รวบลุงแท็กซี่ไล่ฟันเพื่อนตายสยอง ฉุนโดนโวยสูบบุหรี่ ลั่นไม่ขอโทษยันเหยื่อคว้าไม้ตีก่อน (คลิป)

27 ม.ค. 64

จากกรณีนายรังสิต ทะฤาษี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้มีดแทง นายหนุ่ม สมบัติหล้า เพื่อนร่วมอาชีพที่ขับขี่รถแท็กซี่จนเสียชีวิต ภายในตึกแถว ซึ่งแบ่งเป็นห้องพักของคนงานขับแท็กซี่ ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 4 แยก 10 กรุงเทพฯ เหตุเกิดคืนวันที่ 26 ม.ค. 64

433244572423

วันที่ 27 ม.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยคราบเลือด หยดเป็นทางยาวตั้งแต่ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องพักของผู้ก่อเหตุ ยาวไปตามบันไดจนถึงชั้น 1

276394

นายยุทธพงศ์ ศรีวรานุกูล เพื่อนผู้ก่อเหตุ เป็นคนที่พาผู้ก่อเหตุออกจากพื้นที่ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ตนเองนอนอยู่บ้าน ตนรู้เหตุตอนที่ผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาหาตน ระบุว่า นายหนุ่ม คนตายขึ้นมาหานายรังสิตที่ห้องชั้น 4 โดยขึ้นมาใช้คำพูดเหยียดหยาม

993671

ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมา 7 ครั้งแล้วที่ผู้ตายมาหาเรื่องผู้ก่อเหตุ ส่วนใหญ่เป็นการใช้คำพูด ต่อว่าเรื่องผู้ก่อเหตุสูบบุหรี่ในอาคาร ซึ่งปกติ 2 คนนี้อยู่กันคนละชั้น ซึ่งคนตายมักขึ้นมาหาเรื่องผู้ก่อเหตุเอง ซึ่งคนก่อเหตุเคยพูดไว้ว่า นายหนุ่มเหมือนจะมาทำร้ายร่างกาย แต่คนก่อเหตุไม่เคยบอกถึงขั้นจะลงมือฆ่าแบบนี้

835679

ส่วนตัวหลังได้รับโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงคนตายพูดแทรกอยู่เป็นระยะ ใจความทำนองว่า "มึงอะเหม็น เอาเสื้อผ้ากูไปซัก กูทนไม่ไหวแล้ว" ก่อนจะตัดสายไป ตนเองจึงแต่งตัวและเดินทางออกจากบ้านมาราว 15 นาทีถึงที่เกิดเหตุ ตนเองเดินทางมาเพราะทุกครั้งที่ 2 คนนี้ทีเรื่องกัน ตนเองจะต้องมาห้ามทั้ง 2 ฝ่าย

cg

ทั้งนี้ ตนเดินเข้าไปที่ตึกพบว่าผู้ตายนอนจมกองเลือดตรงชั้น 1 แล้ว ตนเจอนายรังสิต ไม่ได้พูดอะไร อาการนิ่ง ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าปัญหาที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องเดิม ตนเองยอมรับว่าตนพาผู้ก่อเหตุออกจากพื้นที่โดยพาไปที่ ๆ สบายใจ ก่อนที่ตำรวจจะประสานเข้ามอบตัว ซึ่งตนเองก็ประสานกับตำรวจ จนตำรวจไปดำเนินการจับกุมได้ นายรังสิตก็ไม่ได้ขัดขืน นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุปกติเป็นคนดี ไม่ทำร้ายใคร ตนเชื่อว่าครั้งนี้คงเหลืออดที่ต้องก่อเหตุ

757217

ล่าสุด ตำรวจ สน.บางกอกใหญ่ นำโดย พ.ต.อ.จุมพล คณานุรักษ์ ผู้กำกับ สน.บางกอกใหญ่ นำตัว นายรังสิต ทะฤาษี ผู้ต้องหา เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อรถคุมตัวผู้ต้องหามาถึงลงจากรถด้วยสีหน้านิ่งเฉย จากนั้นได้เดินเข้าไปยังอาคารที่เกิดเหตุทันที ระหว่างนั้นให้ข้อมูลสั้น ๆ ว่า "มีเรื่องนิดหน่อย คนตายหาเรื่องเกี่ยวกับการสูบบุหรี่มา 6 ครั้งแล้ว คนตายมาว่าตน หาว่าตนพูดว่าตัวคนตายรู้สึกเหม็น คนตายเอาไม้มาตีหัวตนก่อน ตนจึงทำกลับ"

820297

ช่วงทำแผนฯ ผู้ก่อเหตุถูกคุมตัวไปที่ชั้น 4 ของอาคารเพื่อทำแผนที่ชั้นบน จากนั้นผู้ต้องหาถูกคุมตัวลงมาที่ชั้น 1 จุดที่พบศพผู้ตาย ผู้ต้องหาพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำนองว่า มีการต่อสู้กันที่จุดนี้ มีการรัดคอ จากนั้นเมื่อผู้ตายล้มลงได้มีการเอาไม้ที่วางไว้จุดนี้ฟาดใส่ร่างผู้ตาย หลังก่อเหตุเสร็จได้ขึ้นไปเอาเสื้อผ้า 1 ชุด ก่อนที่จะออกมา มาเจอรถจักรยานยนต์ของนายยุทธพงศ์ ก่อนที่จะหลบหนีไป

177250

หลังทำแผนเสร็จ ผู้ต้องหาเดินออกมาที่หน้าอาคาร ให้ข้อมูลว่า "ตนเองไม่ได้รู้สึกเครียด มันเกิดเรื่องไปแล้ว คนตายกระทำตนมา 6 ครั้งแล้ว คนแบบนี้ผมไม่ขอโทษ และตนเองไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน"

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ส่วนพฤติการณ์คนร้าย เท่าที่มีการสอบปากคำ ระบุว่าคนตายขึ้นมาหาเรื่องก่อนที่ขี้น 4 ก่อนจะลงไปและกลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับไม้หน้าสาม จากนั้นจึงมีการทะเลาะกัน และคนก่อเหตุจึงใช้มีดที่พกไว้แทงผู้ตาย จากนั้นผู้ตายหนีลงมา ผู้ก่อเหตุตามลงมาและมีการแทง ก่อนใช้ไม้ตีซ้ำจนเสียชีวิต

941534

ที่วัดสังข์กระจายวรวิหาร ที่ตั้งสวดอธิธรรมศพนายหนุ่ม โดยนางกันจวน โพธิสาร ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองคบหากับผู้ตายมา 18 ปี ผู้ตายเป็นคนร่าเริง แต่ตนไม่เคยคู่กรณีมาก่อน ส่วนตัวไม่ได้พักกับผู้ตาย ตนจะไปหาบ้างช่วงวันหยุด เจอกับผู้ตายล่าสุด 2 วันก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขับรถไปหาตนที่ทำงานและซื้อข้างไปให้กิน

720216

ซึ่งตลอดทั้งวันที่เกิดเหตุ ตนเองก็ได้คุยกับผู้ตายก็คุยปกติ จนกระทั่งช่วงเกิดเหตุที่เถ้าแก่ของผู้ตายโทรมาว่ามีเหตุทะเลาะกัน ให้ตนเองโทรศัพท์ไปเรียกผู้ตายให้กลับลงมาที่ห้อง ตนเองโทรหาผู้ตายสายแรก ผู้ตายรับสาย ระบุว่ายังเคลียร์ไม่จบ และตนได้ยินเสียงคนโวยวาย ซึ่งต่างคนต่างไม่ยอมกัน ก่อนตัดสายตนไป สายที่ 2 ตนโทรติดต่อกัน ผู้ตายรับสายและบอกแค่ว่ายังคุยกันไม่จบ ก่อนตัดสายไป และติดต่อไม่ได้อีก ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าจะถึงขั้นตาย

จากนั้นเวลา 22.00 น. ตนได้รับแจ้งว่าผู้ตายถูกแทงเสียชีวิต ตอนนั้นตนเองทำอะไรไม่ถูก ได้เห็นสภาพผู้ตายนอนอยู่เหมือนศพอนาถา ศพไร้ญาติ ตนคิดว่าเหมือนฝันไป คืนที่ผ่านมาตนเองนอนไม่ได้ เวลาหลับตา ภาพที่เห็นศพผู้ตายมันติดต่ออยู่ ตนเองมองว่าคนก่อเหตุทำเกินกว่าเหตุ เพราะหากทะเลาะกันก็น่าจะคุยกัน ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือเช่นนี้ แต่ตนเองก็มองว่าเรื่องนี้ผิดทั้ง 2 ฝ่าย ยอมรับว่าสลดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองขอให้ผู้ตายไม่ต้องเป็นห่วง ให้ไปให้สบาย ส่วนคนก่อเหตุไม่ต้องการให้มาขอโทษ ขอให้รับกรรมตามที่ได้กระทำไว้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส