ผู้ปกครองนับสิบรายรวมตัวแจ้งความเอาผิดครูภาษาไทยโรงเรียนบ้านนา หลังตั้งกฎใครคุยในห้องให้เพื่อนต่อแถวรุมตบคนละ 3 ครั้ง
จากกรณีมีผู้ปกครองใช้เฟซบุ๊กชื่อ สักก์ธนัชญ์ เลาหสลิลโรจน์ ได้โพสต์ภาพแก้มของนักเรียนชายชั้น ป.2 ซึ่งเป็นรอยแดงจากการถูกทำร้ายด้วยการตบแก้ม พร้อมระบุข้อความพฤติกรรมของครูคนหนึ่งซึ่งได้ลงโทษนักเรียนด้วยการให้นักเรียนทั้งห้องรุมตบนักเรียนคนเดียว โดยระบุว่าครูสั่งเพื่อนนักเรียน ป.2 ในห้องรุมตบหน้า เนื่องจากหลานผมพูดมาก ภาพถ่ายวันที่ 28 มีนาคม 2564 ช่วงเย็น เรื่องน่าจะเกิดวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564
ต่อมาทางผู้ปกครองของนักเรียนได้มีการอัดคลิปถามเด็กๆ นักเรียนชั้น ป.2 ว่ามีเด็กนักเรียนคนไหนที่โดนคุณครูคนนี้สั่งให้เพื่อนๆ รุมตบแก้มบ้าง นักเรียนต่างยกมือว่าเคยโดนทุกคน ต่อมาทราบว่าครูคนดังกล่าว เป็นครูประจำวิชาภาษาไทยและนาฏศิลป์ ได้สอนหนังสืออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนบ้านนา ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา
หลังจากมีการโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปได้มีผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.2 จำนวนหลายรายที่เคยโดนกระทำต่างลงความเห็นว่าลูกๆ ของตนเองโดนครูนกกระทำมาเช่นกัน ผู้ปกครองจึงได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการของโรงเรียนบ้านนาเพื่อให้รับทราบเรื่องดังกล่าว และให้มีการลงโทษครูภาษาไทย ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะนะ
จากการสอบถาม น.ส.ธนิษฐา อายุ 28 ปี เปิดเผยว่าพฤติกรรมลูกเปลี่ยนไปเป็นเด็กเก็บตัว จากเมื่อก่อนที่เคยเข้าหาเคยมาช่วยงานมาช่วยขายของในร้าน ตอนนี้เอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้านเล่นแต่มือถือ ก่อนหน้าไม่ทราบสาเหตุพอหลังจากที่มีการโพสต์คลิปในโซเชียลก็ถามลูกตรงๆ ลูกก็ยอมรับว่าโดนครูสั่งให้เพื่อนในห้องทำร้ายด้วยกันตบหน้าคนละ 3 ครั้ง จากเด็กในห้องทั้งหมด สาเหตุกล่าวหาว่าลูกพูดส่งเสียงดังในห้องเรียนและลุกขึ้นไปหยิบหนังสือโดยพละการ หลังจากทราบเรื่องตนถึงกับช็อก ลูกยังบอกอีกว่าโดนเพื่อน 31 คน ตบหน้าคนละ 3 ครั้ง 5 วันซ้อน ทำให้ลูกไม่อยากมาโรงเรียน
ส่วนทางด้านนายสักก์ธนัชญ์ เลาหสลิลโรจน์ ตัวแทนผู้ปกครองเปิดเผยว่า หลัง ผอ.โรงเรียนบ้านนา ทราบเรื่องก็ได้ขอโทษผู้ปกครองและได้มีการนัดผู้ปกครองให้มาพร้อมกันในวันศุกร์ที่ 2 เม.ย.อีกครั้ง และซึ่งที่ผ่านมาและก็ไม่ได้มีการแจ้งหรือดำเนินการใดๆ กับครูท่านนี้ และเมื่อวานนี้ผู้ปกครองได้รวมตัวกันไปแจ้งความที่ สภ.จะนะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับผู้ปกครองว่า เบื้องต้นให้ไปไกลเกลี่ยกันก่อน ซึ่งผู้ปกครองเองก็เอะใจว่าเรื่องนี้ทำไมต้องไกล่เกลี่ย ตนก็หวังพึ่งตำรวจให้เรียกตัวมาสอบสวนแต่ตำรวจก็พยายามให้ผู้ปกครองทุกท่านกลับบ้านให้ไปคุยกับทางโรงเรียน ซึ่งตนก็ได้คุยแล้วทางโรงเรียนหรือผู้ก่อเหตุก็ไม่ยอมรับ กลายเป็นว่าทางผู้ครองทำให้ครูและโรงเรียนเสียชื่อเสียง ตนแค่ต้องการปกป้องสิทธิ์และปกป้องเด็กๆ เท่านั้น
