วินเดือดซัดหน้าชายกร่างอ้างเป็นทหารอัดคลิปขี่บนทางเท้า แม่ค้าซวยหมูปิ้งกระจาย (คลิป)

25 มี.ค. 64

กรณีแฟนเพจ “เจ๊ม้อยv+” เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีวินจักรยานยนต์ ทำร้ายชายสวมเสื้อสีเขียวบนทางเท้า บริเวณปากซอยอินทามระ 9 เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกถ่ายคลิปขณะขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยในคลิปชายเสื้อเขียวล้มลงกับพื้น ก่อนที่ชายสวมเสื้อวินตามเข้ามาต่อยเข้าที่ใบหน้าแล้วขับจักรยานยนต์หนีไป เป็นเหตุทำให้รถเข็นหมูปิ้งล้มข้าวของกระจัดกระจาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้เข้ามาระงับเหตุ พาทุกฝ่ายไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจ โดยไม่ได้แจ้งข้อหาใคร แต่ปรับคนขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (7) ว่าด้วยการห้ามเดินรถบนทางเท้า

ล่าสุดวันที่ 24 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุหน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณหน้าซอยอินทามระ 9 พบเป็นพื้นที่แคบ มีรถเข็นขายของตั้งขายอยู่ ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า รถเข็นจะตั้งขายชิดบันไดทางเข้าร้านสะดวกซื้อ ไม่ได้ขายบนทางเท้า แบ่งเป็นรอบเช้ากับรอบบ่าย

216791

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังซอยอินทามระ 11 บ้านของนางสุจิตตรา พิมพ์ภาวงค์ อายุ 28 ปี และนายอภิสิทธิ์ พิมพ์พาวงค์ อายุ 24 ปี พ่อค้าแม่ค้าหมูปิ้งปากซอยอินทามระ 9 ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.64 เวลา 08.00 น. พวกตนกำลังขายหมูปิ้งตามปกติ มีลูกค้าเข้ามาซื้อหมูปิ้งจำนวนมาก จากนั้นพวกตนสังเกตเห็นว่ามีวินมอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นมาบนทางเท้า โดยขณะนั้นมีชายเสื้อเขียวเดินผ่านหน้าร้านมาพอดี ซึ่งชายเสื้อเขียวได้กางแขนขวางทางวินมอเตอร์ไซค์ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทะเบียนของวินมอเตอร์ไซค์

ทั้งนี้วินมอเตอร์ไซค์จึงจอดรถ แล้วถามด้วยความสุภาพว่า “พี่ถ่ายรูปผมเหรอ” แต่ชายเสื้อเขียวตอบด้วยน้ำเสียงหยาบคายว่า “เออกูถ่าย แล้วจะทำไม” ทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่พอใจแล้วมีปากเสียงกัน วินมอเตอร์ไซค์จึงได้ปรี่เข้ามาต่อยชายเสื้อเขียว เกิดการชุลมุน จนทั้งคู่เซมายังรถเข็นของพวกตน ทำให้เตาปิ้งหมูและถาดใส่หมูปิ้งดิบพลิกคว่ำ หมูปิ้งเสียหาย 20-30 ไม้ โชคดีที่ถ่านไม่หล่นลงมา จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

706501

เมื่อเห็นว่าเหตุเริ่มบานปลาย ชายเสื้อเขียวล้ม แต่วินมอเตอร์ไซค์ยังไม่หยุด พวกตนจึงได้เข้าไปล็อกแขนชายเสื้อเขียว หวังให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดทะเลาะกัน ซึ่งชายเสื้อเขียวพูดขึ้นมาว่า “ล็อกกูทำไม” คล้ายจะหันมาทำร้ายพวกตนแทน โดยขณะนั้นก็มีวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ที่ขับผ่านทางมา ก็ได้เข้ามาช่วยห้ามเหตุ ดึงตัววินมอเตอร์ไซค์ต้นเหตุ บอกให้ขับออกไป

จังหวะนี้ พวกตนได้บ่นออกมาว่า “บอกให้หยุดก็ไม่หยุด ข้าวของเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ” ชายเสื้อเขียวที่ยังคงยืนอยู่ในที่เกิดเหตุได้พูดขึ้นว่า “กูรับปิดชอบเอง แต่พวกมึงต้องไปตามตัวไอ้นั้นมาด้วย” พวกตนจึงได้บอกว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวโทรหาตำรวจก็ได้” แต่ขายเสื้อเขียวก็ได้พูดแทรกว่า “จะโทรหาใครก็โทร ใครใหญ่ ใหญ่กันมากเหรอ” พวกตนจึงได้บอกว่า “ไม่มีใครใหญ่หรอก คนทำมาหากิน” ชายเสื้อเขียวจึงบอกว่า “กูอยู่ในกรมทหาร กูเป็นทหาร เดี๋ยวมึงเจอกู (หมายถึงวินคู่กรณี)”

441847

เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมบอกให้พวกตนเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งชายเสื้อเขียว ก็ได้โบกรถจักรยานยนต์รับจ้างอีกคัน เดินทางตามมาที่สถานีตำรวจ

ทั้งนี้ ขณะที่พวกตนอยู่ที่โรงพัก ชายเขียวไม่ได้สำนึกผิดอะไร ไม่มีการขอโทษ ไม่มีการชดใช้ค่าหมูปิ้ง อีกทั้งยังต่อว่าพวกตนว่า “ทำไมไม่ดูร้านให้ดี ผมนี่แหละโดนทำร้าย” เมื่อตนเดินทางกลับมาเก็บร้านรถเข็น วินมอเตอร์ไซค์คันที่ก่อเหตุก็ได้ขับมาหาตน พร้อมกล่าวขอโทษ ยกมือไหว้ และชดใช้ค่าหมูปิ้งที่เสียหายให้ ซึ่งพวกตนก็ได้คิดค่าเสียหายเพียง 100 บาท “พี่ขอโทษนะ มีอะไรเสียหายไหม พี่ทะเลาะวิวาทกัน มีอะไรเสียหายไหม”

นางสุจิตตรา และนายอภิสิทธิ์ ยังเผยด้วยว่า ถนนหน้าซอยอินทามระแห่งนี้ มักพบเห็นรถจักรยานยนต์ไม่ว่าจะรับจ้าง หรือส่วนบุคคลขับขี่บนทางเท้าอยู่เป็นประจำ บางคันถึงกับบีบแตรไล่คนและแม่ค้า ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก พวกตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด แต่วินมอเตอร์ไซค์ได้ยอมรับผิด และมาขอโทษตนแล้ว ซึ่งถือว่ามีน้ำใจมากกว่าชายเสื้อเขียวที่พูดจาไม่ดีใส่คนอื่น

ขณะนี้พวกตนไม่อยากได้ค่าเสียหายใด ๆ จากชายเสื้อเขียว เพียงแต่อยากได้คำ “ขอโทษ” อย่างไรก็ตาม พวกตนขอฝากเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ อย่าทะเลาะกันให้ใครเดือดร้อน อีกทั้งหากเหตุการณ์นี้มีคนมีอาวุธ อาจมีคนได้รับบาดเจ็บและถูกลูกหลง หรือหากเตาถ่านของตนคว่ำ คงมีคนได้รับบาดเจ็บแผลพุพอง

ทีมข่าวทราบมาว่าวินมอเตอร์ไซค์ในคลิป เป็นวินประจำซอยอินทามระ 29 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ภายหลังทราบชื่อ นายนิคม แต่ขณะนี้พบว่าเจ้าตัวได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อไปทำธุระส่วนตัวตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.64 (วันเกิดเหตุ) แล้ว 

292437

ทีมข่าวได้พบกับนายเบียร์ (นามสมมติ) เพื่อนวินของนายนิคม ซึ่งได้ขี่รถผ่านที่เกิดเหตุและได้เข้าไปห้ามนายนิคม เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 มี.ค.64 ที่ผ่านมา นายนิคมได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากไปส่งลูกค้า ต้องยอมรับว่านายนิคม ได้ขับขี่รถบนทางเท้า ถือเป็นความผิดจริง ขณะนั้นคู่กรณีได้กางแขนขวางทาง พร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ซึ่งคู่กรณีพูดจาไม่ดีใส่ พร้อมทำท่าล้วงของในกระเป๋าสะพาย ทำให้นายนิคม คิดว่าคู่กรณีจะหยิบอาวุธหรือไม่ จึงได้เข้าไปต่อยคู่กรณีก่อน กระทั่งสร้างความเสียหายให้กับร้านรถเข็นหมูปิ้ง

ทั้งนี้ตนที่ขับรถผ่านที่เกิดเหตุ แล้วบังเอิญเห็นเหตุการณ์ ก็ได้เข้าไปช่วยห้ามเหตุ ก่อนที่นายนิคมจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมา เพราะไม่อยากจะให้เรื่องบานปลาย ซึ่งหลังจากนั้น นายนิคมก็ได้วนรถกลับไปจ่ายค่าเสียหายให้พ่อค้าแม้ค้าร้านหมูปิ้ง 100 บาท พร้อมขอโทษเรียบร้อยแล้ว

309036

ขณะนี้ นายนิคม มีความเครียด เนื่องจากนายนิคมรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิดที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า อีกทั้งป้ายทะเบียนยังเป็นป้ายขาว เนื่องจากนายนิคม เปลี่ยนรถจักรยานยนต์ที่ใช้รับส่งลูกค้า ทำให้กรมขนส่งได้เข้ามาตรวจสอบ และตักเตือนนายนิคม รวมถึงวินทุกคน

อย่างไรก็ตาม ตนขอชี้แจงในฐานะคนทำมาหากินว่า “วินทุกคนต้องการทำรอบรับส่งลูกค้า เพื่อหาเงิน ปกติไม่เคยประสบปัญหา กระทั่งพบกับชายเสื้อเขียว” แต่ไม่ใช่เฉพาะวินมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ทุกคันก็ล้วนขับขี่บนทางเท้าในเวลาเร่งรีบ จากนี้หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปให้ปากคำ นายนิคม ก็จะให้ความร่วมมือตามขั้นตอน

ทีมข่าวได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ซอยอินทามระ รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ ว่ารู้จักชายเสื้อเขียวหรือไม่ โดยทุกคนล้วนไม่มีใครรู้จัก ทีมข่าวยังได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ขออนุญาตไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ของชายเสื้อเขียว พร้อมบอกว่า ขายเสื้อเขียวถือเป็นผู้เสียหายคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายร่างกายก่อน ไม่มีความผิดและไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ร้านหมูปิ้ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส