เปิดตัวพยาน “ปรีชา” ได้ยินชัดเต็มหู ซื้อ 726 - เจ๊เกียวปัดเป็นเจ๊ใหญ่คอยบงการ (คลิป)

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล กับครูปรีชา ใคร่ครวญ วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ตลาดนัดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี ไม่มีการตั้งแผงค้าเนื่องจากไม่ใช่วันกำหนดให้ขาย พบว่ามีผู้ค้าลอตเตอรี่ต่างพากันมานั่งขายอยู่บริเวณศาลพระภูมิ เพราะตลาดอนุญาตให้เข้ามาขายในวันธรรมดาได้ เช่นเดียวกับนางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางสาวปณัชญา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว ที่ได้ตั้งแผงขายช่วงกลางวันก่อนจะถึงเวลา 15.00 น. ที่จะมีการประกาศผลรางวัลงวดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม ขณะที่นางสาวพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ไม่มาแผงขาย แต่ให้หลานสาวขายแทน

โดยเจ๊เกียว ได้เปิดเผยถึงกรณีที่มีชาวเน็ตพยายามตั้งข้อสังเกตว่า เจ๊ใหญ่แห่งตลาดนัดเรดซิตี้นั้นคือเจ๊เกียว ซึ่งเจ๊เกียวบอกว่า ตนไม่ใช่เจ๊ใหญ่แห่งตลาดเรดซิตี้ เพราะตลาดมีเจ้าของและผู้จัดการที่ดูแลอยู่ ส่วนตนเองเป็นเพียงแม่ค้าที่ค้าขายอยู่ในตลาดมานาน ซึ่งใครจะตั้งฉายาให้ตนอย่างไรคงห้ามไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีที่ศาลจะพิจารณาคดีอาญาก่อน ตนก็เคารพสิทธิของศาลและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่รู้สึกวิตกกังวลหรือหวั่นใจ เพราะอย่างไรก็ต้องพูดความจริง ตนเองก็ยังยืนยันว่าพยานทุกรายที่ขึ้นศาลไม่ต้องกลัวอะไร ได้ยินหรือเห็นเหตุการณ์แค่ไหน ก็พูดเท่านั้น หลังจากนั้นก็แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล

ส่วนกรณีมีคนแสดงความคิดเห็นว่า ลุงจรูญจะต้องเป็นผู้ชนะคดี เจ๊เกียวบอกว่าตนไม่อยากออกความคิดเห็น เพราะบุคคลที่อยากดัง อยากเกาะกระแสในคดีหวยนั้นมีเยอะ คนที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ตรงนี้ตนไม่อยากสนใจ นอกจากนี้ยังมีนักกฎหมายบางคนยังสรุปอะไรที่แปลกเลย ตนมองว่าใครจะพูดอย่างไร ศาลก็ต้องเป็นผู้ตัดสินอยู่ดี ที่ตนบอกว่านักกฎหมายสรุปแปลกก็เพราะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ไม่เห็นเหตุการณ์จริง แต่คิดกันไปต่างๆ นานา เหมือนคนเกาะกระแสที่อยากจะดัง รวมถึงคนในโซเชียลที่เป็นแมลง พวกตัวเผือก นี่เยอะมากเลย ตนอยากจะถามกลับว่ากลั่นแกล้งพวกตนทำไม ตนไปทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งที่พวกตนค้าขายกันอย่างสุจริต สำหรับพยานที่จะเบิกความในชั้นศาลอาญา ตนเองไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง แต่ที่ตนเห็นว่าการซื้อขายขณะนั้นมีอยู่เป็น 10 คน ซึ่งไม่ทราบว่าใครเห็นหรือได้ยินอะไรบ้าง ส่วนพยานรายหนึ่งที่ออกมาบอกว่าไม่เห็นเลข 26 บนแผง ตนก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่าเขาพูดจริง เพราะตนไม่เห็นเลข 26 ทั้งแผงตัวเองและแผงของคนอื่น ซี่งยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ตนอยากให้สังคมดูไปเรื่อยๆ

เจ๊เกียวยืนยันด้วยว่า เจ๊หนิง ผู้จัดการตลาดนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเลย เพราะคนจัดตลาดนัดคือลุงสมบุตร พวกแผงค้าขายต้องขึ้นอยู่กับเขา เพราะต้องจ่ายเงินค่าแผงให้ ส่วนคุณหนิงผู้จัดการตลาดเรดซิตี้ เขาจะเป็นคนคุมลุงสมบุตรอีกทีหนึ่ง ตนเองยืนยันได้ว่าเจ้าของตลาดเรดซิตี้รวยทุกคน เขาไม่อยากมายุ่งกับคดีนี้อยู่แล้ว ซึ่งหากใครออกมาแล้วพูดเรื่องไม่จริง ก็มีสิทธิ์เข้าคุกได้ ส่วนที่มีบุคคลอ้างว่า คนที่อยู่ในคดีหวย 30 ล้าน จะต้องเข้าไปอยู่ในคุกทุกคน ตนคิดว่า เขาเอาตัวรอดให้ได้ก่อน ไม่ต้องห่วงพวกเจ๊ ยังไงพวกเจ๊ก็บริสุทธิ์อยู่แล้ว นอกจากนี้ เจ๊เกียวยังประกาศผ่านสื่อด้วยว่า ตนประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าหวยในตลาดเรดซิตี้ ที่ขายหวยให้กับลุงจรูญรางวัลที่1 มูลค่า30ล้านบาท ให้ออกมาแสดงตัว แล้วไปรับเงินรางวัลกับลุงจรูญ 5 ล้านบาทได้เลย ซึ่งตนประกาศหามา 2 เดือนแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีใครออกมา ตนอยากให้สังคมคิดในแง่นี้สักหน่อย แล้วหากพ่อค้าแม่ค้าคนไหนขายให้ลุงจรูญก็ไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะลุงจรูญเป็นถึงอดีตตำรวจ ตนเป็นแค่แม่ค้าที่มีปากกับความจริงอย่างเดียว ตนก็อยากพิสูจน์ให้สังคมเขารู้ว่าลุงจรูญซื้อจากใคร ซื้อตรงไหน แบบนี้จึงจะแฟร์

ที่ตลาดนัดวัดเขาน้อย นางสาวบุปผา กลัดเพชร แม่ค้าขายไก่สด ระบุว่า ตอนนี้ตนเองได้รับหมายศาลแล้วว่าต้องไปเป็นพยานในศาลอาญา ซึ่งคงให้การในศาลไปตามความจริงว่าครูมาคุยกับตนจริง โดยครูเป็นคนบอกว่าได้เลข 726 มา แต่ไม่ได้เอาสลากมาให้ดู ตอนนั้นตนก็ถามไปว่าทำไมครูเก่งจังหาซื้อได้ ตนจึงพูดคุยเพื่อขอแบ่งซื้อ 1 ใบ แต่ครูบอกว่าแบ่งไม่ได้ มันเป็นหวยชุด ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งขณะนั้นครูไม่ได้หยิบออกมาให้ดู ตนจึงมองว่าหากตอนนนั้นครูแบ่งขายให้ ตนก็จะได้รู้ว่าครูถูกจริงหรือไม่จริง แล้วตนก็จะได้เห็นตัวเลขด้วย แต่เนื่องจากวันนั้นเขาไม่ได้เอาออกมาให้ตนดู นางสาวบุปผา ยอมรับว่าเชื่อว่าครูได้เลขดังกล่าวมาจริง 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะครูชอบเล่นหวย ปกติครูกับตนจะมีการแลกเลขเด็ดกันว่าใครได้เลขอะไร บางครั้งก็นำเลขมารวมกัน ซึ่งงวดนั้นครูปรีชาได้เลข 26 มา ส่วนตนได้เลข 72 มา แต่งวดนั้นตนไม่ได้เล่น 726 ตนเล่น 725 ไป จึงไม่ถูกรางวัล

นางสาวบุปผากล่าวต่อว่า การที่ตนไปเป็นพยาน ตนได้ปรึกษากับทนายความที่รู้จักกันแล้ว และทนายของตนก็ได้พูดคุยกับทนายของครู จึงไม่รู้สึกกังวลหรือกลัวว่าจะต้องติดคุกหากต้องขึ้นศาล เพราะคงเป็นเพียงการไปให้ปากคำว่าครูมาที่ตลาดนัดช่วง 16.30-17.00น. ซึ่งก็พูดไปตามความจริงส่วนใครจะอ้างว่ามีการถูกว่าจ้างพยานมา ตนยืนยันว่าไม่มีการแอบอ้างเป็นพยาน ตนไปช่วยเขาเพราะมีหมายศาลมา และไม่ได้มีผลดีต่อตัวเองเลย คนที่พูดแบบนั้นเขาทำให้ตัวเราเสียหาย อีกทั้งครูจะจ้างด้วยเหตุผลอะไร ในเมื่อตนก็ต้องทำมาหากิน หากผิดพลาดขึ้นมาใครจะดูแลลูกหลานตน ทั้งนี้ หากใครบอกว่าเป็นขบวนการ ตนมองว่าปากชาวบ้านก็คงจะพูดกันไป เพราะหากถ้าคิดจะทำเป็นขบวนการจริงๆ แม่ค้าคงยกกันไปทั้งตลาดแล้ว เพราะการไปเป็นพยานมันเสียเวลาทำมาหากิน ไปเป็นพยานแล้วก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ต่อให้เขาชนะคดี เขาก็ได้เงินของเขา ส่วนตัวเองก็ไม่ได้อะไร ทั้งนี้ ตนเคยบอกครูไปแล้วว่าไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่พี่ชายตนที่เป็นทนายความส่วนตัวเป็นคนมาคุย อีกทั้ง ยังมีหมายศาลมาตั้งแต่ให้ไปขึ้นศาลแพ่งแล้ว แต่ตอนนี้เลื่อนออกไป จึงต้องไปขึ้นศาลอาญาในวันที่ 4 มิ.ย.แทน แล้วหากผลคดีสิ้นสุดแล้วครูปรีชาต้องแพ้คดี มันก็เป็นเรื่องของเขา