แพทย์แถลงอาการ "โจอี้ บาซู" ดีขึ้น! (คลิป)

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (30 เม.ย.) ทางทีมแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยของ อดีตนักร้องชื่อดัง "โจอี้ บาซู" ที่ล้มป่วยจนเป็นอัพพาตครึ่งซีก ไม่สามารถพูดและขยับตัวได้

โดยตอนแรก โจอี้ รักษาตัวที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 เม.ย.) ได้ทำเรื่องย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จากนั้นได้ทำการรักษาเรื่อยมา จนถึงวันนี้เป็นเวลา 3 วัน ทางทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ แถลงข่าวว่า ตอนนี้อาการของโจอี้ดีขึ้นมาก แต่ต้องรอประเมินอาการอีก 3 เดือน เพราะโรคเส้นเลือดในสมองตีบเป็นภาวะวิกฤติ ปัจจุบันไข้ลดแล้ว แต่ยังไม่สามารถพูดได้ และยังทานอาหารเองไม่ได้ จึงยังต้องให้อาหารทางสายยาง

พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านบริการทางการแพทย์ และรักษาการรองอธิบดีวิทยาลัยวิทยาศาตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ระบุว่า เกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 เม.ย. คนไข้กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แล้วเสียงโทรศัพท์หายไป ก่อนไปพบว่าคนไข้ล้ม พอมีคนไปพบก็นำส่งโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา โดยคนไข้มาด้วยอาการแขนข้างขวาอ่อนแรง พูดสื่อความหมายไม่ได้ ทางโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาได้ทำการซีทีสมอง โดยสงสัยว่าอาจจะมีสมองตายเฉียบพลัน จากอาการขาดเลือดไปเลี้ยง ได้ดำเนินการรักษาตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ระหว่างการเริ่มรักษาก็มีไข้ มีการรักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อแล้ว มีการทำกายภาพบำบัดคนไข้ จนกระทั่งมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คนไข้ก็แจ้งความต้องการว่าจะย้ายมาที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ หลังจากนั้นก็รู้สึกตัวดีพอสมควร ไข้เริ่มลดลง คุยพอรู้เรื่อง แพทย์ได้ทำเอ็มอาร์ไอซ้ำ ยังพบว่ายังมีสมองส่วนที่ตายข้างซ้ายอยู่ จึงให้ยาฆ่าเชื้อต่อ สำหรับการวางแผนการรักษา ก็จะรักษาเหมือนคนไข้ที่มีอาการแกนสมองตาย ใช้เวลาทั้งหมดในการประเมินคนไข้อีก 3 เดือน ช่วงนี้ก็ดูอาการต่อ ทำกายภาพเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาแพทย์ปัญญาส่งสิทธิมาให้ ใช้สิทธิ 30 บาทต่อได้ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ แต่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเล็กน้อย

ด้านแพทย์หญิงอาทิตา ชูหลำ แพทย์เฉพาะทางระบบประสาท ระบุว่า เบื้องต้นคนไข้เป็นหลอดเลือดสมองขาดเลือด ต้องหาสาเหตุว่าขาดเลือดจากอะไร เบื้องต้นหมอดู MRI มีเส้นเลือดสมองขรุขระ หลอดเลือดตีบจริง พอหาสาเหตุเพิ่มเติมก็พบว่าคนไข้มีไขมันสูง แต่ว่าในภาวะอื่นๆ ต้องติดตามรอดูอาการและหาสาเหตุต่อไปว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ส่วนที่คนไข้จะเป็นอัมพาตหรือไม่นั้น จากอาการตอนนี้อ่อนแรงครึ่งซีกด้านขวา เรื่องการสื่อสารมีเนื้อสมองเสียตรงด้านการสื่อสารด้วย จึงยังสื่อสารได้ไม่ชัดเจน ซึ่งแนวโน้มการรักษา ตั้งแต่เริ่มมาถึงขณะนี้ ที่ดีขึ้นคือไข้ลดลงแล้ว อย่างอื่นยังไม่เจอภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง อาการค่อนข้างคงที่ ที่ดูแลต่อเนื่องคือเรื่องสมอง ก็จะเน้นฟื้นฟูมากกว่า ฟื้นฟูในด้านกายภาพ คนไข้ไม่สามารถขยับได้ เนื่องจากข้อติด เราก็ต้องฟื้นฟูตรงนั้นเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา

โดยจากที่หลายคนสงสัยว่า เพราะยาเสพติดทำให้เป็นแบบนี้หรือไม่ แพทย์ เปิดเผยว่า คงไม่ได้ลงไปในแง่ของสารเสพติด ไม่ได้บอกว่าคนไข้คนนี้เกิดจากสารเสพติดหรือไม่ แต่ในแง่ทั่วไป โรคเกิดจากหลายสาเหตุ โดยตอนนี้คนไข้ยังมีปัญหาควบคุมกล้ามเนื้อในการเกร็ง ทางด้านการพูด การกลืน ตอนนี้มีปัญหายังไม่สามารถกินได้ด้วยทางปาก ให้อาหารทางสายอยู่ ส่วนการสื่อสารง่ายๆได้ แต่ไม่เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องรอการฟื้นฟู มีสติ รู้ตัว แต่เขาเสียด้านภาษาในการสื่อสาร ซึ่งปกติหมอมองโดยทั่วไปในเรื่องของหลอดเลือดสมองขาดเลือดก็เป็นอะไรที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินที่ค่อนข้างวิกฤติ

เมื่อแพทย์ได้แถลงเสร็จทางเพื่อนๆ ของโจอี้ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่อ ในประเด็นของเรื่องอาการ คดีความ และค่าใช้จ่ายที่จะมีการช่วยเหลือด้วยการจัดคอนเสิร์ตการกุศล

ปีเตอร์ ไมอ๊อกชิ นักแสดง เปิดเผยว่า ที่ทราบข่าวตอนแรกจากในกลุ่มเฮฮาบ้ากอล์ฟ เป็นกลุ่มทำการกุศลอยู่แล้ว ได้เห็นภาพโจอี้ว่าล้มป่วย จึงไปเยี่ยม ก็เห็นสภาพที่เป็นเตียงรวม บวกกับวันนั้นอากาศร้อนมาก พี่เบนที่มาด้วย ก็ออกตัวว่าย้ายดีกว่า เพราะเห็นสภาพแล้วคนเป็นเพื่อน ก็อยากให้เขาได้อยู่สบาย ก็ทำเรื่องแล้วค่าใช้จ่ายเดี๋ยวตนดูแลเอง ก็เลยมาติดต่อแล้วก็แชทลงไปในกรุ๊ปว่าจะจัดคอนเสิร์ต ใครที่สนิทอยากจะทำก็ให้มาร่วมกัน เพื่อจะเอาเงินไว้ฟื้นฟูตัวโจอี้ หลังจากที่เขากลับบ้านได้ ตอนนี้ก็มีพี่เอ ไท ธนาวุฒิ, พี่เท่ห์ อุเทน, พี่อ่ำ อมรินทร์, พี่ชมพู, พี่อู๋ ธนาธร ตอนนี้ก็ต้องขอขอบคุณโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขารามอินทรา ที่ให้พื้นที่จัดคอนเสิร์ต ก็เลยใช้ชื่อว่า "นายตี้ฟอร์โจอี้บาซู" ก็จะมีบอยสเก้าท์ด้วย พี่ๆ นักร้องที่อยากจะมาร่วมเราก็ยินดี วันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลเบื้องต้น พี่เบนเป็นคนออก แล้ววันนี้เราก็ได้เจอเพื่อนพี่โจอี้อีกคนหนึ่งที่รู้จักกันมา แต่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน วันนี้ก็เลยได้มารวมตัวกันครั้งแรก แล้วก็มาคุยกันว่าทิศทางควรจะเป็นยังไง