กรณี เพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv+" โพสต์ข้ความว่า "คงใช้เป็นข้ออ้างในการกระชากสร้อยไม่ได้ ไปกระชากสร้อยชาวบ้านจับตัวส่งตำรวจ ที่ทำเพราะจะไปประกันตัวแม่ #ตลาดสุขสวัสดิ์ #ชาวพม่า พี่ขับวินรับจ้าง เล่าว่านั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่วิน ได้ยินชาวบ้านตะโกนว่า มีคนกระชากทองวิ่งขึ้นสะพานลอย เลยวิ่งขึ้นไปดัก คนร้ายวิ่งก็วิ่งกลับแต่มีอีกคนยืนดักอยู่อีกฝั่ง ทำให้คนร้ายกลัวและยกมือไหว้จึงจับตัวไว้ คนร้ายบอกหาเงินไปให้แม่ แม่ถูกจับ ที่ทำเพราะอยากเอาเงินไปประกันตัวแม่ โดยทำครั้งแรก ไม่มีงานทำเคยทำอาชีพก่อสร้างมาก่อน"
นอกจากนี้ยังมีคลิปกล้องวงจรปิด ขณะที่มีชายเสื้อแดงวิ่งมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง และได้วิ่งหนีไป โดยเหตุเกิดขึ้นในวันที่ 6 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ภายในตลาดสุขสวัสดิ์ ต่อมาสามารถจับกุมชายรายดังกล่าวได้ที่บริเวณถนนเอกชัย 85
ต่อมาทราบชื่อคนร้าย นายน็อต ไม่ทราบนามสกุล อายุ 16 ปี ชาวเมียนมา ส่วนผู้เสียหาย ทราบชื่อ น.ส.เอเอมอ อายุ 39 ปี สาวเมียนมาเช่นกัน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายวันชัย น้ำดอกไม้ อายุ 49 ปี พลเมืองดี เปิดเผยว่า ขณะที่เกิดเหตุการณ์ตนได้นั่งรอรับลูกค้า ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่าโจรกระชากสร้อย จากถนนฝั่งตรงข้าม จึงได้เงยหน้าขึ้นมา เห็นว่ามีประชาชนชาวเมียนมาและชาวไทยได้ช่วยวิ่งจับคนร้าย
ต่อมาตนได้ลุกขึ้น วิ่งไปดักรอคนร้ายที่บนสะพานลอย จากนั้นได้ปรี่เข้าสกัดตัวผู้ร้าย ขณะเดียวผู้ร้ายมีท่าทีทำตัวปกติ อ้างว่าไม่ได้กระชากสร้อยคอไป ก่อนตนจะแตะคนร้าย ทำให้คนร้ายอ้อนวอนขอให้ปล่อยตัวเขา และยื่นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงให้ จากนั้นตนได้นำตัวคนร้ายลงมาจากสะพานลอย พอมาถึงด้านล่างก็ถูกรุมประชาทัณฑ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ
เบื้องต้นคนร้ายได้อ้างว่าจะนำเงินไปประกันตัวแม่ ซึ่งในความคิดของตนคาดว่าผู้ร้ายรายดังกล่าวน่าจะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เนื่องจากตนเห็นว่าขณะที่ตำรวจค้นตัวผู้ร้าย พบกระดาษคาดว่าน่าจะเป็นโพยบอล
นายวันชัย เผยต่อว่า ตรงบริเวณพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น นานทีจะมีการกระชากสร้อยกันเกิดขึ้น ซึ่งคนร้ายแต่ละคนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ ตนไม่เคยเห็นหน้าผู้ร้ายคนดังกล่าวมาก่อน และไม่ทราบว่าเขาเป็นคนเร่ร่อน พักอาศัยอยู่บริเวณไหน ทั้งนี้ตนก็ฝากถึงคนที่จะคิดเป็นโจร ขอให้คิดดี ๆ เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้บ้านเมืองยังมีกล้องวงจรปิดด้วย
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายัง สน.บางขุนเทียน เบื้องต้นนายน็อต ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าทำไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ ส่วนกรณีที่อ้างว่าจะนำเงินไปประกันตัวแม่นั้น ไม่ใช่ความจริง
โดยนายน็อตเป็นเด็กชาวเมียนมาที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่อายุ 3 ปี ซึ่งไม่มีเอกสารติดตัวมา ต่อมาพ่อแม่ได้เลิกรากัน นายน็อตก็เป็นเด็กเร่ร่อน ซึ่งจะไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง จะอาศัยอยู่ตามสะพานลอย ไม่มีอาชีพ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา วิ่งราวทรัพย์ เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต และเดินทางเข้ามาและอยู่ในในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งวานนี้ (7 ก.พ.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวของนายน็อต ไปยังฝากขังที่ศาลเด็กและเยาวชนแล้ว
