โผล่อีก! เหยื่อ กิน Lyn ลดพุงลงฮวบ 8 โล ถ่าย 8 รอบร่างโทรม หยุดกินน้ำหนักพุ่ง (คลิป)

1 พ.ค. 61
จากกรณีนักธุรกิจกินยาลดน้ำหนัก ยี่ห้อลีน (Lyn) เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน นำมาสู่การขยายผลตรวจสอบ และจับกุมเจ้าของผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักดังกล่าว วันนี้ (30 เม.ย.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยี่ห้อลิน (Lyn) จำนวน 62,000 กล่อง มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 24,180,000 ล้านบาท
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. (ขวา), พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. (ขวา)
โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) เข้าตรวจค้นโรงงานบรรจุผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lyn จำนวน 2 แห่ง ในพื้นที่ปทุมธานี และชลบุรี และจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พบสารต้องห้าม 2 ชนิด คือ ไซบูรามีน ไฮโดรคลอไรด์ มีฤทธิ์กล่อมประสาทส่วนกลาง ทำให้ไม่อยากอาหาร ซึ่งมีผลข้างเคียงกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และสารไบซาโคดิส มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ซึ่งสารต้องห้ามทั้ง 2 ตัวนั้น สำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้สั่งยกเลิกการผลิตไปแล้ว แต่มีการลักลอบเข้ามาในประเทศ เพื่อผสมกับอาหารเสริมชนิดต่างๆ ซึ่งหากรับปทานติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ก็จะส่งผลเสียกับร่างกาย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lyn ที่กองปราบตรวจยืดได้
และที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว 4 ราย ประกอบด้วย รายที่ 1 นางสาวพิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี มีอาการแน่นหน้าอกก่อนจะหมดสติ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 61 โดยญาติระบุว่าผู้เสียชีวิตรับประทานอาหารเสริมยี่ห้อ Lyn กล่องสีขาว และสีดำ เป็นเวลา 30 วัน เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี, รายที่ 2 นายณัฐพนธ์ บุญเทียม อายุ 33 ปี มีอาการอ่อนเพลียและไขมันในเส้นเลือดอุดตัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 61 โดยญาติระบุว่า ผู้ตายรับประทานอาหารเสริมยี่ห้อ Lyn กล่องสีดำ เป็นเวลา 10 วัน เหตุเกิดในพื้นที่ สน.ปทุมวัน, รายที่ 3 นายประภัทร ลำไย อายุ 48 ปี มีอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 61 โดยญาติระบุว่า ผู้ตายรับประทานอาหารเสริมยี่ห้อ Lyn กล่องสีขาวและสีดำ เป็นเวลา 45 วัน เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว และรายที่ 4 เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 61 ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้แจ้งเตือนประชาชนว่า อย่ารับประทานอาหารเสริมดังกล่าว เพราะมีผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง และหากพบว่าผู้ใดมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จะผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดี ในข้อหาจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นางณัฐฏณิชา หะนันตะ ผู้เคยใช้ผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนัก Lyn
อย่างไรก็ตาม วันนี้ นางณัฐฏณิชา หะนันตะ อายุ 27 ปี ผู้เคยใช้ผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนัก Lyn ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ด้วยว่า ตนเริ่มกินผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าคนขายหุ่นดี ซึ่งปกติตนน้ำหนัก 60 กิโลกรัม สูง 161 เซนติเมตร โดยอยากลดพุง จึงตัดสินใจสั่งมากิน ซึ่งคนขายแนะนำให้สั่งเป็นชุด จำนวน 5 กล่อง ประกอบไปด้วย Lyn กล่องสีขาว ซึ่งเป็นตัวบล็อกไขมัน 3 กล่อง และกล่องสีดำ ซึ่งเป็นตัวช่วยดีท็อกซ์ จำนวน 2 กล่อง ในราคาชุดละ 1,450 บาท โดยคนขายบอกว่า ต้องกินกล่องขาวตอนตื่นนอนวันละ 1 เม็ด ส่วนกล่องสีดำกินก่อนนอน วันละ 1 เม็ด เช่นเดียวกัน โดยช่วงแรกที่กิน ตนขับถ่ายบางวันมากถึง 8 ครั้ง โดยอุจจาระก็มีกลิ่นเหม็น เมื่อสอบถามคนขายระบุว่า เป็นการปรับสภาพของลำไส้ตามปกติ นอกจากนี้ตนยังหิวน้ำและใจสั่น รวมถึงไม่อยากกินข้าวตลอดทั้งวัน ทำให้ช่วงอาทิตย์แรก น้ำหนักลดลงไป ประมาณ 8-9 กิโลกรัม ซึ่งตนรู้สึกว่าเห็นผลดี จึงแนะนำให้แฟนกินด้วย เมื่อกินได้ประมาณ 3 ชุด ก็รู้สึกว่าท้องเสียหนักมากจึงไปหาหมอ โดยหมอแนะนำให้ลองหยุดกินยาลดน้ำหนักดังกล่าว ซึ่งเมื่อหยุดกิน ระบบขับถ่ายก็กลับมาเป็นปกติ
ยาลดน้ำหนัก Lyn ที่นางณัฐฏณิชา ซื้อมากิน
โดยช่วงที่หยุดกิน อย.ยังไม่ประกาศออกมาว่า ยาลดน้ำหนักดังกล่าวใส่สารอันตราย ตนจึงตั้งใจว่า เมื่อหายดีจะกลับไปกินต่อ แต่หลังจากหยุดกินไปประมาณ 4-5 วัน ก็มีประกาศของ อย.ออกมา ตนจึงเลิกกินแบบถาวร ซึ่งก็พบว่า เริ่มมีอาการโยโย่เอฟเฟค คือกลับมากินเยอะกว่าเดิม น้ำหนักเพิ่มขึ้น 6-7 กิโลกรัม ในเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังปวดศีรษะ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาลดน้ำหนักหรือไม่ รวมถึงเพื่อนๆ ต่างทักว่าตนดูโทรมกว่าปกติ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนไม่กล้ากลับไปกินยาลดน้ำหนักอีกเลย ทั้งนี้ยังรู้สึกไม่ดี เพราะได้แนะนำให้คนรู้จักหลายคนกินยาลดน้ำหนักดังกล่าวด้วย เนื่องจากคิดว่าเห็นผลจริง จนถึงขั้นคิดจะเปิดบิลเป็นตัวแทนจำหน่าย ตนยอมรับว่า ไม่ได้ตรวจสอบ อย. เพราะเชื่อคำพูดของคนขายที่ทำให้ตนตัดสินใจซื้อมากิน
หมอบอนด์ และภรรยาร่วมกันรีวิวและโฆษณาให้รับประทานผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิก สกิน
ขณะเดียวกันกรรมการแพทยสภาได้มีการเรียก นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษณ์ หรือหมอบอนด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม มาสอบก่อนจะพิจารณาบทลงโทษ ซึ่งมีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน, พักใบอนุญาตชั่วคราว ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาต หลังพบว่าหมอบอนด์ และนางสาวปวีณา นามสงคราม ภรรยาของหมอบอนด์ ได้ร่วมกันรีวิวและโฆษณา เชิญชวนให้รับประทานผลิตภัณฑ์คลีโอ ซึ่งเป็นสินค้าในเครือเมจิก สกิน ในรายการของนายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือหญิงย้วย เนื่องจากหมอบอนด์เป็นผู้ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จึงอาจเข้าข่ายเป็นความผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณแพทย์ ซึ่งเนื้อหาในการรีวิวนั้น หมอบอนด์ได้พูดในลักษณะเน้นย้ำว่า ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย จึงอาจทำให้คนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ