“ป้าติ้น” ยันถูกหวยจริง หลังถูกเค้นสอบนาน 3 ชม. – “ดา-ติ๋ว” โผล่กองปราบ เชื่อผลคำสาบาน

จากกรณีที่ชุดสืบสวนกองกำกับการ 1 กองการปราบปราม จับกุมตัว นางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือป้าเล็ก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ หลังแจ้งความเท็จเอาผิดนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ยักยอกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เมษายน 2559 เงินรางวัล 30 ล้านบาท ในพื้นที่ สน.ประเวศ และแจ้งความนางจรูญ หรือป้าติ๋ว ยักยอกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เมษายน 2560 เงินรางวัล 30 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมนางเรวดี ได้ในพื้นที่ จ.หนองคาย เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) ส่วนนางวิไลพร สามารถจับกุมได้ในช่วงเช้าวันนี้ (30 เม.ย.)

พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถึงแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะมีการแสดงข้อมูลการสอบปากคำ ผู้ที่ถูกรางวัลตัวจริงที่อยู่คนละจังหวัด แต่ผู้ต้องหาทั้งสองยืนยันคำให้การเดิม ว่ามีการร่วมหุ้นกันซื้อลอตเตอรี่กับผู้เสียหาย และได้ลงลายมือชื่อสลักหลังลอตเตอรี่ไว้ แต่ถูกนางสุดารัตน์ยักยอกไป ซึ่งตำรวจมีพยานหลักฐานเอาผิดชัดเจน เพราะเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่นางเรวดีกล่าวอ้างแล้ว รวมถึงมีการส่งลอตเตอรี่ไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ก็ไม่พบหลักฐานลายมือชื่อของนางเรวดีบนลอตเตอรี่แต่อย่างใด

ขณะที่การดำเนินการรวบรวมหลักฐานในคดีนี้ของกองปราบ หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการมอบหมายให้รับทำคดี ก็ใช้หลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการลงพื้นที่สอบปากคำ คนขายและผู้ที่ถูกรางวัลตัวจริง จึงสามารถยืนยันได้ว่า หลักฐานในสำนวนทั้งหมดมีความรัดกุม สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ ในข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท

ส่วนการประกันตัวในขณะนี้ ยังไม่มีการยื่นแสดงหลักทรัพย์ หรือความประสงค์ ซึ่งหากมีการยื่นหลักทรัพย์ พนักงานสอบสวนจะพิจารณาในตัวหลักฐานว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ก่อนจะพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ แต่หากทั้งสองไม่มีหลักฐานยื่นขอประกันตัว หรือพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วมีความเห็นไม่ให้ประกันตัว ก็จะต้องดำเนินการส่งตัวขออำนาจศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ ผู้บังคับการปราบปรามยังยืนยันว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กำชับให้ดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดในลักษณะนี้อย่างเด็ดขาด ทำให้หลังจากมีคดีลอตเตอรี่ 30 ล้าน ทั้งของ ร.ต.ท.จรูญ กับครูปรีชา และคดีนี้ ที่กองปราบปรามรวบรวมหลักฐานจนครบถ้วนสมบูรณ์ จนเอาผิดผู้กระทำผิดได้ ทำให้คดีในรูปแบบนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ขณะเดียวกันนางจรูญและนางสุดารัตน์ ได้มีการนำดอกไม้มาแสดงความขอบคุณผู้บังคับการปราบปราม ที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้

โดย นางจรูญ หรือป้าติ๋ว ผู้เสียหาย บอกว่า รู้สึกดีใจที่ความจริงปรากฏออกมาว่า เราไม่ใช่คนซื้อลอตเตอรี่และไม่ได้ถูกรางวัล ซึ่งตัวเองศรัทธาในคำสาบาน เพราะไม่ได้ผิดจริงจึงกล้าไปสาบานไว้ ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้รับความเป็นธรรมจากทุกหน่วยงาน และทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลหากอีกฝ่ายไม่ยอมรับ เพราะไม่ใช่เรื่องจริง รวมถึงไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลอะไรมายืนยัน ส่วนจะมีการดำเนินคดีกลับนางเรวดีหรือไม่นั้น ตนเองได้มอบอำนาจให้ทนายความเป็นคนจัดการให้ เนื่องจากตนไม่รู้กฎหมาย ซึ่งตนก็ไม่ได้โกรธ แต่คิดว่าทำไมนางเรวดีถึงต้องทำกับตนแบบนี้ เพราะไม่เคยทำอะไรให้ หรือขัดแย้งอะไรกัน

ขณะที่ นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ผู้เสียหาย บอกว่า รู้สึกสบายใจขึ้นที่ทุกอย่างชัดเจน คำสาบานส่งผลถึงคนที่ทำไม่ดีแล้ว และยืนยันว่า ตนเตรียมจะฟ้องกลับนางเรวดี ตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะทำให้ตนเองเสียหาย