เปิดปากหนุ่มโหดยิงหัวช่าง แค้นจ่าย 2 หมื่นซ่อมรถ 3 หน เมียยันตามแก้งานให้วันหยุด (คลิป)

8 ก.พ. 64

กรณีสภ.พนมทวน รุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.เจ้าคุณไพบูลย์ พนมทวน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ได้รับแจ้งเหตุ นายเกษม สงวนศักดิ์ หรือ ช่างโอ๋ อายุ 41 ปี ชาว อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เจ้าของอู่

701182

สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด เข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ใต้มุมปากด้านซ้ายทะลุออกหูขวา 1 นัด เหนือหัวไหล่ซ้าย 1 นัด และใต้ชายโครงซ้ายทะลุหลัง 1 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือดริมถนนสายพนมทวน-กำแพงแสน เลขที่ 112 บ้านปลักเขว้า หมู่ 8 ต.หนองสาหร่าย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถ “อู่ช่างโอ๋”

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก และหัวกระสุนปืน จำนวน 1 หัว ตกอยู่

441807932456

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าอู่ซ่อมรถ ปรากฏภาพคนร้ายเป็นชาย 2 คน แต่งกายสวมเสื้อยืดและสวมกางเกงขาสั้น ทำทีว่ารถกระบะสีดำเสีย ก่อนจะเรียกผู้ตายให้ออกมาช่วยดูรถให้ ซึ่งจังหวะที่ผู้ตายกำลังจะก้มไปดูบริเวณห้องเครื่อง คนร้ายอีกคนได้เปิดฝากระโปรงด้านหน้ารถไว้ เมื่อสบโอกาส 1 ในคนร้าย ได้ชักอาวุธปืนที่เตรียมมาออกมาจากเอว แล้วจ่อยิงผู้ตายในระยะเผาขนจากด้านหลัง จนล้มลงนอนกองกับพื้น

236007

จากนั้นคนร้ายยังได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายซ้ำ จนผู้ตายแน่นิ่งไป โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายยังคงมีอาการใจเย็น เดินมาปิดฝากระโปรงรถ ก่อนจะขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ มุ่งหน้าไปทาง อ.พนมทวน ซึ่งขณะเกิดเหตุบนถนนดังกล่าว ก็ยังมีรถวิ่งผ่านไปมาตลอดเวลา

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุประสานจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางต่าง ๆ เพื่อให้สกัดจับรถต้องสงสัยแล้ว เป็นรถยนต์กระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน เป็นวัยรุ่นในพื้นที่อ.พนมทวน ซึ่งเคยนำรถมาซ่อมที่อู่กับนายเกษม แต่เกิดปัญหาความไม่พอใจเกี่ยวกับการซ่อมรถ จนมีการโต้เถียงกันเมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุ

262700

ต่อมานายศักดิ์ดา ทองงามขำ อายุ 34 ปี ผู้ที่ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายเกษมจนเสียชีวิต ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมทวน โดยมีครอบครัวและญาติเป็นผู้ประสานพาเข้ามอบตัว พร้อมนำเอารถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อเหตุ และอาวุธปืนที่ใช้ยิงนายเกษม มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานในการทำคดีด้วย

นายศักดิ์ดา ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือสังหารนายเกษมจริง โดยมีสาเหตุจากการที่นายเกษม ด่าทอขณะที่นำรถมาซ่อม

438337

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายศักดิ์ดา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนจะเข้าข่ายไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรอสอบปากคำพยานพร้อมหาหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังสอบปากคำนายศักดิ์ดาในเบื้องต้นแล้ว ในเวลา 01.30 น. ของวันที่ 8 ก.พ.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถของผู้เสียชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ส่วนเพื่อนที่เดินทางมากับนายศักดิ์ดานั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะเข้ามอบตัวต่อไป

941088

ล่าสุดวันที่ 8 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายัง สภ.พนมทวน ในช่วงเที่ยง โดยทีมข่าวได้พบกับกลุ่มญาติของผู้ต้องหาที่เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาพอดี โดยญาติของผู้ต้องหาบอกว่า ไม่มีใครทราบถึงปมของการก่อเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กดดันให้ผู้ต้องหายอมออกมามอบตัวเมื่อคืนนี้ ขณะนี้แม่ของผู้ต้องยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากทางครอบครัวเกรงว่าแม่จะรับความจริงไม่ได้ โดยทางครอบครัวกำลังปรึกษากันถึงการช่วยเหลือผู้ต้องหาในทางคดี

949378

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางกาญจนา สงวนศักดิ์ อายุ 41 ปี ภรรยาของผู้ตาย บอกว่า วันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ (7 ก.พ.64) ซึ่งเป็นวันนี้ที่อู่ปิด แต่ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์มานัดกับสามีของตนล่วงหน้าว่า จะนำรถมาให้ดูอาการ โทรมานัดวันที่ 6 ก.พ.64 ซึ่งสามีของตนก็ได้บอกไปว่า “เอารถเข้ามา เดี๋ยวพี่ดูให้ แต่จะซ่อมให้วันจันทร์ (8 ก.พ.64) เพราะวันอาทิตย์อู่หยุด” ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นแผนของผู้ก่อเหตุ

โดยขณะเกิดเหตุ ตนพักอยู่ด้านหลังของอู่ ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4 นัด แต่ในตอนแรกคิดว่าเสียงจุดประทัดไล่นก จึงไม่ได้เอะใจ จากนั้นได้มีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพบเห็นสามีของตนนอนแน่นิ่ง จึงได้ไปบอกกับเจ้าของร้านคาร์แคร์ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอู่ เมื่อตนเดินออกมาหน้าอู่ ก็ได้ยินเสียงโวยวาย และพบว่าสามีของตนถูกยิงเสียชีวิต 

490913

ทั้งนี้เท่าที่ตนทราบข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ก่อเหตุลงมือเนื่องจากไม่พอใจที่ต้องจ่ายค่าซ่อมปั๊มหัวฉีด 22,000 บาท ที่ซ่อมไปก่อนหน้านี้ แต่อาการรถไม่ดีขึ้น ตนขอย้อนถามผู้ก่อเหตุว่า ปกติอู่ซ่อมรถต้องแจ้งราคาค่าซ่อมก่อนซ่อมทุกครั้ง หากไม่พอใจราคาทำไมไม่ตกลงกันให้ดีก่อนที่จะซ่อม อีกทั้งราคาดังกล่าวยังเป็นราคาของอู่ซ่อมรถทั่วไป “มันคุ้มไหมกับเรื่องแค่นี้ แล้วยิงคนตาย ต้องติดคิดเป็น 10 ปี”

389942

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการทำเกินกว่าเหตุ ลูกค้าสามารถคุยกับอู่ได้ สามีของตนเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยทะเลาะกับใคร และไม่เคยมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุมาก่อน สามีตนต้องดูแลครอบครัว มีลูกสาว 3 คน อายุ 20, 18 และ 10 ปี ต้องเลี้ยงดู สุดท้ายตนอยากจะบอกสามีว่า ตนจะเข้มแข็ง ตนจะอยู่ให้ได้

781268

สำหรับอู่ของผู้ตายเปิดทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 7.00 - 17.00 น. อาจเปิดปิดไม่เป็นเวลา แล้วแต่งานและลูกค้า เนื่องจากอาศัยอยู่ในอู่ ทำให้รับลูกค้าได้ตามความสะดวก

332683

โดยผู้ตายมีประสบการณ์การซ่อมรถทั้งหมด 20 ปี ทำอู่ของบริษัทข่ายใหญ่แห่งหนึ่ง 8 ปี เปิดอู่เดิม 7 ปี อู่ใหม่ที่เกิดเหตุ 5 ปี มีลูกค้ามากมายทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ซ่อมรถไม่แพง ไม่โก่งราคา และมีน้ำใจต่อลูกค้า

415370

ทั้งนี้ ภายในคลิปของกล้องวงจรปิดที่จับภาพขณะผู้ต้องหาก่อเหตุยิงเจ้าของอู่ซ่อมรถนั้น ยังปรากฏชายอีก 1 คน ทราบว่าคือนายเอกลักษณ์ วงเอก อายุ 35 ปี เพื่อนสนิทของคนก่อเหตุ โดยในคลิปเจ้าตัวมีท่าทีตกใจที่ผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้ตายต่อหน้าต่อตา

เวลาประมาณ 13.00 น. นายเอกลักษณ์ ได้เดินทางมายัง สภ.พนมทวน เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุของผู้ต้องหา

434020

นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าผู้ต้องหาจะมาก่อเหตุ ไม่รู้ว่าผู้ต้องหาเอาปืนมาจากไหน เพราะผู้ต้องหาไม่มีท่าทีว่าจะก่อเหตุมาก่อน ตนได้เดินทางมายังอู่ที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ครั้ง 1.ครั้งแรก เมื่อ 18 วันก่อน ผู้ต้องหาได้ให้ตนขับรถตามมาที่อู่ เพื่อรับกลับบ้าน เนื่องจากต้องจอดรถทิ้งไว้ที่อู่ 2.ครั้งที่สอง เมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ให้ตนขับรถมาส่งที่อู่ เนื่องจากรถซ่อมเสร็จแล้ว จะได้ขับรถของตัวเองกลับบ้าน 3.ครั้งที่สาม วันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาบอกให้ตนนั่งรถมาเป็นเพื่อน เนื่องจากผู้ต้องหาบอกว่าจะไปพูดคุยกับอู่ที่ซ่อมรถไม่ดี

634592

ในวันเกิดเหตุ เมื่อตนและผู้ต้องหาขับรถมาถึงอู่ ผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับผู้ตาย ในทำนองซ่อมรถไม่ดี ราคาก็แพง 22,000 บาท เงินหายาก ซ่อมแล้วจะไม่รับผิดชอบเหรอ จากนั้นเมื่อตนหันหลังไป ผู้ต้องหาก็ได้ยิงใส่ผู้ตายจากด้านหลัง ขณะนั้นตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ทำให้จำอะไรไม่ได้มาก ตนไม่คิดว่าแค่เรื่องซ่อมรถจะกลายเป็นคดีฆาตกรรมได้ หลังจากที่ก่อเหตุผู้ต้องหาเป็นผู้ขับรถกลับเอง โดยได้แวะส่งตนที่บ้านก่อน แต่ระหว่างทางตนไม่ได้สอบถามหรือคุยอะไรกัน เนื่องจากยังคงอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากบอกอะไรกับผู้ต้องหาได้คงบอก “กูรักมึง”

423843

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายทาก (นามสมมติ) ลูกค้าประจำของอู่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2547 บอกว่า ผู้ตายเป็นคนดี เป็นช่างที่มีน้ำใจกับลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะซ่อมอะไร ผู้ตายก็จะคิดราคาตามจริง อะไรลดได้ก็ลดราคาให้ ค่าแรงอะไรทำให้ฟรีได้ก็จะไม่คิดเงิน จะคิดเพียงแต่ค่าอะไหล่เท่านั้น อีกทั้งหากลูกค้ารถเสียอยู่ในสถานที่ที่ไม่ไกลจากจ.กาญจนบุรี มากนัก ผู้ตายก็จะพาช่างไปซ่อมรถให้ถึงที่

822438

ทั้งนี้ตนได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างสะเทือนใจ สงสารลูกสาว 3 คน และครอบครัวของผู้ตาย ตนสังเกตเห็นว่ารถของผู้ก่อเหตุนั้นค่อนข้างเก่า ตนอยากจะบอกผู้ก่อเหตุว่า รถเก่าก็ควรทำใจว่ารถจะผุพัง การซ่อมรถเก่าย่อมมีค่าใช้จ่าย หากเปลี่ยนอะไหล่จุดหนึ่ง สุดท้ายก็จะต้องเปลี่ยนอะไหล่อื่น ๆ ด้วย เพราะต้องไล่ระบบการทำงานของเครื่องยนต์ให้ประสานกัน

อย่างไรก็ตาม การซ่อมรถก็คล้ายกับการซื้อของทั่วไป ช่างย่อมบอกอาการของรถ และบอกค่าอะไหล่รวมถึงค่าแรงช่างก่อนอยู่แล้ว แล้วทำไมผู้ก่อเหตุถึงไม่พอใจกับราคาค่าซ่อมที่ต้องจ่ายไป 22,000 บาท ตนในฐานะลูกค้าประจำ ตนขอยืนยันว่าผู้ตายเป็นช่างซ่อมรถที่ดี ไม่เคยมีปัญหากับลูกค้า แล้วทำไมผู้ก่อเหตุถึงไม่พูดกับผู้ตายดี ๆ รถซ่อมไม่ดีมีปัญหา ผู้ตายจะได้ช่วยเหลือ ตนขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส