กรณีบริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปจำกัด ได้นำตัวพนักงานกว่า 20,000 คน เข้าตรวจสืบหาเชื้อโรคโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ทั้งนี้เมื่อสรุปยอดรวมผู้ที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ จำนวน 23,630 คน หรือมากกว่าร้อยละ 85 จากจำนวนพนักงานที่ปฏิบัติงานใน จ.สมุทรสาคร ทั้งสิ้น 27,552 คน และได้รับผลยืนยันจากการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธีการทำ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด-19 เพียงร้อยละ 0.29 หรือ เพียง 69 คน
ล่าสุดวันที่ 6 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) อยู่ในซอยชุมชนเศรษฐกิจ 13 จากสภาพโดยรอบจะเห็นได้ว่าเป็นชุมชนแออัด และมีพนักงานแรงงานต่างด้าวค่อนข้างเยอะ มีพนักงานทั้งแรงงานต่างด้าวและแรงงานชาวไทย เดินเข้าออกซื้อของในซอยอยู่ตลอด
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถามกับนางอารีย์รัตน์ พรหมนา อายุ 40 ปี ชาวบ้านใกล้เคียง บอกว่า จากที่บริษัทแถลงนั้นเป็นเรื่องจริง แต่โรงงานนั้นค่อนข้างดีมีมาตรการในการตรวจคัดกรองอย่างดี อีกทั้งยังได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน ดูแลพนักงานดี
โดยรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะว่าอาศัยอยู่ตรงนี้มานานกว่า 20 ปี และบริเวณที่พักอาศัยนั้นอยู่บริเวณละแวกที่มีผู้ติดเชื้อค่อนข้างเยอะ เป็นหลักพันกว่าคน เนื่องจากผู้ที่สัญจรผ่านไปมาระหว่างซอยนั้นจะเป็นแรงงานต่างด้าวมากกว่าพนักงานคนไทย โดยได้บอกว่าคนไทยในละแวกนี้ ได้มีการป้องกันดูแลตัวเองอย่างดี อีกทั้งยังบอกอีกว่าต่างด้าวไม่ค่อยมีความตระหนักในเรื่องของการป้องกันโรคระบาด โควิด-19 สวมแมสก์บริเวณคางบ้าง ปิดไม่ทั่วจมูก ไม่ป้องกันบ้าง
นอกจากนี้ตนสูญเสียรายได้ไปค่อนข้างเยอะ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้สูญเสียรายได้ไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่เคยขายได้ 10,000 บาท ลดเหลือน้อยกว่า 5,000 บาทต่อวัน และเรื่องของรายจ่ายต่อเดือนนั้น ไม่สัมพันธ์กันกับรายรับที่ได้มา หากหยุดรายได้ก็ไม่มีเข้ามา โดยมีรายจ่ายต่อเดือน ทั้งค่าเช่าตึก 30,000 บาท ค่ารถ 10,000 บาท และรายจ่ายต่าง ๆ ของลูก 4 คน วันละ เกือบ 1,000 บาท ตอนนี้จึงค่อนข้างแย่และลำบาก
อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากฝากถึงหน่วยงานใน จ.สมุทรสาคร หากทราบว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อยากให้มีการประสานงานมารับตัวผู้ป่วยให้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานดำเนินการค่อนข้างล่าช้า
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นางสมควร สายคง อายุ 65 ปี แม่ค้าผักในซอย ชุมชนเศรษฐกิจ 13 กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวล เนื่องจากลูกค้าที่มาซื้อร้านของตนนั้นเป็นลูกค้าคนไทย โดยแรงงานต่างด้าวไม่เคยมาซื้อผักที่ร้านเลย เมื่อสมัย 10 ปีก่อนที่ยังไม่มีแรงงานต่างด้าวเยอะขนาดนี้ ที่ร้านขายได้ค่อนข้างดี
แต่สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันขายได้เพียง ประมาณ 3,000 บาทต่อวัน ต้องระวังตัวอยู่ตลอดและได้มีการใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ในการฉีดตะกร้าใส่ผัก และใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดเงินที่รับมาในทุกครั้ง ตนยืนยันว่าได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาแล้ว สบายใจไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
