เจ้าบ่าวแต่งซ้อนล่องหน พ่อวอนกลับบ้าน ญาติรับเจ้าสาวเครียดหนัก เมียหลวงเดินหน้าฟ้อง (คลิป)

21 ก.พ. 64

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.64 เวลา 13.30 น. นางนิภาพรรณ แม่สามี พร้อมด้วยทนายพัฒน์ หรือ นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ และทีมทนายภรรยาตามกฎหมาย เดินทางมายัง สภ.เมืองชัยนาท เพื่อนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ถ้อยคำ เกี่ยวกับกรณีตำรวจหนุ่มแต่งงานซ้อน ต่อพ.ต.ท.สมปอง นิลสนธิ รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท และทีมพนักงานสอบสวน เพื่อนำไปประกอบการสอบสวน และลงโทษทางวินัยของนายตำรวจหนุ่มต่อไป

255530687359296355

หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษไว้แล้ว 1.ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่นหรือชายอื่น โดยที่มีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย ลงโทษกักขัง 30 วัน 2.ได้หญิงหรือชายเป็นภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดูและเกิดเรื่องเสื่อมเสีย หรือเสียหาย ลงโทษกักขัง 30 วัน 3.จดทะเบียนสมรสซ้อนลงโทษกักขัง 30 วัน และ 4.ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตรและไม่ยกย่องฐานานุรูป ลงโทษกักขัง 30 วัน

909838790667

สำหรับการประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่ถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ทำหลายครั้ง หลอกเอาเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มเหง กระทำการอันเชื่อได้ว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จะเป็นการกระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีบทลงโทษที่หนักขึ้น

140429

นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายอาสา เปิดเผยว่า วันนี้ได้พานางนิภาพรรณ มาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมข้อมูลการสอบความผิดทางวินัยของตำรวจหนุ่ม เบื้องต้นได้รับรายงานว่าทางภรรยา และสามียังไม่มีการติดต่อกันหรือเจอกันแต่อย่างใดตั้งแต่เกิดเรื่อง ทางครอบครัวก็ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนเรื่องคดีกับฝ่ายชายนั้น ก็ยังไม่ได้รับรายงาน วันนี้ถูกเรียกมาเรื่องสอบสวนวินัยเท่านั้น

143339

สำหรับเรื่องฟ้องร้องกับเจ้าสาวนั้น อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ซึ่งมีการนัดหมายในเดือน เม.ย.64 เรื่องไกล่เกลี่ยนั้นไม่มีแน่นอน เพราะทางลูกความยืนกรานว่าจะเอาเรื่องกับเจ้าสาวจนถึงที่สุด เบื้องต้นได้ฟ้องร้องค่าเสียหายไปแล้ว จำนวน 300,000 บาท

558454

สำหรับอนาคตของเจ้าสาวเบอร์สอง อาจถูกภรรยาสิบตำรวจตรีศรันญู ฟ้องร้องดำเนินคดี หลังจากถูกไล่ออกจากที่ทำงาน ปัจจุบันสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่พร้อมที่จะชี้แจงใด ๆ กับสื่อมวลชน 

494797

ส่วนอนาคตของสิบตำรวจตรีศรันญู เจ้าบ่าวแต่งซ้อน ขณะนี้ต้นสังกัดตั้งคณะกรรรมการสอบสวนวินัย และปัจจุบันรู้สึกเครียด เนื่องจากเจ้าตัวอับอายที่ตกเป็นข่าวดังทั้งประเทศ และชื่อเสียงได้รับความเสียหาย

766700

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปพูกคุยกับนายชาญ (นามสมมติ) น้าชายของเจ้าสาว บอกว่า ตนมาเฝ้าบ้านให้พี่ชาย เนื่องจากครอบครัวของน.ส.ส้ม พาเจ้าตัวไปอยู่ที่อื่น โดยเท่าที่ตนทราบ อาการเครียดของน.ส.ส้ม ก็ยังคงมีอยู่ ความโศกเศร้าเสียใจ ใครจะไปทำใจได้เร็วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมันกระทบจิตใจอย่างมาก

ทั้งนี้ตนไม่รู้ว่าน.ส.ส้ม ไปไหน ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน แต่ทางด้านครอบครัว ก็ช่วยให้กำลังใจกันเรื่อย ๆ ต้องปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยา และขอไม่ให้สัมภาษณ์อะไรแล้ว ไม่อยากให้เป็นข่าว อยากให้เรื่องจบเพียงเท่านี้ก็ช้ำกันมากพอแล้ว

572791

เพื่อนตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท บอกว่า สิบตำรวจเอกนายดังกล่าวรับราชการที่ สภ.เมืองชัยนาท มา 5-6 ปีแล้ว เป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่ง แต่เรื่องดราม่าแต่งงานซ้อนที่เกิดขึ้น ตนขอไม่ตอบ เพราะไม่อยากซ้ำเติมใคร เรื่องนี้มีแต่คนเสียใจกันทุกฝ่าย และขอให้เป็นเรื่องส่วนตัว หากถามว่าสิบตำรวจเอกมาเข้าเวรไหม ตนไม่ทราบ เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่รู้อยู่ที่ไหน

177567

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับร.ต.ต.สมจิต (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี พ่อของเจ้าบ่าว บอกว่า ตั้งแต่มีการอบรมสั่งสอนลูกชายไปเมื่อวันที่ 17 ก.พ.64 พอวันต่อมาลูกชายก็เดินทางออกจากบ้านไปกับเพื่อน ซึ่งทีแรกตนเข้าใจว่าลูกชายอาจจะแค่อยากไปพักสมอง ก็พอเข้าใจ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าไม่สามารถติดต่อลูกชายได้เลย 3 วันแล้ว

ทั้งนี้ตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูกชาย เนื่องจากหายไปกับเพื่อนนาน 3 วันแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้ ส่วนตัวกังวลใจว่าลูกชายอาจจะเกิดความสับสน อยากให้ลูกกลับมาปรึกษาปัญหากับพ่อแม่ ให้ช่วยกันแก้ปัญหา อะไรที่ผ่านแล้วก็ให้มันผ่านไป ผิดก็ว่าไปตามผิด คนเราทำผิดพลาดกันได้ จำไว้เป็นบทเรียนก็พอ แล้วเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ได้

ถ้าลูกชายดูข่าวทางช่องอมรินทร์ ทีวี ก็ขอให้ลูกติดต่อกลับมาหาครอบครัวบ้าง มีเรื่องอะไรอยากปรึกษาหรือไม่ พ่อคนนี้ไม่ได้โกรธอะไรลูกชายเลย ถ้ายังรู้สึกไม่สบายใจ ก็ไม่ต้องกลับมาก็ได้ แต่ขอให้ติดต่อกลับมา เพราะที่บ้านก็เป็นห่วง นอนไม่ค่อยหลับ พอเกิดความเครียดก็จะกินข้าวได้น้อยบ้าง ไม่เป็นเวลาบ้าง แต่ถ้าได้รู้ว่าลูกสบายดี ก็น่าจะพอทุเลาลงได้บ้าง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส