้วย เบื้องต้นยังไม่ได้บอกเรื่องราวกับแม่ของผู้เสียชีวิต
นายเอ (นามสมมติ) เพื่อนร่วมงานการไฟฟ้า เปิดเผยว่า ในฐานะที่ร่วมงานกันมากว่า 6 ปี นายพงศ์เทพ เป็นหนุ่มโสด อาศัยอยู่กับแม่ 2 คน และนิสัยดีมาก ไม่เคยมีปัญหากับใครโดยเพื่อนร่วมงาน ส่วนการทำงานเป็นคนรับผิดชอบงานเป็นอย่างดี ดูแลน้องในทีมเป็นอย่างดี หรือมีปัญหาเรื่องงานก็มักจะคุยกันตลอด เพราะทำงานกันเหมือนพี่กับน้อง
ส่วนลักษณะนิสัยเมื่อมีการดื่มเหล้า ก็ไม่เคยได้ยินเพื่อนคนนี้มีปัญหากับใคร หรือมีนิสัยกร่างในวงเหล้า และร้านที่เพื่อนไปเมื่อคืนนี้ก็ทราบว่าเป็นร้านประจำที่ไปแทบทุกวันหยุด ดื่มเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพื่อน ๆ รู้สึกช็อกกันหมด เพราะจากร้านไปบ้านไม่ได้ไกลกัน เพื่อนไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่มาโดนยิงถือเป็นเรื่องประหลาดมาก ๆ
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านนั่งดื่ม พบว่าร้านแห่งนี้เปิดให้บริการเวลา 18.00-00.00 น. ของทุกวัน และจะแบ่งโซนให้เด็กเสิร์ฟดูแล น้องเก๋ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เป็นเด็กเสิร์ฟโต๊ะประจำที่นายพงศ์เทพ หรือ โจ กับเพื่อนมักนั่งโต๊ะโซนกลางเป็นโต๊ะประจำ
น้องเก๋ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ พี่โจ มานั่งดื่ม และกินอาหารกับเพื่อน ๆ และรุ่นน้องประมาณ 7 คน แบ่งเป็น ผู้หญิง 2 คน และผู้ชาย 5 คน จากการสังเกตพี่โจ ดื่ม สนุกสนาน ลุกขึ้นเต้น เฮฮา ชนแก้วกับโต๊ะอื่น ๆ ซึ่งรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะพี่โจเป็นลูกค้าประจำของร้าน ร้านจะไว้ใจสามารถวางบิลได้ พี่โจจึงเป็นคนที่คนแถวนี้ค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักดี
นอกจากโต๊ะพี่โจแล้ว ในร้านก็มีลูกค้าเต็มร้าน ทุกโต๊ะสนุกสนาปกติ ไม่มีใครมีปัญหากันในร้าน ซึ่งก่อนร้านปิดในเวลาเที่ยงคืน โต๊ะพี่โจก็แยกย้ายกันกลับ และตนไม่พบอะไรน่าสงสัย หรือมีใครตามมาปองร้ายพี่โจ ทั้งนี้ตอนทราบข่าวยังตกใจ และตั้งคำถามตลอดว่าทำไมต้องเป็นพี่โจ เพราะพี่โจเป็นคนดี แม้แต่เด็กเสิร์ฟในร้านพี่โจยังให้เกียรติ ไม่คิดว่าทำไมพี่โจต้องมาเจอแบบนี้ คนที่ยิง ยิงผิดตัวหรือไม่ หรือถ้าไม่ผิดตัวแล้วมีเหตุผลอะไรถึงมาทำกับพี่โจแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนไม่รู้ว่าพี่โจมีแฟนหรือไม่ แต่ที่ร้านไม่เคยเห็นพี่โจพาผู้หญิงมาที่ร้าน
ด้าน ร.ต.อ.ดนัยกร กรรณาริก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ลพบุรี เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำ เพื่อน ญาติ และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งปมการขับรถ, ปัญหาที่ทำงาน และชู้สาว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลังฐานจากกล้องวงจร แต่คดีนี้ค่อนข้างยาก เพราะภาพบางส่วนที่ได้มายังไม่สามารถระบุเจ้าของรถได้ ยังไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน แต่จะพยายามอย่างเต็มที่
