นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมรับมือเปิดภาคเรียน ประจำปีการศึกษา 2561 แล้วเพื่ออำนวยความสะดวก และบริการอย่างพร้อมเพียงตามนโยบายOne Transport, One Family ที่เน้นความปลอดภัยให้กับเด็กและผู้ปกครอง โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เพิ่มจำนวนรถ และเที่ยววิ่งในเส้นทางที่ผ่านโรงเรียน สถานศึกษา ในวันธรรมดา 21,928 เที่ยวต่อวัน และกำกับพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จอดเทียบป้าย ชิดฟุตบาท ดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร และเด็กนักเรียน
ขณะเดียวกันได้ให้ กรมการขนส่งทางบก คอยดูแลความเรียบร้อยในบริเวณป้ายรถประจำทางใหญ่ เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หมอชิต วงเวียนใหญ่ รวมทั้งบริเวณโรงเรียน และสถานศึกษาที่มีการจราจรหนาแน่น และป้องกันไม่ให้รถแท็กซี่และจักรยานยนต์รับจ้างเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วนอีกด้วย และเข้มงวดตรวจสอบรถโรงเรียน ให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ส่วนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ก็ต้องจัดเดินรถไฟฟ้าให้เพียงพอ และอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในชั่วโมงเร่งด่วน และให้คำแนะนำในการเดินทางของเด็กนักเรียนที่ยังไม่คุ้นเคยเส้นทางต่างๆเพิ่มด้วย ตรวจเช็ครถทุกขบวนให้สามารถพร้อมให้บริการทั้งหมด
สำหรับการจราจรทางน้ำก็ได้มอบให้กรมเจ้าท่า จัดผู้ตรวจการประจำท่าเรือทุกท่าเรือ ทั้งท่าเรือในกรุงเทพฯ ท่าเรือแม่น้ำ ท่าเรือคลองแสนแสบ คลองลาดพร้าว และคลองอื่นๆ รวมทั้งท่าเรือต่างจังหวัด โดยกำกับดูแลความปลอดภัยของเรือโดยสารไม่ให้บรรทุกผู้โดยสารเกิน ความมั่นคงแข็งแรงของท่าเรือและโป๊ะเรือ พร้อมกับให้คำแนะนำสำหรับเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจยังไม่คุ้นเคยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร เป็นต้น
ในส่วนของต่างจังหวัด ได้มอบให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับตำรวจจราจรท้องที่ อำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนในเขตเมือง และเทศบาลในเขตความรับผิดชอบ เพื่อลดความคับคั่งของการจราจร โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ขับรถมาส่งบุตรหลาน ส่วนพื้นที่ถนนของแขวงทางหลวง แขวงทางหลวงชนบท ที่มีโรงเรียนตั้งอยู่ในเส้นทาง ให้เขตและแขวงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับโรงเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร และความปลอดภัยแก่เด็กนักเรียนอีกทางหนึ่ง.