จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 16 มี.ค. 64 เวลาประมาณ 20.00 น. ร.ต.อ.อัศวิน หงส์โยธี ร้อยเวร สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุเด็กชายทองนพเก้า สีทา หรือ น้องปอน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านนาค้อ หายตัวไประหว่างทำกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ คาดว่าน่าจะจมน้ำบริเวณหนองน้ำหลังวัดบ้านนาค้อ ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีความลึกประมาณ 3 เมตร พร้อมนำชุดค้นหาใต้น้ำกู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์การกุศล และกู้ภัยร่วมใจจุด อ.ห้วยเม็ก ลงพื้นที่เกิดเหตุ
โดยหน่วยกู้ภัยชุดค้นหาใต้น้ำและทีมประดาน้ำใช้เวลาค้นหากว่า 4 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 23.30 น. จึงพบร่างผู้เสียชีวิต สวมใส่ชุดลูกเสือ เจ้าหน้าที่และแพทย์เวรจึงร่วมกันชันสูตร
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ ในเวลาประมาณ 14.00 น. เด็กชายทองนพเก้าได้หายตัวไประหว่างที่เข้าฐานทางน้ำ ฐานหนีสงคราม จนเวลาเลิกเรียนก็ยังไม่กลับบ้าน ผู้ปกครองจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจและขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อรวมรวมพยานหลักฐาน แล้วจะเรียกสอบพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากความประมาทหรือสาเหตุใด
ล่าสุด วันที่ 17 มี.ค. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมายังบ้านของผู้ตาย สถานที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางบัวลื่น สีทา อายุ 48 ปี แม่ผู้ตาย อยู่ในอารมณ์โกธรจัด โวยวายต่อว่าคุณครูและผู้บริหารโรงเรียน
จับใจความได้ว่า "ทำไมไม่มีเสื้อชูชีพ ไม่มีแนวกั้นน้ำ แม่จะเอาคุณครูออกจากโรงเรียน เอาออกทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ผอ.และครูประจำฐาน ทำไมครูไม่วัดระดับน้ำ ครูต้องติดคุกและได้รับโทษอย่างสาสม"
นางบัวลื่น กล่าวว่า วานนี้ลูกชายได้เข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือของโรงเรียนตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งช่วงเที่ยงที่ลูกชายกลับมาจากกิจกรรมเดินทางไกลแล้วกลับมาอาบน้ำที่บ้าน ตนจึงได้ใช้ให้ลูกชายออกไปซื้อน้ำแข็ง ไม่นานตนกับลูกชายก็ได้ยินเสียงนกหวีดดังขึ้น ครูเรียกรวมตัวลูกชายตนจึงรีบวิ่งไปยังข้างบ่อน้ำของโรงเรียน ทุกปีที่ลูกชายตนเข้าร่วมกิจกรรม ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่ากิจกรรมลูกเสือมีการลงบ่อน้ำ ลูกชายตนเป็นคนกลัวน้ำ เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น แค่เห็นบ่อน้ำหรือสระน้ำลูกชายตนก็จะบอกว่ากลัว
กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ตนได้ยินเสียงคุณครูประกาศว่า "นักเรียนเลิกสนุกได้แล้ว ได้เวลาขึ้นแล้ว ช่วยคุณครูเก็บเต็นท์เก็บฐานด้วย" ต่อมาในเวลา 15.30 น. ลูกชายของตนก็ยังไม่กลับบ้าน ทั้งที่บ้านของตนห่างจากโรงเรียนแค่ 350 เมตร ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปที่โรงเรียน บอกกับผู้อำนวยการโรงเรียนและครูก๊อต ครูประจำฐาน 5 ฐานหนีสงครามว่าลูกชายของตนหาย คุณครูบอกว่าลูกชายตนน่าจะเก็บเต็นท์อยู่ หรืออาจจะไปกินเลี้ยงกับเพื่อน ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่หาลูกชายตามบ้านเพื่อนจนทั่วหมู่บ้าน แต่ก็ไม่พบตัว จึงเดินทางกลับมาที่โรงเรียนอีกครั้ง แต่ครูกลับบอกว่าไม่พบเห็นลูกชายของตนขณะเก็บเต็นท์ ตนจึงแจ้งความกับตำรวจ
จากนั้นหน่วยกู้ภัยก็ได้มาช่วยกันคนหาร่างของลูกชายในน้ำ พบว่าจมน้ำอยู่ห่างจากขอบบ่อประมาณ 2 เมตร ตนไม่ได้ไปดูปฏิบัติการการค้นหา ตนนั่งรอความหวังอยู่ที่บ้าน แต่ก็ต้องใจสลายเมื่อทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิต ขณะนั้นตนนั่งตัวเกร็งชาไปทั้งตัว พูดอะไรไม่ถูก
ตนยอมรับว่าตนโกธร โรงเรียนไม่ได้อธิบายกับตน เพียงบอกว่ายอมรับผิด ตนคิดว่าเป็นการแก้ตัว เนื่องจากทางโรงเรียนต้องตรวจสอบจำนวนเด็กให้ดีทุกคน อีกทั้งรองเท้าเตะของลูกตนยังได้ถอดวางอยู่ข้างบ่อน้ำ เป็นรองเท้าเพียงคู่เดียวที่วางอยู่ ทำไมคุณครูไม่เอะใจ ตนขอถามถึงความใส่ใจและความรอบคอบของคุณครูและโรงเรียน อยากให้คุณครูที่รับผิดชอบฐานกิจกรรมลูกเสือจุดที่ลูกของตนที่เสียชีวิตต้องออกจากราชการ ตนไม่ต้องการการเยียวยา เชื่อว่าลูกของตนไม่น่าลงไปเล่นน้ำเอง เนื่องจากลูกของตนว่ายน้ำไม่เป็น ตนเชื่อว่าคุณครูไม่ได้ตรวจสอบระดับน้ำและไม่ได้ถามเด็กว่าใครว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่ จึงทำให้ลูกของตนเกรงใจครูและตามเพื่อน ๆ ลงน้ำไป
นายเอสโซ่ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เพื่อนของผู้ตาย ที่พบเห็นผู้ตายเป็นคนสุดท้าย เล่าว่า ปกติผู้ตายเป็นคนนิสัยดี แต่เป็นคนกลัวน้ำ เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็น เวลาเพื่อน ๆ ชวนไปเล่นน้ำ ผู้ตายก็จะไม่ไป แต่หากมีกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือแล้วต้องลงน้ำ ผู้ตายถึงจะลงเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ โดยเมื่อวานนี้ตนขอยืนยันว่าคุณครูไม่ได้บังคับให้ใครลงเล่นน้ำในบ่อ คุณครูแต่ละฐานจะบอกก่อนเริ่มกิจกรรมว่าหากใครไม่พร้อมก็ไม่ต้องเล่น เพราะฐาน 4 5 6 เป็นฐานในน้ำ
ทั้งนี้ ในฐานที่ 4 ชื่อฐาน "บัวตูมบัวบาน" ตนเห็นผู้ตายลงน้ำบริเวณขอบบ่อ จากนั้นตนได้พบเห็นผู้ตายครั้งสุดท้ายในฐานที่ 5 ซึ่งเป็นฐานหนีสงคราม ตนเห็นผู้ตายยืนอยู่บริเวณขอบบ่อ ก่อนที่ตนจะวิ่งลงน้ำ แล้วตนก็ได้หันหน้าไปอีกทาง ทำให้ตนไม่เห็นผู้ตายอีก หลังจากที่ตนขึ้นมาจากน้ำก็ไม่ได้สังเกตผู้ตาย เนื่องจากคนเยอะแล้วต้องรีบเปลี่ยนไปเข้าฐานที่ 6 กระทั่งจบกิจกรรมแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ตายจะลงไปเล่นน้ำในจุดน้ำลึก เนื่องจากผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็น ตนไม่โกธรหรือกล่าวโทษใครกับเห็นการนี้ ตนคงพูดได้เพียงว่าเสียใจมาก นอกจากนี้ ปกติทุกปีผู้ตายก็จะเล่นฐานลูกเสือทุกฐาน และสนุกกับเพื่อนในการเล่นน้ำ แต่ทุกปีที่ผ่านมาน้ำในบ่อจะไม่สูงมากเท่าปีนี้
นายสุนทรา กุลาสา อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาค้อวิทยาคม ชี้แจงว่า กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมประจำปีการศึกษา โดยจะจัดขึ้นทุกปี ตามหลักสูตรที่ถูกกำหนดไว้ เพื่อเพิ่มพูนทักษะประสบการณ์ของนักเรียน โดยเมื่อวานนี้ กิจกรรมลูกเสือมีเด็กเข้าร่วมประมาณ 80 คน เป็นลูกเสือสามัญและสามัญรุ่นใหญ่ (ป.4-ม.3) ซึ่งกิจกรรมลูกเสือจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า เป็นกิจกรรมเดินทางไกล จัดกิจกรรมแยกกันระหว่างลูกเสือสามัญ และสามัญรุ่นใหญ่
จากนั้นในช่วงบ่าย จะเป็นกิจกรรมฐานผจญ ซึ่งจะรวมลูกเสือทั้งหมด คละรุ่นแบ่งออกเป็น 6 หมู่ มีทั้งหมด 6 ฐาน ได้แก่ 1.กล่าวคำปฏิญาณ 2.เงื่อน 3.ปิดตาไต่เขา 4.บัวตูมบัวบาน 5.หนีสงคราม 6.ลำเรียงน้ำมัน ขอยืนยันว่าไม่มีการบังคับให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรม หากใครไม่พร้อม โรงเรียนก็ไม่บังคับ
ทั้งนี้ กิจกรรมฐานผจญภัยลูกเสือถูกจัดขึ้นทุกปีที่บ่อน้ำที่เกิดเหตุ ระดับน้ำลึกจะค่อย ๆ สูงขึ้นจากขอบบ่อ มีความลึกสูงสุดเพียง 3 เมตร ในอนาคตโรงเรียนต้องพิจารณาว่าถึงหลักสูตรและความปลอดภัยของนักเรียนให้มากกว่านี้ ขณะนี้ทางต้นสังกัดของโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคุณครูทั้งหมด 12 คน มี 6 ฐาน ฐานละ 2 คน รวมถึงตนรวมเป็น 13 คนแล้ว
ส่วนการเยียวยาครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต เบื้องต้นทางโรงเรียนได้รวบรวมเงินนำไปมอบให้ครอบครัวของนักเรียนแล้ว 50,000 บาท หลังจากเสร็จสิ้นงานศพแล้ว ทางโรงเรียนจะพูดคุยกับผู้ปกครองอีกครั้ง
ครูก๊อต ครูประจำฐานที่ 5 ฐานหนีสงคราม มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด บอกว่า ตนเป็นครูประจำฐานหนีสงคราม ซึ่งก่อนที่จะลงบ่อน้ำ จะบอกนักเรียนตลอดว่าหากไม่พร้อมก็ไม่ต้องลงน้ำ ใครว่ายน้ำไม่เป็นหรือมีประจำเดือนก็ไม่ต้องลงน้ำ จากนั้นเมื่อลูกเสือลงน้ำแล้ว ตนก็จะโยนก้อนโคลน เป็นระเบิดลงไปในน้ำ ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าตนไม่ได้นับจำนวนนักเรียนขณะเข้าฐาน เนื่องจากคุณครูจะนับยอดนักเรียนในช่วงก่อนเริ่มกิจกรรมฐานผจญภัย ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. จากนั้นจะนับยอดอีกครั้งก่อนจะปล่อยนักเรียนกลับบ้านในเวลาประมาณ 15.00 น. โดยนักเรียนเพียงเข้ามารายงานตัว และเมื่อทำกิจกรรมเสร็จก็จะกล่าวลาแล้วรีบไปเข้าอีกฐานหนึ่ง ซึ่งกิจกรรมแต่ละฐานจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที โดยเมื่อลูกเสือเข้ารวมครบทุกฐานแล้ว ลูกเสือต่างขอล้างตัวในบ่อน้ำกันก่อนประมาณ 10 นาที จากนั้นทุกคนก็ได้ขึ้นจากน้ำมาเข้าร่วมพิธีปิดกิจกรรม
ทั้งนี้ ยอดของนักเรียนก่อนและหลังกิจกรรมนั้นเท่ากัน เนื่องจากมีนักเรียนชายคนหนึ่งได้แอบมาเข้าร่วมกิจกรรมฐาน ทำให้ยอดนักเรียนนั้นต่อให้สูญหายไปคนหนึ่ง ยอดก็จะไม่เปลี่ยนแปลง คุณครูจึงปล่อยนักเรียนทุกคนกลับบ้าน ที่ต้องใช้วิธีนับจำนวนเช่นนี้ เนื่องจากจำนวนนักเรียนมีจำนวนมาก 80 คน การนับยอดจึงง่ายต่อการควบคุม ตนยืนยันว่าตนมองดูนักเรียนอยู่ตลอดที่ทำกิจกรรม ไม่พบเห็นใครจมน้ำ ตนเข้าใจที่ผู้ปกครองเพ่งเล็งมาที่ตน ตนไม่โกธรและไม่ว่าผู้ปกครอง
ทีมข่าวได้ทดลองลงน้ำ พบว่าลงน้ำไปเพียง 2 เมตร ระดับน้ำจะสูงประมาณ 50 เซนติเมตร จากนั้นเมื่อทีมข่าวเดินลงไปบึกกว่านั้นห่างจากขอบบ่อประมาณ 3-5 เมตร พบว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ลึกถึงระดับคอ
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าต้องดูหลักฐานเพื่อเตรียมแจ้งข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดนต้องพิจารณาถึงความประมาท ละเลยความปลอดภัย อาทิ ระดับน้ำ ไม่มีเสื้อชูชีพ และไม่สนใจว่าผู้ตายว่ายน้ำเป็นหรือไม่ และไม่มีการตรวจสอบจำนวนเด็กในความดูแล อีกทั้งยังไม่มีเชือกแนวกั้นห้ามเข้าน้ำลึก