กรณีพนักงานสอบสวน สภ.สามควายเผือก จ.นครปฐม ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่ามีคนถูกยิง ถูกส่งตัวมารักษาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน ทราบชื่อผู้ตายคือ นายเรวัฒน์ อุ่นวัฒนะ อายุ 44 ปี มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงขนาด .32 เข้าที่คางขวา 1 แผล โหนกแก้มซ้าย 2 แผล ขมับหลังซ้าย 1 แผล แก้มซ้ายใต้ตา 1 แผล หัวไหล่ซ้าย 2 แผล หลังซ้าย 2 แผล ไหล่ซ้าย 2 แผล รวมทั้งหมด 11 แผล
วันที่ 6 มี.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 2 ต. ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม พบว่ามีรอยเลือดบางส่วนติดอยู่บนถนนหน้าร้านดังกล่าว
นางปราณี มัจฉาชุม อายุ 64 ปี ป้าผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อวานช่วงเย็น นายเรวัฒน์นั่งกินข้าว เมื่อกินเสร็จเจ้าตัวบอกว่าจะเอาแกงไปให้ลูกที่บ้าน น.ส.ปุ้ย ผู้เป็นภรรยา ก่อนขับรถจักรยานยนต์ออกไป หลังจากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. มีชาวบ้านมาบอกว่าหลานชายถูกยิงเสียชีวิต ตนตกใจมาก ส่วนตัวทราบว่าหลานชายน่าจะมีปัญหาครอบครัว เนื่องจากเคยได้ยินคุยโทรศัพท์แล้วมีปากเสียงกัน แต่ไม่รู้ว่าคุยกับใคร ตนเคยเตือนหลานว่าอย่าไปยุ่ง เดี๋ยวจะถูกยิงตาย เพราะคิดว่าอาจจะมีเรื่องการหึงหวงกัน
ทั้งนี้ หลานชายแยกมาอยู่ที่บ้านของตัวเองได้ประมาณ 1 ปีเศษ แต่ยังไปมาหาสู่กับภรรยา ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเลิกกันตามที่มีข่าว โดยผู้ก่อเหตุตนไม่รู้จัก แต่คิดว่าภรรยาของหลานชายรู้ดี ซึ่งหลานอาจจะไปเห็นภาพบางอย่างทำให้โกรธแล้วมีเรื่องกัน โดยภรรยาของหลานอ้างว่าหลานตนถีบผู้ก่อเหตุก่อน อีกฝ่ายจึงชักปืนยิง ซึ่งตนก็คิดว่าไม่น่าจะทำกันขนาดนี้
น.ส.โบว์ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ลูกสาวคนโตของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 16.30 น. พ่อแชตมาหาตนทางเฟซบุ๊ก ลักษณะเป็นลางว่า "ฝากดูแลน้องด้วย" ตนจึงบอกไปว่า "อย่าทำอะไรที่มันไม่ดี" หลังจากนั้นพ่อก็เงียบหายไป จนเวลาประมาณ 18.00 น. แม่โทรศัพท์มาบอกว่าพ่อถูกยิง ตนจึงรีบนั่งรถกลับมาจากกรุงเทพฯ และตามไปที่โรงพยาบาล พบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว
โดยแม่กับพ่อตนแยกทางกันมาประมาณ 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาพ่อก็ยังไปที่บ้านแม่เพื่อไปหาตนกับน้องสาว ซึ่งแม่เล่าให้ฟังคร่าว ๆ ว่า พ่อทะเลาะกับนายอภิชา ผู้ก่อเหตุ ก่อนที่นายอภิชาจะชักปืนยิงจนพ่อของตนเสียชีวิต โดยตนไม่ทราบเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น แต่รู้ว่านายอภิชา มักจะมาทำผมที่ร้านแม่เป็นประจำ ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง คาดว่าพ่อน่าจะเห็นว่ารถกระบะของนายอภิชามาจอดหน้าร้านเป็นประจำในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงอาจจะสงสัยว่าเป็นรถของใคร จากนั้นได้ไปเจอผู้ก่อเหตุอยู่ในร้านเสริมสวยจึงมีปากเสียงกันแล้วเกิดเหตุดังกล่าว
ซึ่งพ่อกับแม่ของตนทะเลาะกันเป็นประจำ แต่ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องผู้ชายคนนี้ พ่อกับแม่ตนแยกทางกันและชัดเจนว่าต่างคนต่างอยู่ แต่พ่ออาจจะยังห่วงใยแม่อยู่ และต้องติดต่อกันเรื่องลูก ทั้งนี้ พ่อของตนแขนขวาใช้งานไม่ได้ เพราะเคยเกิดอุบัติเหตุ คิดว่าอีกฝ่ายทำเกินไป เนื่องจากพ่อตนไม่มีทางสู้อยู่แล้ว นอกจากนี้ตนกังวลเรื่องคดี เพราะหลังเกิดเหตุคนร้ายหนีไป กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุ 5 วัน ตนฝันว่าพ่อเสียชีวิตหน้าบ้าน ตนคิดว่าอาจจะเป็นลางเรื่องอุบัติเหตุ จึงเตือนพ่อว่าให้ขับรถดี ๆ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายอภิชา ผู้ก่อเหตุ พบนายวัฒน์ (นามสมมติ) พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ช่วงเที่ยง นายอภิชาขับรถออกจากบ้านโดยตนไม่รู้ว่าไปที่ไหน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาที่บ้านในช่วงค่ำ บอกว่าลูกไปก่อเหตุยิงผู้อื่นเสียชีวิต โดยตนยังไม่รู้ปมเหตุที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าปกติลูกชายเป็นคนใจร้อน และมักจะพกปืนติดตัวตลอด เชื่อว่าน่าจะมีปากเสียงกันแล้วลูกชายก่อเหตุยิง เนื่องจากลูกชายเป็นคนไม่ยอมคน
ทั้งนี้ นายอภิชามีภรรยาและลูก 1 คน แต่เจ้าตัวเป็นคนเจ้าชู้ จีบผู้หญิงไปทั่ว ส่วนความสัมพันธ์กับ น.ส.ปุ้ย เจ้าของร้านเสริมสวย ตนไม่รู้ เพราะลูกไม่เคยเล่าให้ฟัง นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุเคยติดคุกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากไปยิงผู้อื่นบาดเจ็บ เพราะมาลวนลามแฟนสาวในงานลอยกระทง ซึ่งลูกชายติดคุกไป 2 ปี ออกมาก็ไม่เคยก่อเรื่อง จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ ตอนนี้ตนก็ติดต่อลูกชายไม่ได้ ยืนยันว่าอยากให้ลูกเข้ามอบตัวเข้ากระบวนการทางกฎหมาย และตนก็คงไม่ประกันตัว เพราะไม่มีเงิน
ขณะที่พนักงานสอบสวนเรียก น.ส.ปุ้ย และพ่อแม่ เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมออกหมายจับนายอภิชา ถิรกุลสิริ อายุ 42 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ