ไม่เหมือนซีรี่ส์! สาวบินเกาหลีเปิดใจ ถูกตม.กักตัว โวยเป็นนักท่องเที่ยวแต่ทำเยี่ยงนักโทษ (คลิป)

17 พ.ค. 60
โลกออนไลน์แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Punnabhat Sri ซึ่งเล่าประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจ ขณะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเพื่อนอีก 6 คน โดยระบุว่า เธอถูกกักตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และถูกส่งตัวกลับประเทศไทยในที่สุด ไม่ได้เที่ยวเกาหลีใต้ตามที่ตั้งใจไว้

  ล่าสุด วันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ปัณณณ์พัศ ศรีสวัสดิ์ หรือ ปันปัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชีดังกล่าว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนได้เดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ พร้อมเพื่อนอีก 6 คน โดยวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวไว้ประมาณ 8 วัน และเตรียมตัวเรื่องการเดินทางไว้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟต์เครื่องบินการบินไทย ไป-กลับ, ที่พัก, ตั๋วรถไฟในกรุงโซล, ตั๋วเข้าสวนสนุกที่จองล่วงหน้า รวมถึงข้อมูลที่เที่ยวต่างๆ ไว้เรียบร้อย ปัณณณ์พัศ เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00น. ตนได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ก็ได้เดินเข้าสู่จุดตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ โดยเดินแยกช่องกับเพื่อนที่มาด้วยกัน จนมาถึงจุดตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ของประเทศเกาหลีใต้ ก็ถามตนว่า สาเหตุที่เดินทางมายังประเทศเกาหลีใต้นั้น มาเพื่อทำอะไร ตนก็ตอบไปว่ามาเที่ยว พร้อมกับยื่นหนังสือเดินทาง ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตรวจ แต่เจ้าหน้าที่กลับพับพาสปอร์ตของตน แล้วกดปุ่มเรียกให้เจ้าหน้าที่อีกฝ่าย มารับตนไปยังห้องข้างใน ซึ่งตอนนั้น เพื่อนๆ ที่มาด้วยกัน สามารถผ่านด่านตรวจไปได้แล้ว 3 คน ส่วนอีก 3 คน ก็กำลังต่อแถวเข้าตรวจตามปกติ
ปัณณณ์พัศ ศรีสวัสดิ์
ปัณณณ์พัศ เล่าต่อว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่พาตนเข้าไปในห้องหนึ่ง ก็ได้ถามคำถามเดิมๆ เช่น มาทำอะไร มากับใคร มากี่คน มีเงินเท่าไหร่ ซึ่งตนก็ได้แสดงหลักฐานที่มีให้กับทางเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้ตนเข้าไปรอในห้อง โดยระหว่างนั้นเอง ตนเห็นคนไทยด้วยกันนั่งอยู่ด้วยภายในห้องอีก 5-6 คน จากนั้นก็มีเอกสารที่มีคำถามเดิมมาให้กรอกอีก เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก คนไทยที่ถูกจับเข้ามาภายในห้องเพิ่มขึ้นประมาณ 100 คน ทำให้บรรยากาศในห้องค่อนข้างอึดอัดมาก ระหว่างที่อยู่ในห้องดังกล่าว คุณปัณณณ์พัศ บอกด้วยว่า ตนได้คุยกับป้าคนหนึ่งที่โดนกักตัวเอาไว้เช่นกัน โดยป้าคนนั้นบอกว่า เดินทางมาเที่ยวพร้อมกับทัวร์ แต่กลับโดนกักตัวอยู่ภายในห้องนี้มา 3 วันแล้ว และบริษัททัวร์ไม่มาดูแลหรือติดต่อเพื่อช่วยเหลือเลย ทั้งนี้ ระหว่างที่กำลังพูดคุยกับป้าคนดังกล่าว ก็มีเจ้าหน้าที่มาได้เรียกตนไปสัมภาษณ์อีกห้อง ซึ่งในห้องนั้น เจ้าหน้าที่ให้คุยโทรศัพท์กับล่ามภาษาไทย เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โดยระหว่างที่ตนเข้าไปนั่งคุยตามห้องที่เจ้าหน้าที่พาไป ก็ได้เตรียมหยิบเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด รวมถึงแผนการเดินทางที่ทำไว้กับเพื่อนก่อนหน้านี้ แต่ปรากฏว่า ทางเจ้าหน้าที่ ตม. ของประเทศเกาหลี กลับตรงเข้ามากระชากเอกสารทั้งหมดออกจากมือและยึดไว้ โดยล่ามคนไทยที่คุยโทรศัพท์กับตน บอกกับตนว่า “ถ้าคุณมาเที่ยวจริง คุณก็ต้องตอบได้ว่าจะไปไหนบ้าง แต่นี่เป็นแผนการเดินทางที่เพื่อนของคุณเตรียมมา และคุณก็รู้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อมูลการเดินทางในประเทศเกาหลีใต้บางส่วนที่ได้เตรียมไว้
คุณปัณณณ์พัศ บอกอีกว่า ล่ามคนไทยที่คอยแปลภาษาให้ พูดกับตนแบบใส่อารมณ์ตลอดเวลา และประโยคที่ตนรู้สึกว่าเป็นการดูถูกมากที่สุดก็คือ “จะกินปิ้งย่าง กินที่ไทยก็ได้ไม่ต้องมาเกาหลี” ก่อนบอกว่า ตนไม่มีคุณสมบัติเข้าประเทศเกาหลี และต้องเดินทางกลับประเทศไทยทันที จากนั้น คุณปัณณณ์พัศ บอกว่าเธอถูกส่งตัวกลับประเทศโดยสายการบินไทย ซึ่งทางสายการบินก็คอยดูแลและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยเดินทางไปที่กรุงโซล แต่เคยไปที่กรุงเชจูมาแล้ว และเคยมาพักเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ระหว่างที่เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ คุณปัณณณ์พัศ บอกด้วยว่า มันไม่เหมือนในละครหรือซีรีส์เกาหลี ที่เมื่อรับชมแล้วก็เกิดความรู้สึกดีๆ ทำให้อยากเข้าไปเที่ยว แต่เมื่อมาเจอสถานการณ์เช่นนี้ ก็คงคิดว่าคงจะไม่กลับมาเที่ยวที่ประเทศเกาหลีอีกแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรอีก ซึ่งครั้งนี้ ตนตั้งใจเดินทางเพื่อมาท่องเที่ยว แต่กลับถูกปฏิบัติตนราวกับเป็นนักโทษ เพราะถ้านับเวลาคร่าวๆ ที่ตนถูกกักตัวอยู่ในห้องนั้น ก็ประมาณ 12-13 ชั่วโมง แม้แต่ข้าวก็ไม่มีให้กิน มีแค่ขนมปัง 2 ก้อน กับน้ำอัดลมกระป๋อง ซึ่งบางคนถูกกักตัวอยู่นาน 2-3 วัน ก็ได้กินเพียงแค่ขนมปังกับน้ำกระป๋องเท่านั้น
พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ด้าน พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหามาหลายปีแล้ว โดยเมื่อ ปี 2559 พบว่าคนไทยถูกกักตัว ไม่ให้เข้าประเทศ และถูกส่งกลับจำนวน 30,000 คน ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเข้มงวดของทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ เพราะมีประเด็นที่สำคัญ คือ ไทยมีการลงนามสัญญาระหว่างประเทศร่วมกัน คือไม่ต้องขอวีซ่าในการท่องเที่ยว แต่ละครั้งเดินทางท่องเที่ยวได้นาน 90 วัน นอกจากนี้ คนไทยส่วนใหญ่อยากทำงานที่เกาหลีใต้ และบางครั้งอยู่เกินกำหนด ทางสำนักงานเกาหลีใต้จึงมีการตรวจสอบที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจว่าไปท่องเที่ยวจริงไหม หรือว่าลักลอบเข้าไปทำงาน สำหรับการปฏิบัติต่อคนไทยที่ถูกกักตัวที่บางคน ไม่ได้ดื่มน้ำ หรือไม่ได้รับประทานอาหารนานหลายชั่วโมง รวมถึงบางคนก็ติดค้างหลายวันกว่าจะได้เดินทางกลับไทย ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงสถานทูตของทั้ง 2 ประเทศทราบมาก่อนนี้แล้ว และได้ทำการพูดคุยกันแล้ว รวมถึงได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้มาโดยตลอด ไทยเองก็พยายามเคลื่อนไหวต่อประเด็นดังกล่าวต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไร เรื่องนี้จึงอยู่ในดุลยพินิจของทางประเทศเกาหลีใต้ด้วย ส่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทำได้เพียงในกรอบหน้าที่ที่สามารถทำได้ แต่คาดว่ากระทรวงต่างประเทศ คงจะต้องประสานงาน ไปยังสถานทูตไทยที่ประเทศเกาหลีใต้อีกครั้ง เพื่อให้ดูแลคนไทยที่ถูกกักตัวไว้ อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า สถิติการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับเกาหลีใต้นั้น จะพบว่า ตัวเลขคนไทยที่ไปท่องเที่ยวเกาหลี อยู่ที่ 300,000 คน แต่ตัวเลขชาวเกาหลีเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย มากกว่าถึง 4 เท่าของนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเกาหลี คือราว 1,200,000 คน  ซึ่งไทยเองได้ปฏิบัติต่อคนเกาหลีตามระเบียบ และอำนวยความสะดวกให้เต็มที่ ก็อยากให้ทางเกาหลีดูแลคนไทยเช่นกัน แต่ทั้งนี้เข้าใจว่าความเข้มงวดที่เกิดขึ้นนั้นเพราะว่ามีประเด็นในเรื่องการลักลอบเข้าทำงาน ซึ่งผิดกฎหมายประเทศเกาหลีใต้อยู่แล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ