เปิดนาทีมรณะตำรวจซื้อน้ำมันเผาร่างเมีย ญาติเผยปมแบกหนี้เปิดร้านให้สุดท้ายถูกทิ้ง (คลิป)

15 มี.ค. 64

กรณี ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ก่อเหตุฆ่าน.ส.ธัญญ์นิศา วิชนันท์คุณนิธิ อายุ 40 ปี แฟนสาว โดยใช้หมอนกดจมูกจนสิ้นใจ จากนั้นได้นำศพใส่กระเป๋าเสื้อผ้าขนาดใหญ่ แล้วนำใส่รถกระบะไปเผาบริเวณซอย รร.วิเชียรกลิ่นสุคนธ์ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้ยางรถยนต์ 2 เส้นจุดไฟเผาจนเหลือแต่กระดูก จากนั้นได้นำกระดูกที่เหลือใส่ถุงเดินทางมาทิ้งที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณกลางสะพานอโยธยา ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา

494512

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อำมหิต "ส.ต.อ" ฆ่าแฟนสาวซ่อนศพเผานั่งยาง ตีหน้าซื่อตามหา ญาติไม่เชื่อทำคนเดียว
- จับแล้ว! ผัวตำรวจฆ่าเผาเมียสุดโหด หมอนอุดปากให้สิ้นลม - แม่แฉภาพลูกถูกซ้อม

955763

วันที่ 15 มี.ค. 64 เวลา 09.00 น. นางภาวิณีย์ สุภศรี อายุ 63 ปี แม่ผู้ตายพร้อมญาติทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ตายที่ห้องพักตำรวจจุดเกิดเหตุ โดยพระสงฆ์ 1 รูป จุดธูปเขียนชื่อผู้ตายในผ้าขาว พร้อมวางอาหารคาวหวานกลางแจ้ง

680520

นางภาวิณีย์ ระบุว่า วันนี้ไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณเพื่อมาประกอบพิธีทำบุญตามศาสนา รวมถึงคืนนี้จะเริ่มจัดงานศพ และสวดอภิธรรมเป็นคืนแรกแม้จะยังไม่ได้รับกระดูกมาจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หลังจากนี้จะปรึกษากันอีกครั้งว่าหากได้กระดูกมาจะทำพิธีเผาหรือรอความคืบหน้าทางคดีก่อน เนื่องจากญาติยังคลางแคลงใจไม่เชื่อว่า ส.ต.อ.ปิยะ จะก่อเหตุคนเดียว รวมถึงมีข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าช่วงที่เผาเห็นคน 2 คนอยู่ในที่เกิดเหตุ

706027

นอกจากนี้ ตนไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะพลั้งมือตามที่กล่าวอ้าง เชื่อว่าวางแผนและเตรียมการมาแล้ว ที่ผ่านมา ส.ต.อ.ปิยะ มักจะบอกตนว่าหึงฝนที่ชอบคุยกับผู้ชายคนอื่น ทั้งที่บางคนก็เป็นลูกค้าหรือคนรู้จักกัน ตนก็เตือนว่าหากไม่สบายใจก็ขอให้แยกกันไป กระทั่ง 1-2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 คนทะเลาะกัน ส.ต.อ.ปิยะ ต่อยลูกสาวตนจนตาเขียวช้ำ ลูกสาวจึงขอแยกทาง โดยฝ่ายชายน่าจะย้ายไปนอนที่อาคารฝึกสุนัข ส่วนลูกสาวยังนอนอยู่ที่บ้านพักตำรวจ แต่ฝ่ายชายยังคอยตามลูกสาวตนตลอด เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนบอกตนเองว่าตามดูลูกสวตน มั่นใจว่าฝ่ายชายพยายามง้อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จจึงก่อเหตุดังกล่าว

491652944298

โดยในระหว่างทางที่นายปิยะได้มุ่งหน้าไปยัง อ.วังน้อย แวะปั๊มน้ำมันเพื่อซื้อน้ำมันดีเซล 5 ลิตร ราคา 100 บาท โดยภาพกล้องวงจรปิดในปั๊มสามารถจับภาพนายปิยะเดินถือขวดน้ำเปล่า 5 ลิตรมาเติมน้ำมัน โดยใช้ระยะเวลาจาก สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เดินทางประมาณ 40 นาที ด้วยระยะทาง 26 กม. จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ ใช้เวลา 10 นาที ด้วยระยะทาง 8 กม. แล้วลงมือเผานั่งยาง

206798

ล่าสุด เจ้าหน้าที่คุมตัวไปทำแผนฯ คืนก่อนที่ ส.ต.อ.ปิยะ จะรับสารภาพ โทรมาหาแม่บอกว่า "รักแม่นะ จะอยู่เพื่อแม่" แต่แม่ไม่ได้สงสัย คิดว่าลูกชายอาจจะหายไป เพราะต้องไปฝึกหน่วยพิเศษ ซึ่งใช้เวลานานเป็นปี

239316

ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณบ้านพักตำรวจ เพื่อนข้างห้องของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนตื่นตั้งแต่เวลา 04.00 น. ก่อนอาบน้ำแต่งตัวออกมาทำงาน ซึ่งขณะนั้นไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ หลังจากนั้นตนทราบว่า น.ส.ธัญญ์นิศา หรือ ฝน หายตัวไปไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาช่วงเช้าตนเจอ ส.ต.อ.ปิยะ ที่บริเวณบ้านพัก ถามอีกฝ่ายว่า "เป็นไง เจอเมียหรือยัง" อีกฝ่ายตอบตนว่า "ยังไม่เจอ" ด้วยท่าทีปกติ กระทั่งช่วงค่ำทราบว่าอีกฝ่ายถูกจับกุมและรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าเมียตัวเอง

ทั้งนี้ ส.ต.อ.ปิยะ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่เกิดเหตุได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ที่ผ่านมาก็เห็นเจ้าตัวกับภรรยารักกันดี ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกัน กระทั่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทราบว่ามีปัญหากัน หลังเกิดเหตุ 1-2 วัน ส.ต.อ.ปิยะ เล่าให้ตนฟังว่าทะเลาะกับเมีย หลังจากนั้นตนก็ไม่ค่อยเห็นอีกฝ่ายกลับมาที่ห้องพัก เจอแต่ น.ส.ฝน มากับลูกน้อง คาดว่าอาจจะงอนกันแล้วแยกกันอยู่ จนมาเกิดเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ ตนเคยฝึกร่วมกับ ส.ต.อ.ปิยะ เจ้าตัวนิสัยดี ไม่ได้ทำตัวกร่างหรืออารมณ์ร้อน แต่เรื่องในครอบครัวตนไม่ทราบ

214800

น้าสาวของ ส.ต.อ.ปิยะ ระบุว่า แม่ของนายปิยะป่วย เพิ่งผ่าตัดสมอง และกำลังรักษาตัวอยู่ในบ้าน ต้องจ้างพยาบาลดูแล ซึ่งตอนนี้ครอบครัวช่วยกันปกปิดข่าว เพราะกลัวอาการจะทรุดหนัก ส่วนกรณีที่เกิดเหตุ ตนเคยเจอฝ่ายหญิงเมื่อต้นปี 2563 ช่วงที่อีกฝ่ายกำลังจะเปิดร้านคาราโอเกะ แต่เงินไม่พอ จึงยืมเงินตนไปจำนวน 42,000 บาท หลังจากนั้นหลานชายยังมายืมเงินญาติอีกหลายครั้งรวมกัน มากกว่า 100,000 บาท

168381

นอกจากนี้ ยังทราบว่าหลานชายไปกู้เงินสหกรณ์ตำรวจ แต่ตนไม่ทราบจำนวนเงิน กู้มาเพื่อให้ฝ่ายหญิงใช้เปิดร้านคาราโอเกะ
ซึ่งตนก็ให้เงินหลานชายตนมาตลอด แต่ช่วงหลังตนสังเกตว่าฝ่ายหญิงเปิดร้านคาราโอเกะรายได้ดี แต่ไม่เคยคืนเงินเลย ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาตนจึงเลิกให้เงินหลาน รวมถึงสั่งญาติทุกคนในบ้านว่าห้ามให้เงินหลาน เพื่อจะได้พิสูจน์ว่าฝ่ายหญิงเป็นคนอย่างไร เข้ามาหลอกหลานชายหรือไม่ หลังจากนั้น หลานชายก็ไม่มีเงิน คาดว่าฝ่ายหญิงจึงพยายามตีตัวออกห่าง ซึ่งหลานก็น่าจะเริ่มรู้ตัวและเริ่มสืบเรื่องฝ่ายหญิง แล้วเกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงก่อเหตุดังกล่าว ตนยืนยันหลานชายเป็นคนดี อ่อนโยน ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายน่าจะเป็นอารมณ์หึงหวง เพราะหลงฝ่ายหญิงมาก

625352

นายกาย (นามสมมติ) เพื่อนผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของ ส.ต.อ.ปิยะ หลังเรียนจบก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่มีพูดคุยกันในแชตเฟซบุ๊กบ้าง ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมปี 2563 ส.ต.อ.ปิยะ เริ่มทักมาขอยืมเงินตน ครั้งแรกจำนวน 500 บาท หลังจากนั้น ยังทักมาขอยืมอีก 2,500 บาท และครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ ทักมายืมอีก 2,000 บาท  โดยเพื่อนบอกว่าเงินไม่พอใช้ เพราะถูกตัดเงินเดือนไปเกือบหมด ตนจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะเป็นหนี้สหกรณ์ตำรวจ จึงถูกหักเงินเดือน

กระทั่งมาทราบข่าวเรื่องที่เพื่อนก่อเหตุฆ่าแฟนตัวเองตนตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ ตนไม่รู้จักฝ่ายหญิงมาก่อน แต่เท่าที่พูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนเก่าพบว่า ส.ต.อ.ปิยะ ทักไปขอยืมเงินเพื่อนหลายคนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีเพื่อนรายหนึ่งที่ทราบเรื่องระบุว่า ส.ต.อ.ปิยะ กู้เงินสหกรณ์ตำรวจเพื่อนำไปเปิดร้านให้ฝ่ายหญิง แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นร้านคาราโอเกะตามที่มีข่าวหรือไม

676296119012

ขณะที่บนเฟซบุ๊กของ ส.ต.อ.ปิยะ โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 63 เป็นภาพขณะตัวเองยืนถือปืน ข้อความว่า "ทิ้งอดีต อยู่กับปัจจุบัน เรียกตัวตนที่หายไปกลับมา แล้วเราจะเป็นตัวเอง", วันที่ 20 ก.ค. 63 ระบุว่า "ไปให้ถึงฝัน ไปให้ถึงจุดหมาย ไม่เกี่ยงวิธีการ ใครขวางทางเขี่ยทิ้งให้หมด"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส