กรณีนายอัจฉริยะ ออกมาไลฟ์สด แฉพฤติกรรมของพระปลัดอนุชา หรือ พระพล กุนซือของลุงพล เรื่องเป็นพระเอกหมอลำ มีการหลอกขายพระ ทิ้งลูกทิ้งเมีย ก่อนหนีคดีความไปบวชเป็นพระ กระทั่งนายอัจฉริยะ ได้นำเรื่องร้องไปยังสำนักพุทธศาสนา และแจ้งตำรวจป่าไม้ให้มีการเอาผิด "พระพล" วัดดานพระอินทร์ กรณีเป็นผู้ริเริ่มให้ลุงพลสร้างพญานาค จนเป็นเหตุของการต้องรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทีมข่าวลงพื้นที่วัดดานพระอินทร์ พบว่าพญานาคที่วัดจะแตกต่างจากที่บ้านลุงพล เนื่องจากรูปปั้นพญานาคที่วัดนั้น แยกออกไปเป็นหลายรูปแบบ รูปปั้นบางอย่างก็มีหลายหัว บางอย่างก็ดูคล้ายงูมากกว่าพญานาค ส่วนสีสันก็แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งเดียวที่มีความคล้ายกับพญานาคบ้านลุงพลคือเกล็ด ที่มีเรียงกันเป็นแนว และมีความโค้งที่ปลายเกล็ด ซึ่งคาดว่าสร้างด้วยช่างชุดเดียวกัน
ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบสถาปัตกรรมพญานาคภายในวัด ก็พบรูปปั้นพญานาคหลายองค์ดังต่อไปนี้
1.รูปปั้นพญาเพชรภัทรนาคราช มีลักษณะเด่นคือเกล็ดสีขาว ส่วนหัวมีความสูง 5 เมตร ส่วนลำตัวยาว 20 เมตร ตั้งอยู่ในบ่อน้ำ
2.รูปปั้นปู่ศรีสัตตะ ลักษณะเป็นพญานาค 7 เศียร สีเขียว-เหลือง ส่วนหัวสูง 5 เมตร ส่วนลำตัวยาวคดเคี้ยว 15 เมตร
3.รูปปั้นพญาจิตนาคราช ลักษณะเป็นพญานาค 9 เศียร สีเขียว-เหลือง ส่วนหัวสูง 8 เมตร ลำตัวยาวขด 5 เมตร
ขณะเดียวกันภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมพญานาคอื่น ๆ เช่น บันไดทางขึ้นเจดีย์ชัยแก้วมงคล ก็มีรูปปั้นพญานาค ถูกปั้นขนาบเป็นราวบันไดขึ้นเจดีย์เช่นกัน เป็นรูปปั้นพญานาคสีเขียว เหลือง แดง ผสมกัน สูงประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร
อย่างไรก็ตาม บริเวณวัดก็ยังมีรูปปั้นพญานาคอีกองค์ เป็นพญานาคคู่และเลื้อยตัวพันกัน ซึ่งพญานาคยังสร้างไม่เสร็จหัวสูง 3 เมตร ลำตัวคดเคี้ยวสลับกัน ยาว 10 เมตร
ล่าสุดวันที่ 4 ก.พ.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ติดต่อไปยังแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ให้ข้อมูลว่า พระปลัดอนุชา หรือพระพล เป็นคนที่เคยมีครอบครัวมาก่อน ซึ่งก่อนบวชเป็นพระ ได้มีภรรยากว่า 5 คน และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ ภรรยาคนแรก ส่วนคนอื่น ๆ แค่การคบหากันทั่วไป ทำมาหากิน กินอยู่ด้วยกัน แต่ก็มีเหตุทำให้ต้องเลิกรากันไป ตามประสาชีวิครอบครัว ซึ่งเรียกว่าเป็นเรื่องในอดีต ส่วนตัวก็เชื่อว่า คนเรามีอดีตมาก่อนทั้งนั้น และภรรยาส่วนใหญ่ที่รู้จักกันก็เป็นคนที่ทำงานอยู่ในจังหวัดภาคกลางทั้งหมด เพราะนับตั้งแต่เข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้กลับบ้านเกิดในภาคอีสานอีกเลย และหลังเลิกรากันไป พระพลก็ยังทำงานต่อ กระทั่งมาบวชเป็นพระ ในช่วงอายุก่อน 30 ปี จนปัจจุบันบวชมาแล้ว 13-14 ปี อายุปัจจุบัน 40 กว่าปี และการมาบวชก็ไม่ได้หนีความผิดอะไร เพราะการจะบวชเป็นพระต้องตรวจสอบหลายอย่าง
ส่วนที่ถูกขุดประวัติเก่าในอดีต แหล่งข่าวของพระพล ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ใครก็สามารถกล่าวหากันได้ทั้งนั้น พระพลจึงขอไม่ตอบโต้ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่จบสิ้น ดังนั้นถ้าใครมีหลักฐาน หรือร้องดำเนินคดี ก็พร้อมว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ถ้ามีการกล่าวอ้างลอย ๆ กลุ่มลูกศิษย์ที่มีความรู้ทางกฎหมาย รวมถึงตนก็กำลังติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่ ก็พร้อมดำเนินคดีกลับ
ทั้งนี้ก่อนมาเป็นพระในปัจจุบัน พระพลเคยบวชเณรช่วงอายุ 13 ขวบ เพราะด้วยชีวิตเจอปัญหาหลายอย่างรุมเร้า จึงอยากบวชแก้เคล็ด 15 วัน แต่ด้วยความศรัธาในพุทธศาสนา จึงได้บวชเณรต่อเนื่องจนนกระทั่งครบ 3 ปี ลาสิขาออกกลับมาใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป รับจ้างทำทุกอย่างที่คน ๆ หนึ่งต้องหาเลี้ยงชีพ ขับรถเข็นผัก ทำอาชีพหมอลำ จนมีภรรยากว่า 5 คน แต่ตลอดช่วงวัยรุ่นไม่เคยโกง หรือหลอกลวงใคร หรือแม้แต่หลอกขายพระให้ใคร ยังทำอาชีพสุจริตทั่วไป ไม่เคยมีเรื่องในโรงพัก ไม่เคยมีใครแจ้งความดำเนินคดี ดังนั้นจึงเป็นไม่ได้ที่จะมีคดีความแล้วหนีมาบวช
ส่วนเรื่องการดูดวง พระพลโตมากับครอบครัวหมอดู จึงมีวิชาและการดูดวงเป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเปิดสำนัก และการดูดวงก็ไม่เคยหลอกลวงใคร และการที่ชอบเรื่องการดูดวง เรื่องการสื่อสารกับดวงธรรมจึงมารู้จักกับปู่ฤๅษี ในช่วงเวลาต่อมา และได้ไปเรียนวิชาการกับพระฤๅษีสำนักเดียวกัน จึงได้ติดต่อและเชิญมาประกอบพิธีต่าง ๆ ของวัด รวมถึงไปงานบ้านลุงพลในวันดังกล่าว
แหล่งข่าวของพระพล บอกว่า อยากให้ย้อนไปฟังคลิปเสียง ในช่อง “เด็ก วัดดาน” ซึ่งคลิปล่าสุด ความยาว 15.17 นาที เป็นการคุยเคลียร์ใจกัน ระหว่างพระพลกับโยมติ๊ก เกี่ยวกับความเข้าใจผิดเรื่องการขโมยคลิป ช่วงหนึ่งในคลิปเสียง ระบุการสนทนา ว่า ตอนทำเพลงยอมรับว่า มีการช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ อาจารย์ช่วยดู และแก้เนื้อหาให้ และทางโยมติ๊ก ก็ช่วยกันแก้เมโลดี้ จากนั้นตกลงกันว่าจะใช้ชื่อเครดิตเพลง ถวายให้แก่ปู่พญานาค ชื่อ พ.เพชรภัทรา ซึ่งเป็นนามปากกา ไม่ได้ระบุชื่อใคร แต่ด้วยผ่านไปกว่า 3 ปี มีทีมงานหลายฝ่าย ไม่แน่ใจว่านำไปลงในยูทูบใหม่ มีการใส่เนื้อหาใหม่ ทำให้เกิดการดัดแปลง และลงข้อมูลไปแบบนั้น จนเกิดความเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตาม หลังมีการนำเสนอข่าว แล้วเกิดความเข้าใจผิด พระพลได้เคลียร์ใจกันกับโยมติ๊กแล้ว ซึ่งเกิดจากการดัดแปลง และการนำข้อมูลไปลงใหม่ มีการระบุข้อมูลใหม่ เกิดจากความผิดพลาดของทีมงานที่มีหลายคน หลายฝ่าย
ความจริงแล้ว ตอนทำเพลง ทั้ง 2 เพลง "เป็นเธอได้ไหม" และ "บ่แม่น บ่ฮัก" พระพลแก้ไขกว่า 30% และมีโยมติ๊กข้ามาดูทำนองและเมโรดี้ แต่จะไม่ระบุชื่อใคร ขอเป็นการถวายชื่อให้ปู่พญานาค หลังมีการจุดธูปกกล่าว คือ “พ.เพชรภัทรา” ไม่ใช้ “นันท์ ดานพระอินทร์” หรือ “อนุชา นารถศรีฑา” แต่มีการนำมาเปลี่ยนแปลงแก้ไข โดยทีมงานในช่วงระยะหลังเท่านั้น ตอนนี้ได้คุยและเข้าใจกันแล้ว
