ระทึก! สยบสาวคลั่งอีโต้จี้คอ แม่เผยกินยาลดความอ้วนทำหลอน แฉเคยขู่ฆ่า - ปาจานข้าวใส่ (คลิป)

เมื่อวันที่ 23 ก.พ.64 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ ได้รับแจ้งจากญาติว่ามีคนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง พร้อมกับถือมีดเคียวอยู่ภายในห้องห้องเช่า ใกล้กับอุโมงค์วัดชากสมอ ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุ ห้องเช่าประตูล็อกทั้งหน้าและหลัง ภายในห้องมี น.ส.สุชาดา อายุ 29 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งปาข้าวของและถือมีดอีโต้อยู่ภายในมือ เจ้าหน้าที่จะต้องนำไม้ง่ามและโล่กระสุนควบคุมสาวรายนี้ แบ่งกำลังเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกเข้าประตูหลังจะมีไม้ง่ามและโล่ และอีกกลุ่มจะเฝ้าประตูหน้าห้อง เพื่อกันวิ่งหลบหนีออกมา ก่อนจะเข้าชาร์จตัวอย่างชุลมุน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถจะควบคุมตัว พร้อมกับแย่งมีดอีโต้ออกมาจากมือได้สำเร็จ โดยไม่มีใครได้รับอันตราย ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลชลบุรี

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณห้องเช่าดังกล่าว ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงพบว่าขณะนี้ทางเจ้าของห้องได้ปิดล็อกประตูห้องไว้ เนื่องจากพาผู้ป่วยรายดังกล่าว ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองชลบุรี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ระบุว่า จากการตรวจสอบ คาดว่า ยาลดความอ้วนที่ผู้ป่วยรับประทานเข้าไปมีสารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นสารที่ห้ามนำเข้า-ผิดกฎหมาย เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 โทษรุนแรง ผู้ใดผลิต นำเข้าหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนางศร สิมขุนทด อายุ 59 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวตนก็รู้สึกตกใจ จึงประสานเจ้าหน้าที่เทศบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยระงับเหตุ เนื่องจากลูกสาวของตน เดิมทีเป็นผู้ป่วยทางจิต เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชอยู่แล้ว

ประกอบกับช่วงหลัง ลูกสาวแอบขโมยเงินของตน จำนวน 3,000 บาท ไปสั่งซื้อยาลดน้ำหนักจากอินเตอร์เน็ตมากินโดยที่ตนไม่รู้ ทำให้อาการกำเริบ เนื่องจากผลข้างเคียงของยาลดความอ้วนดังกล่าว ถึงขั้นลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้คอตัวเอง แล้วจะทำร้ายชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนตัวเหตุการที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจและไม่อยากจะให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำอีก หลังจากนี้หากอาการลูกสาวดีขึ้น ตนก็จะพาตัวลูกกลับบ้านที่จ.นครราชสีมา เพื่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในฐานะตนเป็นแม่ ก็อยากจะฝากถึงบุคคลอื่นให้ดูเคสนี้เป็นอุทาหรณ์ ควรเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาลดความอ้วนหรือยาลดน้ำหนักต่าง ๆ หากอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีหุ่นผอมสวยควรออกกำลังกายให้ถูกต้อง อย่าหันมาพึ่งยาชนิดนี้ เนื่องจากเป็นอันตราย และอาจจะมีผลข้างเคียง เช่นเดียวกับลูกของตน