สุดสยอง 2 หนุ่มขนศพเปลือยทิ้งถนน ทำใจดีแวะห่มผ้าให้ ตำรวจบุกจับคาดช็อกยา (คลิป)

กรณีเพจเฟซบุ๊ก "อาสาสมัครดับเพลิงและกู้ภัย ฐานบุญวิภา" โพสต์ข้อความระบุว่า "6/1/64 #ฐานบุญวิภา ขออนุญาตไม่เบลอภาพครับ ตามหาญาติครับ ใครพอรู้จักบุคคลในภาพเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี ใครพอรู้จักรบกวนติดต่อด้วยครับ ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะครับ เสียชีวิตอยู่ในหมู่บ้านบุษรา เพชรเกษม 81 พื้นที่เขตหนองแขม กรุงเทพฯ #ฝากแชร์ด้วยครับ ไม่ใช่คนในพื้นที่ครับ"

ล่าสุดวันที่ 6 ม.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านบุษรา เพชรเกษม 81 พบว่าเป็นหมู่บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ซึ่งเมื่อสอบถามชาวบ้าน พบว่าบริเวณแถวนั้นจะเป็นบ้านพักอาศัย และจะเปิดเป็นบริษัท ส่วนสถานที่พบศพนั้น เป็นข้างกำแพงของบริษัทรับตรวจสอบบัญชีและบริษัทเย็บผ้า

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้กล้องวงจรปิด ขณะที่มีชาย 2 คน ได้จอดรถเก๋งสีดำ พร้อมกับเปิดฝากระโปรงรถ ขณะเดียวกันทำท่าทีเหมือนคุยกัน ก่อนที่จะนำร่างทิ้งไว้บริเวณริมกำแพงบริษัท ภายในหมู่บ้านบุษรา แล้วรีบขับรถออกไป ต่อมาได้ถอยรถกลับมา พร้อมกับลงมาจากรถแล้วนำผ้าห่มมาคลุมศพ ก่อนจะขับรถหลบหนีออกไป

น.ส.อารีย์ รัตนมณี อายุ 46 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ภายหลังจากพบศพชายนิรนาม ชาวบ้านได้เล่าให้ตนฟังว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ประมาณเวลา 06.00 น. คนในหมู่บ้านที่ออกกำลังกาย ไปพบเจอร่างของชายรายหนึ่ง ที่นอนอยู่ริมกำแพง แต่ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นเพียงคนเมาสุราแล้วนอนหลับ ผ่านไปสักพักได้เข้าไปดูจนพบว่าชายรายดังกล่าวเสียชีวิต ก่อนจะรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะเดียวกันตนได้มาที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เชือกกั้นเอาไว้ จากที่ตนสังเกตระยะไกลนั้น ไม่พบเห็นว่าศพมีเลือดไหลออกมา สภาพศพนอนหงาย มีผ้าหุ่มปกคลุม เหมือนคนเมาแล้วนอนหลับ ท่อนบนพกช้ำเป็นสีเขียวออกดำ ส่วนช่วงท่อนล่างยังเป็นสีผิวปกติ

น.ส.อารีย์ ยังกล่าวต่อว่า ชายรายดังกล่าวตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน และคาดว่าน่าจะไม่ใช่คนในหมู่บ้าน และคนในชุมชนละแวกนี้ หากเป็นคนบริเวณละแวกนี้ตนคงจะรู้จัก เพราะตนขี่วินรับจ้างมานานแล้ว นอกจากนี้ตนคาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำมาทิ้ง เนื่องจากร่างกายท่อนบนผิดปกติ ร่างกายช้ำเป็นสีเขียวออกดำ เหมือนคนเสียชีวิตมานานแล้ว แต่ส่วนสาเหตุนั้นน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 5 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ตนขี่รถอยู่ตรงบริเวณเกิดเหตุทั้งวัน ไม่พบสิ่งผิดปกติ และช่วงกลางคืนบริเวณดังกล่าวจะมีผู้คนพลุกพล่าน ตนไม่คิดว่าจะมีคนกล้านำร่างของผู้เสียชีวิตมาทิ้งไว้แบบนี้ ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นหากเป็นการฆาตกรรมจริง ตนก็อยากจะให้ผู้ก่อเหตุออกมารับโทษ

ในเวลา 19.40 น. ที่สน.หนองแขม ได้มีญาติมาแสดงตัวเป็นญาติของศพชายเปลือยกาย และทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา นายชลิต เณรทรัพย์ อายุ 33 ปี

นายวัน (นามสมมติ) อายุ 62 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวเมื่อช่วงเย็นนี้ที่ผ่านมา โดยลูกชายคนโตได้โทรมาบอกว่าให้ตนทำใจ และสามารถรับฟังเรื่องที่ร้ายแรงได้หรือไม่ เพราะตนมีโรคประจำตัว เป็นความดันสูง แต่ตนก็บอกกับลูกชายคนโตว่าสามารถรับฟังได้ จึงทราบว่าลูกชายคนกลางถูกฆาตกรรม

ขณะนั้นความรู้สึกของตนเสียใจ ถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุว่าลูกชายคนกลาง ไปมีเรื่องอะไรกับใคร ภายหลังตนได้โทรไปแจ้งกับภรรยาแล้ว ซึ่งอยู่ในอาการที่ตกใจร้องไห้ พูดจาไม่รู้เรื่อง โดยตนนั้นได้เลิกรากับแม่ของผู้เสียชีวิตมานานกว่า 20 ปีแล้ว ลูกชายคนกลางหรือผู้เสียชีวิตได้ไปอาศัยอยู่กับอดีตภรรยาของตนที่ จ.สุราษฎร์ธานี

และผู้เสียชีวิตเพิ่งมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ได้ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งไม่ค่อยได้ติดต่อกับตน ส่วนมากก็จะไลน์มาอวยพร ส่งรูปพระมาให้ แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่ได้เปิดไลน์ เพราะเนื่องจากใช้สายตาเยอะ ภายหลังที่ลูกชายมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตนไม่ทราบว่าไปมีเรื่องกับใคร คบเพื่อนแบบไหน ใช้ชีวิตอย่างไร ทำงานที่ไหน

ทั้งนี้ตนขอสาบานว่า ตนไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ ส่วนลักษณะนิสัยใจคอนั้นเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูดจา และที่ผ่านมาไม่ได้โทรมาปรึกษาปัญหาชีวิต กรณีที่เกิดขึ้นหากผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายหรือฆาตกรรมจริง ตนก็อยากจะถามผู้ก่อเหตุว่าทำไมถึงก่อเหตุร้ายแรง ทำไมไม่เรียกมาตักเตือน และสาเหตุมันเกิดจากอะไร และยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าจะมาขอขมา อย่างไรก็ตาม หากลูกชายของตนเสียชีวิตเอง ตนก็จะสบายใจมากกว่า เพราะเขาจะได้ไม่เจ็บปวด

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้สอบถามพี่ชายผู้เสียชีวิต พบว่าได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา โดยชวนไปเที่ยวที่พัทยา จ.ชลบุรี แต่ผู้เสียชีวิตปฏิเสธ เนื่องจากเพิ่งได้งานใหม่ คือขายประกัน ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตไม่เคยโทรมาปรึกษาปัญหาชีวิต ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่า สาเหตุการตายคืออะไร อย่างไรก็ตาม อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้เร็วที่สุด

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายศักราช เหล็งโป้ อายุ 32 ปี อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รับแจ้งจากศูนย์วิทยุวิชัยเวชอ้อมน้อย มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ภายในหมู่บ้านบุษรา ซอยเพชรเกษม 81 จึงรุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง ศพยังไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น ไม่มีเอกสารหลักฐานติดตัวบ่งบอกว่า เป็นใครมาจากไหน ส่วนสภาพศพนอนหงาย ถูกปกคลุมด้วยผ้าห่มสีชมพู ไม่สวมใส่เสื้อผ้า มีบาดแผลรอยถลอกตรงบริเวณเข่าด้านขวา และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังได้ชี้แจงว่า มีรอยช้ำบริเวณลำคอ แต่ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ถูกฆาตกรรมหรือไม่

โดยในที่เกิดเหตุ ไม่มีใครทราบว่าผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวเป็นใครมาจากไหน และตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่า ผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวจะเป็นคนในละแวกนี้หรือไม่ แต่จากการที่เจ้าพนักงานตำรวจได้เปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ามีรถเก๋งยี่ห้อ Toyota Vios สีดำ ไม่ทราบป้ายทะเบียนรถ ได้ขับรถเข้ามาภายในหมู่บ้านเวลาประมาณ 23.50 น. และได้ถอยรถมายังบริเวณ จุดที่พบศพ จากนั้นได้นำศพมาทิ้งไว้ ก่อนจะขับรถออกไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้ตั้งข้อสันนิษฐานการเสียชีวิตของชายรายดังกล่าวว่า น่าจะถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาทิ้งไว้ และอาจจะเป็นบุคคลที่เสพยาเสพติด แล้วเกิดอาการช็อกกะทันหัน เพื่อนจึงนำศพมาทิ้ง อย่างไรก็ตามตรงบริเวณที่เกิดเหตุนั้น ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวจะเป็นคนในละแวกนี้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีญาติมาติดต่อรับศพ โดยร่างของชายรายดังกล่าวถูกส่งชันสูตรพลิกศพที่นิติเวช รพ.ศิริราช

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 22.28 น. เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย เป็นชาย 2 คน จับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ย่านเลียบคลองทวีวัฒนา เบื้องต้นพบว่าภายในห้องพักของผู้ต้องสงสัยพบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง (ไอซ์) ซึ่งทางนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบต่อไป