"ศิต โมทีฟ" เปิดใจกลางรายการตี 10 เดย์ หลังการห่ายตัวไปว่า วันนั้น เป็นวันทำงานปกติ รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ไม่หยุด ไม่เคยนอนพอติดต่อกัน 4 เดือนกว่า นอนเพียง 15 นาที/วันเท่านั้น หลังโควิดรอบแรก หลายคนบอกผมไม่ใช่คนเป็นหุ่นยนต์มากกว่า อีกอย่างอาจจะกดดันตัวเองด้วย เพราะไม่มีงานเลยจนผ่านพ้นโควิดรอบแรกมา ก็รีบทำงานหาเงิน มีประมาณ 26 ธุรกิจ มีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ลืมนึกไปว่า มีเราทำแค่คนเดียว
วันที่เกิดเหตุ คือ ไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากไปพัก แล้ววันรุ่งขึ้นจริงๆ มีงาน ทุกอย่างปกติ ถามว่ารู้ตัวเองไหมว่าป่วยซึมเศร้า ก็มีศึกษาบ้าง ปรึกษากูเกิ้ล ตรวจสอบตัวเอง ซึ่งมันก็ตรงกับเรา แต่ยังไม่เชื่อ เช่น เหงาเล่นโทรศัพท์คนเดียว ไม่คุยกับคนรอบข้าง พ่อแม่ไม่คุยทั้งที่รักท่านมาก
พอเคลียร์งานไรเสร็จ ก็ขับรถไปหัวหิน เป็นรีสอร์ทที่เคยไปทำออแกไนซ์ให้น้องคนหนึ่ง พอขับรถได้ชั่วโมงแรก ก็ปิดโทรศัพท์เลย ไม่อยากรับงานแล้ว แต่เขียนไว้ให้เพื่อน ว่า อยากพัก วันนั้นคิดแค่ว่า "เอาว่ะ ไม่กลับดู จะทำงานได้ไหม" พอปิดโทรศัพท์แล้วติดใจ ปิดโทรทัศน์ ปิดทุกอย่าง สบายใจมากๆ ดีคือสงบ ไม่ดีคือเหงาสุดๆ
เข้าสู่ 48 ชม. แต่ของที่พกไป กลับจะนำพาไปสู่การฆ่าตัวตาย ศิต เผยว่า กระเป๋าทุกใบของผม ชอบพกอุปกรณ์งานช่างติดทุกใบ ของใช้ปกติ และของสำหรับทำงาน ในกระเป๋าช่างก็จะมี เชือก คัตเตอร์ เทป เป็นต้น ซึ่งเชือกมันกลายเป็นประเด็นนำพาไปว่าผมจะฆ่าตัวตาย ซึ่งเห็นว่ามีการผูกกับบันได
คืนวันนั้น ผมป่วยภูมิแพ้ต้องกินยาแก้แพ้ เป็นแบบเม็ดใหญ่กว่าปกติ 2 เม็ด ยาอักเสบ 2 เม็ด ยาแก้ไอน้ำดำ เพราะมีอาการไอ แล้ววันรุ่งขึ้นผมต้องกลับไปร้องเพลงคอนเสิร์ต ส่วนกาแฟที่เห็นเยอะๆ ปกติผมจะทานกาแฟ 7-10 กระป๋อง/วัน ทานเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่วคืนนั้น คิดว่าตัวเองคง ดิ่งครับ เราเป็นโรค เราเหงา เราเศร้า อกหัก แต่อกหักไม่ใช่เหตุผลในการฆ่าตัวตาย
ตอนที่ไปผูกเชือก รู้ตัวครึ่งหนึ่ง พยายามจะผูก และมีอาการไข้ขึ้น ตื่นไม่หลับ กาแฟกับยามันกด จำได้ว่ามันผูกไม่ได้ ดึงๆ กระตุกๆ หลุด ถามว่าจะฆ่าตัวตายใช่ไหม ศิต บอกว่า ตอบไม่ได้ มันเป็นเสี้ยววินาที กึ่งหลับกึ่งตื่น
การหายตัวไปไม่ใช่ครั้งแรก ศิต ยอมรับว่า เคยครับ บนสะพานแขวน ผมไม่กลัวตาย แต่พอคิดได้ว่าถ้าไม่ตายจะทรมานผมก็เลิก ถามว่ารู้ตัวไหมว่าป่วยซึมเศร้า ก็รู้แล้วครับว่าเป็นซึมเศร้าแต่ไม่กินยา ไม่หาหมอ รอให้สุดจริงๆ ก่อนค่อยไป อยากขอแก้ด้วยตัวเองก่อน หลังจากที่ผมหายไป ผมมั่นใจว่า ผมสามารถโยนงานให้วง ให้เพื่อนได้ เพื่อไปพักผ่อนตัวเองให้มากๆ ขึ้น.
