สุดทรหด! รพ.บ้านแพ้วเสี่ยงชีวิตผ่าคลอดสาวโควิด ซ้อมเสมือนจริงถ้าพลาดติดทั้งรพ. (คลิป)

กรณีแพทย์หญิงรายหนึ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เล่าเรื่องราวการทำคลอด แม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งติดเชื้อจากพ่อที่ทำงานตลาดทะเลไทย ซึ่งจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

ล่าสุดวันที่ 7 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง รพ.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ได้พูดคุยกับทีมแพทย์ที่ทำการผ่าตัด รวมถึงดูแลแม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 และเด็กที่คลอดออกมา

นพ.แสนศักดิ์ ลิขิตพงษ์วิทย์ ผู้ช่วยผอ.ด้านการแพทย์ กล่าวว่า หญิงรายนี้ได้ฝากครรภ์ที่ รพ.บ้านแพ้ว และมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จากชุมชน โดยได้เข้ามาตรวจโควิด-19 ในวันที่ 30 ธ.ค.63 พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้น 31 ธ.ค.63 ทีมแพทย์รับตัวมาดูแลที่โรงพยาบาล โดยให้พักในห้องแยกโรค ดูแลตามมาตรฐานผู้ป่วยโควิด-19

จากนั้นทางโรงพยาบาลเริ่มวางแผนการผ่าคลอด เนื่องจากภาวะโควิด-19 ร่วมกับตั้งครรภ์ ยาบางตัวไม่สามารถใช้ได้ กระทั่งวันที่ 4 ม.ค.64 ทีมแพทย์พยาบาลประชุมร่วมกันว่าจะให้ผ่าคลอดในวันที่ 6 ม.ค.64 จึงมีการซ้อมแผนใหญ่ก่อนคลอด ทีมที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดกว่า 30 คนต้องซ้อมเหมือนจริง

ตั้งแต่รับแม่ลงมาจากห้องพักชั้น 3 โดยรถเข็นความดันลบที่มีตัวดูดอากาศ และกรองอากาศด้านใน เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกมา รวมถึงใช้เวรเปลเคลียร์เส้นทางที่รถเข็นผ่าน ไม่ให้คนไข้หรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นอยู่ในเส้นทาง

เมื่อรถเข็นผ่านต้องฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด กระทั่งถึงห้องคลอด ที่เตรียมไว้สำหรับผ่าเคสโควิด-19 โดยเฉพาะ

นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.รพ.บ้านแพ้ว ระบุว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันสำหรับทีมแพทย์และพยาบาล ที่ต้องใช้สำหรับการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งหากเป็นไปได้ก็อยากเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาบริจาค หรืออาจจะบริจาคเป็นเงินเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว เพราะทีมแพทย์พยาบาลเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม สามารถบริจาคผ่านชื่อบัญชี โครงการช่วยหมอสู้ภัยโควิด โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 745-0-54588-8 

พญ.ดวงทิพย์ สิงหาคุณ สูตินรีแพทย์ กล่าวว่า หลังทราบว่าต้องผ่าคลอดแม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 ต้องเตรียมการซ้อมแผน โดยเฉพาะอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง ซึ่งต้องซ้อมใส่และถอดกว่า 20 รอบ เพราะหากทำไม่ได้มาตรฐาน จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19

สำหรับอุปกรณ์ที่ใส่มีทั้งถุงมือพลาสติก 3 ชั้น และถุงมือปลอดเชื้อสำหรับผ่าตัดอีก 1 ชั้น ชุดหมีหุ้มทั้งศีรษะ เอี้ยมพลาสติก หมวกคลุม เฟซชิลด์ ถุงหุ้มเท้า รองเท้าบูท เสื้อกาวน์สำหรับผ่าตัด หน้ากาก n95 และสวมทับด้วยหน้ากากอนามัย สำหรับตนที่ใส่แว่นสายตาด้วยต้องใช้พลาสเตอร์ปิดทับอีกชั้นให้แว่นแนบสนิทกับใบหน้า

ในชีวิตการผ่าคลอดเป็นครั้งแรกที่ต้องใช้ถุงมือถึง 4 ชั้น และภายในห้องผ่าคลอดปกติต้องปิดแอร์ เพื่อลดอุณหภูมิเมื่อเด็กคลอดออกมาจะได้ไม่เกิดภาวะตัวเย็น การใส่อุปกรณ์หลายชั้นก็มีอุปสรรคเรื่องของอากาศที่ค่อนข้างร้อน

โดยช่วงผ่าตัดค่อนข้างตื่นเต้น พยายามทำทุกอย่างไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ซึ่งตนก็มีที่พึ่งทางใจด้วยการแปะสติ๊กเกอร์หลวงพ่อโต วัดหลักสี่ อ.บ้านแพ้ว ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบ้านแพ้วไว้ที่หน้าอก ให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ซึ่งผลการผ่าตัดก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งแม่และลูกปลอดภัย มีทีมรับไปดูแลต่อเรียบร้อยแล้ว

สำหรับทีมที่ดูแลหญิงตั้งครรภ์ เริ่มจากเวรเปล ใช้รถเข็นความดันลบรับตัวแม่ลงมาจากห้องพักฟื้น ทีมเวรเปลอีกส่วนเคลียร์ทาง ทีมพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลกว่า 10 คนรอรับหน้าห้องผ่าตัด ส่งต่อให้ทีมผ่าในห้องผ่าตัด ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 7 คน หมอวิสัญญี 1 คน หมอผ่าตัด 1 คน พยาบาลวิสัญญี 1 คน พยาบาลช่วยผ่าตัด 2 คน ผู้ช่วยเหลือคนไข้ 2 คน ซึ่งทั้งหมดต้องใส่ชุดป้องกันสูงสุด ก่อนจะมีทีมกุมารแพทย์มารับตัวเด็กออกไป

พญ.ชานิยา แจ่มใส กุมารแพทย์ รพ.บ้านแพ้ว กล่าวว่า หลังผ่าคลอดเสร็จทีมกุมารแพทย์ แบ่งเป็น 2 ทีม โดยทีมแรกเป็นทีมดูอาการแรกคลอด จะยืนรออยู้ข้างห้องคลอด ประกอบด้วยกุมารแพทย์ 1 คน พยาบาล 1 คน และผู้ช่วยพยาบาลอีก 1 คน จากนั้นจะมีอีกทีมเป็นกุมารแพทย์อีกคน พยาบาลและเวรเปล นำเด็กใส่ตู้อบมาไว้ที่ห้อง nicu แบบความดันลบ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19

โดยกรณีนี้เด็กมีภาวะตัวเล็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทางทีมก็เตรียมความพร้อม ด้วยการฝึกใส่ท่อช่วยหายใจผ่านกล้อง เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง จนมีความชำนาญ ซึ่งทีมกุมารแพทย์ก็ฝึกเรื่องการรับเด็กออกมาจากห้องคลอด และการใส่อุปกรณ์ป้องกันขั้นสูงสุดเหมือนกับทีมผ่าตัด ต่างกันที่ไม่ต้องใส่ถุงมือปลอดเชื้อชั้นที่ 4 และเสื้อสำหรับผ่าตัดเท่านั้น

ทั้งนี้เด็กคลอดออกมาที่น้ำหนัก 2,270 กรัม ค่อนข้างตัวเล็ก มีภาวะการเจริญเติบโตช้า และน้ำตาลต่ำ ตอนนี้แพทย์ดูแลใกล้ชิดอาการเริ่มดีขึ้น ส่วนเรื่องเชื้อโควิด-19 ในข้อมูลต่างประเทศที่ระบาดมาก่อน ไม่พบว่ามีการติดเชื้อจากครรค์มารดา แต่อาจปนเปื้อนระหว่างการคลอด ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจหาเชื้อไปแล้ว 1 รอบหลังผ่าคลอด 24 ชั่วโมง กำลังรอผล หลังจากนี้ต้องตรวจอีก 1 รอบหลังคลอด 48 ชั่วโมง หากผลเป็นลบทั้ง 2 รอบ ยืนยันได้ว่าไม่ติดเชื้อ ญาติสามารถรับไปดูแลได้ ซึ่งญาติจะต้องทำการตรวจเชื้อจากทางโรงพยาบาล 2 ครั้ง และผลต้องออกมาว่าไม่พบเชื้อก่อนจึงจะสามารถนำเด็กไปดูแลได้

ส่วนแม่เด็กยังต้องแยกออกห้อง เพราะยังติดเชื้อโควิด-19 จึงยังไม่สามารถดูแลลูกได้ โดยการให้นมขณะนี้ใช้เป็นนมผงเด็กแรกเกิด ซึ่งก็ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านน้ำนมแม่ แต่อาจจะปนเปื้อนผ่านน้ำมูก น้ำลายได้ ตอนนี้แม่ผ่าคลอดยังเจ็บแผล ไม่สามารถให้นมเองได้ แต่หากอาการดีขึ้นคิดว่าจะให้แม่ใส่ผ้าปิดปาก และล้างมือ เพื่อบีบน้ำนมใส่ขวดมาให้ลูกได้ดื่ม เพราะนมแม่มีภูมิคุ้มกันเชื้อโควิด-19 ให้ลูกได้