ล่าพลทหารบุกยิงแฟน กระสุนพลาดหวิดถูกเด็ก กองทัพฟันซ้ำหนีทหาร (คลิป)

7 ก.พ. 64

กรณีตำรวจ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณร้านทำเล็บแห่งหนึ่ง ภายในซอยบ้านแขก ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ จ.กาญจนบุรี

444445

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิงสาว ทราบชื่อน.ส.ชนิภรณ์ หรือ บ๊วย อายุ 23 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณกลางหลัง 1 นัด พลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงไม่นาน

741689

กระทั่งกองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) ออกหนังสือชี้แจง กรณีทหารกองประจำการณ์ ก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 20.45น. มีเหตุการณ์ พลทหารก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.ท่วง จ.กาญจนบุรี จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

สาเหตุเบื้องต้นจากการที่ทะเลาะกับอดีตแฟน และถูกญาติของแฟนแจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว หลังก่อเหตุเจ้าตัวได้หลบหนีไปนั้น

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 1 ได้ตรวจสอบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือพลทหาร อมรเทพ ลิ้มเจริญ สังกัดกองพันทหารราบที่ 2กรมทหารราบที่ 9 (ร.9พัน2) ภูมิลำเนาอยู่ ต.ท่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งพลทหารรายนี้ได้ลาพักห้วง 22 ธ.ค. 2563 - 2 ม.ค.2564 แต่ เมื่อครบกำหนดแล้วเจ้าตัวไม่กลับเข้าหน่วย ทางหน่วย จึงทำหนังสือติดตามและจำหน่ายหนีราชการ ตั้งแต่ 6 ม.ค. 2564

378221

กองทัพภาคที่ 1 รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ช่วยเหลือในการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นคนอารมณ์ร้อน ผู้บังคับบัญชาได้ทำการตักเตือนอยู่เสมอ และแจ้งให้ญาติช่วยกำกับดูแลพฤติกรรมของพลทหารดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม กองทัพภาคที่ 1 ขอโทษผู้เสียหายที่กำลังพลประพฤติไม่เหมาะสมใช้ความรุนแรง ในการแก้ปัญหา หากติดตามจับกุมได้ จะดำเนินการทางวินัยและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างดีที่สุด

ล่าสุดวันที่ 7 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านเลขที่ 944/22 ร้านทำเล็บดังกล่าว ภายในพื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พบรอยกระสุนปืน ด้านหน้าประตู 3 จุด และผนังบ้านด้านในบ้านอีก 1 จุด

392137

ทีมข่าวเข้าสอบถามไปยังน.ส.ชนิภรณ์ พรมมิ หรือ บ๊วย อายุ 23 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ช่วงเวลา 20.30 น. ตนพร้อมกับสามี และน.ส.แนน กำลังนั่งทานหมูกระทะกันอยู่ภายในบ้าน จากนั้นไม่นานนายเปา ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณหน้าบ้าน และได้มีการเรียก น.ส.แนน อดีตแฟนสาว ให้ออกมาพูดคุย เคลียร์ใจกันอะไรบางอย่าง ซึ่งน.ส.แนน มีท่าทีไม่อยากพูดคุยด้วย จึงเดินกลับมานั่งทานหมูกระทะกันต่อ

cg_3

จากนั้นไม่นานนายเปา จึงชักปืนยิงเข้ามาภายในบ้าน 1 นัด ตนตกใจมาก เห็นท่าไม่ดีจึงรีบคว้าอุ้มลูกน้อยวัย 2 เดือนเพื่อจะเข้าไปหลบภายในห้องครัว แต่ระหว่างกำลังจะวิ่ง นายเปา ได้ยิงเข้ามานัดที่ 2 ซึ่งกระสุนเข้าบริเวณหลังด้านขวา 1 นัด ขณะนั้นเห็นว่าพ่อตาของตนกำลังเดินลงมาจากด้านบนพอดี จึงรีบส่งลูกน้อยวัย 2 เดือนให้พ่อตาไป เพื่อไปหลบซ่อนด้านในก่อน ซึ่งตนก็รู้ตัวแล้วว่าถูกยิงบริเวณหลัง พยายามตะเกียกตะกายนั่งลงกับพื้นเพื่อหาที่ซ่อนตัว 

987274

จากนั้นไม่นานเมื่อเสียงปืนได้เงียบลง ตนจึงพยายามรีบพาตัวเองออกไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านด้านนอก ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะแค้นใจที่อดีตแฟนสาว ซึ่งได้เข้ามาพยายามจะพูดจาขอให้ไปถอนแจ้งความ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเปา ได้ก่อเหตุลักพาตัว น.ส.แนน ไปจากโรงงานและพาไปกักขังก่อนลงมือปลุกปล้ำ

969501

นายมานพ แหวนครุฑ อายุ 67 ปี พ่อของน.ส.แนน บอกว่า รู้ว่าลูกสาวคบหากับนายเปา แต่ไม่เคยทราบรายละเอียดเรื่องที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน เนื่องจากตนเป็นโรคความดัน ลูก ๆ จึงไม่ค่อยเล่าเรื่องไม่สบายใจให้ฟัง รวมถึงวันที่ลูกสาวถูกนายเปาฉุดไป 1 คืน ตนก็ไม่ได้ทราบเรื่องจากใครเลย เนื่องจากปกตินายเปา ขณะที่คบหากับลูกสาวของตน ไม่เคยเข้ามาทักทายพูดคุยกับตน บางครั้งแอบนัดเจอลูกสาวของตนอยู่ข้าง ๆ ร้าน แต่ไม่ค่อยจะปรากฏตัวให้เห็น

กระทั่ง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ข่าวว่าลูกสาวเลิกรากับนายเปา ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ยังไม่ทันได้ถามไถ่ลูกสาว นายเปานำปืนมายิงกราดใส่ภายในร้านหลายนัด หลังสิ้นเสียงปืนรีบวิ่งลงมาดู พบว่าลูกสะใภ้ถูกยิงที่กลางหลังแล้ว ในอ้อมอกก็ยังอุ้มหลานวัย 2 เดือนอยู่ ตนเห็นท่าไม่ดีก็รีบไปขว้างตัวหลาน และบอกให้ลูกชายเรียกรถพยาบาล แจ้งตำรวจเกรงว่านายเปา จะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

อย่างไรก็ตาม นายมานพ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนและคนในครัวยังคงหวั่นกลัวว่าทางนายเปา จะย้อนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้ยังคงหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่

869428

ขณะเดียวกันทีมข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายเปา ผู้ก่อเหตุ พบว่าบริเวณบ้านได้ปิดเงียบลง พร้อมกับประตูรั้วหน้าบ้านปิดล็อกกุญแจไว้ คล้ายกับเจ้าของบ้านไปหาบ้านอื่นพักอาศัยอยู่ชั่วคราว

435977

ทีมข่าวได้พบกับเพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เล่าว่า บ้านของนายเปา มีแค่แม่ของนายเปา พักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อของนายเปา ไปทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.นครปฐม และทางนายเปา ก็เป็นทหารเกณฑ์ อยู่ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งนาน ๆ ครั้งถึงจะกลับมาเยี่ยมแม่ที่บ้านหลังนี้ หลังจากเกิดเหตุตนก็ยังไม่เห็นนายเปา กลับมาที่บ้านแห่งนี้อีกเลย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส