โจ๋แก๊งทมิฬเปิดปากรุมทืบหนุ่มคลั่งดับ อ้างโดนตำรวจสั่ง ญาติเผยถูกแม่เลี้ยงยุส่ง (คลิป)

28 ก.พ. 64

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ตับพัง เพราะตังค์เพื่อน" โพสต์เรื่องราวกรณี นายเสมา พุฒิสาร หรือ ท็อป อายุ 33 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.64 ภายในพื้นที่เขตรามอินทรา กรุงเทพฯ ซึ่งระยะเวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเหตุดังกล่าวอยู่ในเขตรับผิดชอบ สน.บึงกุ่ม ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

459456

ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดข้างบ้านหลังที่เกิดเหตุ ในวันที่ 8 ก.พ. เวลาประมาณ 21.35 น. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน โดยในช่วงต้นคลิปมีเสียงการสนทนาของกลุ่มชาย ยืนพูดคุยอยู่นอกรัศมีกล้องวงจรปิด

834939

แต่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเสียงเอาไว้ได้ บางช่วงก็มีเสียงผู้ชายพูดว่า "ทืบมันก่อนเลย" และมีเสียงชายอีกคนตอบว่า "ผมกลัวมีความผิดครับ" แต่ชายอีกคนก็บอกว่า "ไม่มีความผิด แต่อย่าทำมันตายนะ และค่อยเรียกตำรวจมาจับอีกที"

495694

ล่าสุดวันที่ 28 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ซอยนวมินทร์ 26 กรุงเทพฯ ไปยังบ้านของนายก็อต หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก็ได้พบกับยายแฝด ยายของนายก็อต เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงนายก็อตมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ของนายก็อตไปทำงานที่อื่น ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้ทราบเรื่องต่าง ๆ แล้ว และหลังเป็นข่าวนายก็อตก็หนีออกจากบ้านไปกว่า 3 วันแล้ว โดยพกเงินติดตัวไปแค่ประมาณ 40 บาทเท่านั้น

540558

ทั้งนี้ตนพยายามโทรติดต่อให้หลานชายกลับมาพบตำรวจ แต่เจ้าตัวอ้างว่ายังไม่พร้อม รวมถึงปฏิเสธกับว่าไม่ได้รุมทำร้ายนายเสมา แต่ยอมรับว่าวิ่งไปกับกลุ่มด้วย แต่วิ่งอยู่หลัง ๆ ทำให้ปรากฏตัวอยู่ในกล้องวงจรปิด ตนก็อยากให้หลานกลับมาพูดคุยกับตำรวจ เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงมือทำร้าย แต่ก็อยู่ในกลุ่มคนร้าย ตนก็กังวลว่าหลานจะถูกดำเนินคดี แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

อย่างไรก็ตาม หลานชายยังเล่าให้ฟังอีกว่า ในวันเกิดเหตุนั้นช่วงที่ตำรวจมาในจุดเกิดเหตุ ทั้งตำรวจและ นางเม้า แม่เลี้ยงของนายเสมา ก็บอกให้วัยรุ่นจัดการนายเสมา แต่ก็ไม่รู้ว่าวัยรุ่นไปตีความคำว่าจัดการอย่างไร 

527359

หลังจากที่ทีมข่าวสัมภาษณ์ยายแฝดเสร็จ ยายแฝดก็ได้โทรศัพท์ไปหานายก็อต ซึ่งนายก็อต ระบุว่า ตนจะไม่ยอมไปมอบตัวกับตำรวจก่อน แต่จะไปพร้อมเพื่อน ๆ และตอนนี้ตนก็ได้ติดต่อกับตำรวจอยู่ว่า จะมอบตัว ซึ่งตอนนี้ก็ยังรอให้ตำรวจ สน.บึงกุ่ม โทรศัพท์มาให้เข้าไปมอบตัว แต่ตำรวจบอกว่าให้เข้ามอบตัวหลังจากที่สื่อเงียบไปแล้ว จะได้ไม่ต้องเป็นข่าว ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแค่วิ่งไปกับกลุ่มเฉย ๆ แต่ถ้ามอบตัวก่อนใคร ตนก็กลัวว่าจะมีความผิดเพียงคนเดียว เพราะ "คุกมีเอาไว้ขังคนจน เขาไม่ได้ขังคนรวย"

แต่ตนยืนยันว่าจะไม่หนีไปไหนแน่นอน ตนและเพื่อน ๆ รอคำสั่งจากตำรวจว่า จะให้ไปมอบตัวตอนไหน ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังติดต่อเพื่อนได้บางคน คือ นายคิม ในวันเกิดเหตุตำรวจเป็นคนสั่งว่าให้ไปช่วยวิ่งไล่จับนายเสมา ซึ่งตนวิ่งไล่ตามไปถึงปั๊มน้ำมัน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าวัยรุ่นคนอื่นไปทำร้ายนายเสมาทำไม แต่ในช่วงที่ไปถึงปั๊มก็มีพลเมืองดีช่วยไล่ตามด้วย แต่มีนายเก้ง ที่เป็นเหมือนคนนำกลุ่มวัยรุ่นไปตีนายเสมา อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่านางเม้า แม่เลี้ยงนายเสมา และตำรวจ เป็นคนสั่งให้จัดการกับนายเสมา และตนก็เชื่อฟังคำสั่งของตำรวจ

246887

นายบอล (สงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 25 ปี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.บึงกุ่ม เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่เข้าไปห้ามปรามนายเสมา และถูกนายเสมาแทงมือด้วยกรรไกร เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตอนที่นายเสมา อาละวาด ตนก็พยายามเข้าไปห้ามปราม แต่กลับถูกนายเสมาใช้กรรไกรแทงเข้าที่มือซ้าย บริเวณโคนนิ้วชี้ทะลุหลังมือ หลังจากนั้นตนก็ได้ถอยออกมา แต่ตนยืนยันได้ว่านางเม้า แม่เลี้ยงของนายเสมา เป็นคนพูดกับตนและวัยรุ่นว่า "กระทืบแม่งมันเลย เดี๋ยวกูจัดการให้" และค่อยจับตัวนายเสมา เพราะเจ้าตัวคลั่งจนคนในบ้านไม่ได้หลับไม่ได้นอน

929339614100

นายบอล กล่าวต่อว่า ตนมาให้ปากคำตำรวจเกี่ยวกับที่ตนถูกกระทำ และตำรวจก็มีการสอบปากคำตนเล็กน้อยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ยืนยันว่ากลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายนายเสมานั้น ไม่มีใครเคยมีเรื่องกับนายเสมามาก่อน เพราะนายเสมาเป็นคนดี ไม่เคยยุ่งวุ่นวายกับใคร แต่วัยรุ่นทำไปเพราะมีนางเม้า เป็นคนสั่งการ ส่วนตำรวจก็แค่บอกให้วัยรุ่นช่วยเป็นหูเป็นตา

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุนั้น ก็เป็นคนที่ตนรู้จัก และที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยมีพฤติกรรมหาเรื่องใคร นอกเสียจากจะถูกหาเรื่องก่อน

พ.ต.อ.ธีรยุทธ ใหม่แปง ผกก.สน.บึงกุ่ม ให้ข้อมูลว่า กรณีคดีของนายเสมา ขณะนี้พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนกำลังดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการออกหมายจับ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถออกหมายจับได้กี่ราย สำหรับกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตมีการให้ข้อมูลว่าตำรวจเป็นคนสั่งให้กระทืบนายเสมานั้น ตนคาดว่าอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือสื่อสารผิดพลาด

ขณะเดียวกันทีมข่าวลงพื้นที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ จากการสอบถามพนักงานของปั๊มน้ำมันนั้นไม่สะดวกให้ข้อมูล โดยอ้างว่าอยู่ในคนละช่วงเวลาเข้ากะทำงาน และหวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส