หมอปลาบุกหมู่บ้านจับปอบ อึ้งสาวใหญ่ถูกสิงอื้อต้องใช้จมูกไซ้ไล่ ถึงพบความจริง (คลิป)

กรณีบ้านนาเมืองน้อย หมู่ 12 จ.สกลนคร นางระเบียบ อายุ 62 ปี ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ จนต้องออกจากหมู่บ้านมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่เป็นสาววัย 20 และไปทำงานในกรุงเทพฯ เป็นลูกจ้างในหน่วยงานราชการ กระทั่งวัยเกษียณ ได้กลับมาเปิดธุรกิจที่บ้านเกิด พักผ่อนในช่วงสุดท้ายของชีวิต

ทั้งนี้เมื่อกลับเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดได้ 2 ปี คนในหมู่บ้านเริ่มมีอาการผีเข้าสิง จนต้องไปพึ่งหมอธรรม หรือผู้เรียนวิชาธรรม และเชื่อว่าอาการผีสิงเกิดจากหญิงวัยเกษียณคนดังกล่าวเป็นปอบ และเข้าสิงทำร้าย

ล่าสุดวันที่ 22 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ ตั้งอยู่ที่บ้านนาเมืองน้อย หมู่ 12 ต.อากาศ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร อยู่ภายในชุมชน และภายในบ้านเปิดเป็นโรงน้ำแข็ง

นางระเบียบ อายุ 59 ปี ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนอายุ 20 ปี ตนได้คลอดลูกกับหมอตำแย แต่หลังคลอดลูกตนไม่ได้อยู่ไฟ ทำให้ไม่ค่อยสบาย ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าตนไม่ค่อยสบายและเป็นแม่ลูกอ่อนจึงต้องทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ คือ ผูกสายสิญจน์แขน และอาบน้ำมนต์ จากนั้น 3 ปีต่อมาตนได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ เนื่องจากมีปอบเข้าสิงชาวบ้านจำนวนหลายคน และชาวบ้านเหล่านั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียงกันว่าปอบชื่อ "ระเบียบ"

ส่วนใหญ่ปอบจะเข้าสิงผู้หญิงวัยกลางคน จนถึงคนที่อายุเยอะ ๆ แต่จะไม่เข้าเด็ก ซึ่งอาการของคนที่ถูกปอบเข้าจะร้องไห้ และบางคนก็ไม่สบาย โดยหนักสุดคือชาวบ้านได้เอาไม้กับหินมาขว้างปาใส่บ้านของตน จนต้องหลบหนีเหมือนหลบลูกกระสุน แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ตนตัดปัญหาด้วยการย้ายไปที่กรุงเทพฯ และช่วงแรกใช้ชีวิตอย่างลำบากคือต้องอาศัยอยู่ใต้สะพานลอย

ในระหว่างที่ตนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ชาวบ้านก็ยังกล่าวหาว่าตนเป็นปอบ บางคนก็บอกว่าปอบจากร่างของตนได้ขึ้นเครื่องบินมาเข้าสิงชาวบ้านที่นี่ บางส่วนก็กล่าวอ้างว่าปอบมาอาศัยอยู่ที่บ้านของชาวบ้าน และบางครั้งก็บอกว่าปอบติดรถจากคนที่จากรุงเทพฯ มาเข้าสิงชาวบ้าน เพราะทุกครั้งที่ปอบเข้า ปอบจะบอกว่าเป็นป้าระเบียบ

กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนและสามีเข้าสู่วัยเกษียณ อยากมาทำงานที่บ้าน ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องปอบ แต่ทุกคนต้องอดทน และยอมตายที่บ้านดีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยไปหาทั้งหมอผี และพระสงฆ์ เพื่อสอบถามว่ามีปอบเข้าสิงไปหรือไม่ ซึ่งตนไปหามากว่า 100 คน และเสียครั้งละ 1-2 หมื่นบาทจนหมดเงิน แต่ทุกคนต่างยืนยันว่าปอบไม่ได้เข้าสิงตน

เมื่อเดือนที่แล้วลูกชายของนางบึ้ง หนึ่งในคนที่ถูกปอบเข้าสิงได้มาหาตนที่บ้าน และโวยวายว่าตนไปเข้าสิงแม่เขาทำไม ถ้ายังไม่ยอมหยุด ข่มขู่ว่าจะฆ่าตนทิ้ง ตนจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ด้วยเหตุนี้ทุกวันนี้ตนต้องอยู่อย่างหวาดกลัวมาก ตนได้ยินเสียงสุนัขเห่า ตนก็ต้องเปิดประตูมาดู

ทั้งนี้ตนอยากจะขอร้องให้หมอปลาเข้ามาช่วยเหลือ เพราะชาตินี้ตนอยู่อย่างยากลำบาก และอยากจะชุบชีวิตใหม่ อีกทั้งตนอยากจะพิสูจน์ ขอให้หมอปลามาช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ตอนนี้ตนไม่มีที่ไปแล้ว ถ้าจะตายก็ขอตายที่บ้านดีกว่า

เวลา 19.30 น. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อมาพูดคุยกับ นางระเบียบ เจ้าตัวบอกว่า ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน เพราะต้องหนีไปนอนใต้สะพานลอย บางครั้งก็อยากจะผูกคอตาย เพราะทนไม่ไหวแล้ว ส่วนลูกชาย ซึ่งประกอบอาชีพเป็นทหารอากาศ ก็ไม่กล้ากลับมาที่บ้าน เพราะรู้สึกอาย ทุกวันนี้ยังทนอยู่ได้ เพราะสามีคอยให้กำลังใจอยู่ตลอด

จากนั้นหมอปลาได้เดินสำรวจรอบบ้าน ซึ่งมีทั้งหมด 2 ชั้น โดยชั้น 2 ของบ้าน ปล่อยทิ้งไว้ไม่มีใครอาศัยอยู่ ทั้งนี้หมอปลา กล่าวว่า จากการเดินสำรวจ ตนสัมผัสได้ว่า "ไม่มีปอบ" และตนได้แต่กลิ่นหนูตาย หลังจากนั้นหมอปลาได้เดินกลับออกมา และพูดคุยกับชาวบ้านทุกคน เพื่อสอบถามว่า ใครถูกผีเข้าบ้าง และใครคิดว่า นางระเบียบเป็นปอบบ้าง หมอปลาจะได้ช่วยกันแก้ให้ตรงนี้ แต่ไม่มีใครยอมรับ

หลังจากที่หมอปลาได้ทำการสำรวจล้าน และพูดคุยกับชาวบ้าน ทางด้านของ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้นำพา นางเพีย เขื่อนคำนุ หรือ บึ้ง อายุ 52 ปี หนึ่งในผู้ที่อ้างว่าตัวเองถูกเข้าสิง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางระเบียบ ได้เดินทางมาที่บ้านของนางระเบียบ และขณะที่มา ทีมข่าวได้กลิ่นเหล้าคลุ้ง เพราะมีอาการเมาแล้ว

ด้าน นางบึ้ง เปิดเผยว่า ขณะที่ตนถูกปอบเข้า ตนจะไม่รู้ตัว และจะรู้จากพระซึ่งบอกตนเองว่า ปอบที่เข้า คือนางระเบียบ โดยตนดื่มเหล้ามากว่า 5-6 ปีแล้ว

ระหว่างที่หมอปลากำลังสอบถาม นางประเสริฐ อายุ 67 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนางระเบียบ เปิดเผยว่า ตนเคยถูกปอบเข้าสิง และขณะที่ปอบเข้าสิง ตนจะไม่รู้สึกตัว เพิ่งจะมาทราบหลังจากที่ไล่ผีออกว่า ระหว่างที่ผีเข้า ตนได้พูดว่า ตนคือนางระเบียบเช่นกัน ซึ่งตนไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และไม่รู้ว่าอาการเช่นนั้นคืออะไร ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากจะขอให้หมอปลาช่วยดูให้หน่อย ว่าทีปอบเข้าสิงจริงหรือไม่

ทั้งนี้ หมอปลา ได้จับมือของนางเพีย และกล่าวว่า หาปอบไม่เจอ แต่พบว่า นายเพียน่าจะขาดสารอาหาร แนะนำให้กินโปรตีนเยอะ ๆ 

หมอปลา กล่าวว่า จากการสำรวจบ้าน และพูดคุยกับนางระเบียบ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นปอบ แต่ผู้ที่ถูกปอบเข้าสิงตนสังเกตเห็นว่า มักจะเป็นผู้ที่ติดแอลกอฮอล์ ด้วยเหตุนี้ตนจึงขอเสนอวิธีแก้ไข คือ ให้เลิกดื่มเหล้า เพราะอาการปอบเข้าน่าจะเกิดจากแอลกอฮอล์เรื้อรัง หรือบางคนอาจจะมีสารเสพติดตกค้าง 

นอกจากนี้ ตนยังสังเกตเห็นว่า ผู้ที่อ้างเป็นปอบส่วนใหญ่แล้วจะเป็นญาติพี่น้องกัน ซึ่งตนเข้าใจหัวอกของนางระเบียบที่ถูกญาติกล่าวหา และตนไม่ทราบว่า มีปัญหาอะไรกันภายในครอบครัวหรือไม่ แต่อยากจะให้ปรับความเข้าใจ และเห็นใจคนที่ต้องหลบหนีไปอยู่อื่น หลังจากนี้ ถ้าปอบมาเข้าสิงแล้ว ขอให้นางระเบียบเข้าไปแจ้งความทันที เพราะตนเชื่อว่า ปอบกลัวคุกมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากปอบเข้าสิงอีก ขอให้โทรมาหาตน จะนั่งเครื่องบินมาทำพิธีไล่ปอบทันที แต่ตนขอให้ทุกคนทำหน้าที่เป็นหมอผีกันเองก่อน โดยนำธูปจุดไฟแล้วมารนที่เท้า เพราะผีไม่กลัวไฟ แต่หากไม่ใช่ผีจะตกใจกลัวและหนีออกไปเอง

นางระเบียบ กล่าวว่า ตนขอโทษที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ขอให้ทุกคน คิดถึงใจเขาใจเรา เพราะตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นจริง ๆ ตนทุกข์ทรมานมาก และตนรู้สึกคับแค้นใจ เพราะตนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่ว่าตนจะไปที่ไหนก็ไม่มีใครอยากจะคุย

แม้แต่ตนมาขายน้ำแข็ง ชาวบ้านก็กลัวว่า หากกินน้ำแข็งไป ปอบจะไปติดไส้ติดพุง จนทุกคนไม่กล้าซื้อน้ำแข็ง และกลายเป็นว่าสร้างผลกระทบหมด เพราะตนมีหนี้สินที่ต้องจ่าย