ชิน-ชินวุฒ เลือดขึ้นหน้าฉะหมาหมู่สกรัม "น้องแบงค์" 2 ทมิฬหนี แม่วอนสู้คดี (คลิป)

28 ธ.ค. 63

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.63 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "MaM Moji" โพสต์ข้อความระบุว่า "รบกวนทุกคนช่วยแชร์ด้วยคะ ช่วยกันตามหาคนร้ายมารับโทษให้ได้ ลูกแม่กลับมาจาก กทม. เพื่อมาเยี่ยมญาติ และได้มาทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กลับโดนกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย

515051

ขณะนี้รักษาตัวอยู่ รพ.บุรีรัมย์ อาการกะโหลกศีรษะร้าว เพราะโดนรุมตี น้องแบงค์เป็นเด็กกิจกรรมที่ไม่เคยเกเรมาก่อน กรุณาช่วยตามหาตัวด้วยคะ อย่าปล่อยให้เด็กเลวพวกนี้ไปทำกับลูกหลานใครแบบนี้อีก ขอให้น้องแบงค์เป็นคนสุดท้าย ที่ต้องมาเจอรุมตี โดยไม่รู้จักกันมาก่อน ขอบคุณนะคะ"

973843770784710387103479

พร้อมโพสต์ภาพขณะน้องแบงค์ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพเบ้าตาบวม มีรอยเขียวช้ำ มีร่องรอยแผลทั่วใบหน้า เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลฯ ต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

504037

อย่างไรก็ตาม มีรายงานแจ้งว่า ตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ จำนวน 4 คน ได้แก่ นายกล้า, มอส, ตาล และโจ อายุ 20-25 ปี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

815918

ล่าสุดวันที่ 28 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปหมู่บ้านสันติสุข ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้พูดคุยกับนางน้อย (นามสมมติ) แม่ของนายวิกรม หรือ กล้า อายุ 24 ปี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 เป็นวันเกิดของนายกล้า ลูกชาย ซึ่งช่วงค่ำลูกนั่งสังสรรค์กับเพื่อนที่บ้าน เวลา 21.00 น. ตนเข้านอนไม่รู้ว่าลูกออกไปร้านเหล้าหรือไม่ เพราะตื่นเช้ามาก็เจอลูกชายอยู่ที่บ้าน

หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาเรื่องนักเต้นถูกทำร้ายในร้านเหล้า โดยมีชาวบ้านพูดกันว่าลูกชายตนเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งตนก็ยังไม่ทันได้ถามลูกชายเพราะลูกหายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันเสาร์ (26 ธ.ค.63) และไม่สามารถติดต่อได้เลย

842614

ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าลูกชายก่อเหตุจริงหรือไม่ เพราะปกติลูกเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยหาเรื่องใคร แต่หากลูกทำจริงตนก็อยากให้ลูกเข้ามอบตัว โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาตนที่บ้าน แต่ตนไม่อยู่บ้าน จึงไม่ทราบรายละเอียด แต่คิดว่าหลังจากนี้จะเข้าไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อมูล

968495

ทั้งนี้นายกล้า เคยติดคุกในข้อหายาเสพติดเป็นเวลา 2 ปี เพิ่งออกมาช่วงเดือนก.พ.63 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร

799161

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนางทิพย์ (นามสมมติ) แม่ของนายตาล อายุ 20 ปี ผู้ก่อเหตุอีกราย กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนและญาติ 8 คน มีผู้หญิง 4 คน ผู้ชาย 4 คน ไปกินเลี้ยงวันเกิดหลานที่ร้านเกิดเหตุ โดยไปถึงงานในเวลาประมาณ 21.30 น. จากนั้นนายตาล ลูกชายพร้อมนายวิกรม หรือกล้า ซึ่งเป็นญาติ และเพื่อนรวม 4 คนตามมาสมทบ เนื่องจากวันที่ 23 ธ.ค.63 เป็นวันเกิดของนายกล้าด้วย

กระทั่งเที่ยงคืนร้านปิด ตนกับญาติที่มาด้วยกันเดินทางกลับบ้าน โดยตนไปชวนนายตาล ลูกชายให้กลับด้วยกัน ขณะนั้นนายตาลนั่งคุยกับผู้หญิงอยู่ข้างล่างร้าน บอกตนว่ายังไม่กลับ ตนจึงเดินไปบอกนายกล้าที่นั่งในร้านว่าขอกลับก่อน พร้อมฝากดูแลนายตาลด้วย นายกล้ารับปาก

จากนั้นตนกลับบ้านมานอน ช่วงเช้ามีญาติมาบอกว่าพวกนายตาลไปมีเรื่องต่อยตีกับคนในร้าน ตนจึงรีบไปถามลูกชาย โดยลูกอ้างว่าตัวเองไม่ได้ก่อเหตุ ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่นอกร้าน แต่ได้ยินเสียงดังจากในร้าน คิดว่านายกล้าอาจจะมีเรื่อง จึงวิ่งขึ้นไปดู พบว่านายแบงค์นอนแน่นิ่งอยู่กลางร้านแล้ว

812362

ทั้งนี้ตนจึงเดินทางไปหมู่บ้านสันติสุข เพื่อสอบถามนายกล้า เพราะโมโหที่ฝากลูกชายไว้แล้วมาเป็นแบบนี้ โดยตนเจอนายกล้ากับแม่ จึงสอบถามนายกล้าอ้างว่าไม่ได้ทำ ตนพยายามเค้น เจ้าตัวก็ไม่บอก จนแม่นายกล้าบอกว่าจะคุยกับลูกชายเอง ตนจึงกลับบ้าน

โดยตนไม่รู้ว่าลูกชายทำจริงหรือไม่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็ง ที่ผ่านมาลูกเป็นคนรักเพื่อน หากเพื่อนมีเรื่องต้องเข้าไปช่วย โดยตนคิดว่าลูกชายอาจไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่ไปด้วยกันกับผู้ก่อเหตุ
ซึ่งขณะนี้ตนก็ติดต่อลูกชายไม่ได้ เพราะลูกหายไปตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.63 ไม่กลับมาบ้านอีกเลย ตนพยายามตามหา เพราะหากทำผิดจริงก็อยากให้เข้ามอบตัว

ทั้งนี้ตนสงสารฝ่ายผู้บาดเจ็บ เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ หากมีคนมาทำร้ายลูกตน ตนก็ไม่ยอมเช่นกัน นอกจากนี้นายแบงค์เป็นคนดี สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ต่างกับลูกชายตนที่สร้างชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี หากลูกทำจริงก็ขอปล่อยให้รับกรรม โดยตนจะไม่ช่วยเหลือใด ๆ ทั้งนี้นายตาล เคยจำคุกคดีพกพาอาวุธปืน เมื่อปี 2561 โดยติดคุกเป็นเวลา 4 เดือนและได้รับการปล่อยตัวมาช่วงเดือน ม.ค.62 

992321

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับพนักงานร้านที่เกิดเหตุ 2 คน ซึ่งเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะพยาน โดยน.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานร้านกล่าวว่า ตนรู้จักกับนายแบงค์ หลังร้านปิดจึงไปนั่งพูดคุยกับนายแบงค์ พร้อมเพื่อนที่เป็นพนักงานอีกคน ซึ่งตอนแรกนั่งคุยกัน 4 คน คือ ตน นายแบงค์ นายตั้ม ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องนายแบงค์ และเพื่อนพนักงานอีกคน

375379

จากนั้นประมาณ 20 นาที นายตั้มลุกขึ้นไปข้างนอก จังหวะนั้นมีผู้ชายรายหนึ่งเดินมาที่โต๊ะ ทำทีเป็นขอเหล้าจากนายแบงค์ และชวนคุย โดยนายแบงค์ยังถามอีกฝ่ายว่า เอาเพียวหรือผสม ก่อนที่ชายอีก 2 คน จะเดินมาจากด้านหลัง พร้อมต่อยนายแบงค์บริเวณศีรษะ และเริ่มรุมตีนายแบงค์ทั้ง 3 คน ตนตกใจมาก รีบวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ เมื่อหันไปอีกรอบพบว่าอีกฝ่ายเริ่มใช้เก้าอี้ฟาดที่ศีรษะ

cg_3

โดยช่วงท้ายหนึ่งในผู้ก่อเหตุยังชี้หน้าคนที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมพูดว่า “อยากรู้จักกู กูอยู่สันติสุข” ตนไม่มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุมากันกี่คนเพราะเห็นช่วงก่อเหตุแค่ 3 คนเท่านั้น ส่วนที่มีข่าวว่าโต๊ะผู้ก่อเหตุนั่งกันหลายคนนั้น เป็นโต๊ะผู้หญิงที่มากัน 7-8 คน ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามเข้าไปตีสนิท เพราะหลังเกิดเหตุตนเข้าไปถามผู้หญิงที่โต๊ะดังกล่าว ระบุว่า ไม่รู้จักผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด ซึ่งช่วงก่อเกิดเหตุก็เหลือลูกค้าในร้านแค่ 2 โต๊ะ คือ โต๊ะนายแบงค์ กับโต๊ะผู้หญิงที่นั่งเยื้องกัน โดยมีผู้ก่อเหตุเข้าไปนั่งด้วย

203827

โดยนายแบงค์ก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับโต๊ะของผู้หญิงแต่อย่างใด ส่วนตัวคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะทำไปเพื่อต้องการประกาศศักดา เพราะไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุน่าจะเล็งนายแบงค์เอาไว้ เมื่อเห็นว่าพี่ชายลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ได้จังหวะเข้ามาจัดการ ทั้งนี้ตนไม่รู้จักผู้ก่อเหตุ คิดว่าไม่น่าจะเคยมาที่ร้าน เพราะก่อนหน้านี้ที่ร้านก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้

622717

นายธีรวีร์ อร่ามแสงสุวรรณ หรือ “ปัน” อายุ 28 ปี คู่หูดูน้องแบงค์ ที่ไปคว้ารางวัลอันดับที่ 1 การแข่งขันเต้น ที่ประเทศเยอรมัน ปี 2019 และเป็นครูสอนเต้น เปิดใจว่า ตนไปประกวดด้วยกันหลายเวที เป็นตัวแทนประเทศไทยไปกวาดรางวัลมาแล้วหลายประเทศ ทั้งโปแลนด์ เกาหลี อเมริกา เรียกว่าล่ารางวัลเลยก็ว่าได้ ทำเพื่อชื่อเสียงของประเทศ และเป็นตัวอย่างให้เด็กรุ่นใหม่ ๆ ในสังคมไทยรู้ว่ายังมีอาชีพนักเต้นอยู่ เป็นแดนเซอร์ ศิลปิน เป็นครูสอนเต้นได้

206648389696

ทั้งนี้ตนรู้จักกับน้องแบงค์มา 3-4 ปี อัธยาศัยดี อาจจะโดนหมันไส้ได้ง่าย คนอื่นอาจจะมองว่าเก๊ก เพราะจะแต่งตัวแฟชั่นจัด ๆ ยอมรับว่า รู้ข่าวจากในไลน์กลุ่มเพื่อน ส่งมาให้ดูว่า ตนมองว่ารุนแรงเกินไป การชกต่อยเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย แต่ทำแบบนี้เหมือนพยายามฆ่า มันแรงไป อยากให้คนก่อเหตุชดใช้กรรม และยอมรับความจริง นอกจากนี้ นิสัยแบงค์ไม่เคยหาเรื่องคนอื่น มีแต่คนรัก ไม่เคยมีเรื่องต่อยตีหรือทะเลาะกับใคร 

129138

ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับนายคเนชา ศิริทรัพย์โภคิน หรือ ซี่ อายุ 33 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า รู้ข่าวว่าแบงค์ถูกรุมทำร้ายเพราะ มีเพื่อนในกลุ่มไลน์ ที่ทำงานด้วยกันแจ้งข่าวมา ตนทำงานสายเดียวกันแต่ร่วมงานกันจริง ๆ ปีที่แล้ว โดยเป็นครูสอนเต้นให้กับเด็ก ๆ ในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน โดยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันร่วม 2 เดือน

519251

แบงค์เป็นคนน่ารัก นิสัยดี พอรู้ว่าแบงค์โดนทำร้ายก็ตกใจ ช็อกและงงมาก เพราะไม่ทราบว่าแบงค์มีศัตรูที่อื่นด้วยหรือ โดยวันที่เกิดเหตุ (23 ธ.ค.63) พี่สาวอีกคนแจ้งว่า ก่อนกลับไป จ.บุรีรัมย์ แบงค์ต้องรับไปเฝ้าฯ รับเสด็จ แต่ขอกลับก่อน เนื่องจากต้องกลับบ้านต่างจังหวัด และวันต่อมาจึงมีการแจ้งข่าวว่าแบงค์ถูกรุมทำร้ายเกิดขึ้น ให้ช่วยกันแชร์ข่าวด้วย และที่ผ่านมาแบงค์ไม่ใช่คนหาเรื่องคนอื่นก่อน ไม่เคยมีเรื่อง หรือมีปัญหากับใคร รวมทั้งก่อนเกิดเรื่องไม่เคยปรึกษาว่ามีปัญหากับใคร หรือเครียดเรื่องอะไรเลย โดยช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน แบงค์ก็มักจะคุยแต่เรื่องเต้น แลกเปลี่ยนท่าใหม่ ๆ ซึ่งกันและกัน นับว่าแบงค์เป็นคนที่มีแรงบันดาลใจเรื่องเต้นเยอะมาก

รางวัลที่แบงค์ได้รับ เป็นทั้งรางวัลรางวัลระดับโลก และยังเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันที่เมืองนอก นับว่าแบงค์มีความตั้งใจมาก จนต้องยกนิ้วให้ เป็นเด็กใหม่ที่ไฟแรงมาก โดยตลอดช่วงการซ้อม และสอนเด็ก ๆ แบงค์เป็นคนที่เต็มที่มาก จริงจังมาก และรับฟังความคิดเห็นคนอื่น ๆ ตลอด ถึงแม้ว่าจะมีรางวัลระดับโลก แต่ก็ไม่ถือว่าตนเองเก่ง ยังรับฟังคำแนะนำของคนอื่น ๆ เสมอ 

ทั้งนี้ตนคิดว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ทำรุนแรงมากเกินไป ด้วยความที่แบงค์อยู่คนเดียวช่วงเกิดเรื่องด้วย ไม่น่าจะทำกันขนาดนี้ คิดว่าสังคมสมัยนี้น่าจะพูดคุยกันได้ น่าจะคุยกันก่อน ไม่ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือขนาดนั้น อยากให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษขั้นสูงสุด เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบความไม่ถูกต้องอยู่แล้ว และหากอะไรที่ไม่ถูกต้อง ควรดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะเป็น แบบอย่างในรุ่นต่อ ๆ ไป จะได้รู้ว่าไม่ใช่อยากจะทำอะไรก็ทำได้เลย 

654753

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวก็กังวลเรื่องการกลับมาเต้นอีกครั้งของแบงค์มาก เพราะร่างกายอาจจะไม่สมบูรณ์ ถ้าเป็นตนคิดว่าถ้าเจอแบบนี้ คงเปรียบได้ว่า "โลกคงต้องพังทลายแน่ ๆ" เพราะน้องชอบเต้นมาก สิ่งสำคัญของนักเต้นคือความพร้อมด้านร่างกาย กล้ามเนื้อ และสมอง ในการคิดท่าเต้น ยอมรับว่ากังวลมาก เพราะหากแบงค์กลับมาแล้วไม่เหมือนเดิม คงเสียความเป็นแบงค์ และคงต้องใช้เวลาพักรักษาตัวนานนับปี

561729

ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับคุณชิน ชินวุฒ ที่รู้จักกับน้องแบงค์มานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยคุณชิน เผยด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างจะโมโหตลอดการสัมภาษณ์ เพราะไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าวของกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายน้องแบงค์ เพราะตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับน้องแบงค์ว่า เขามาประกวดเต้นแล้วตนเป็นกรรมการ จึงได้เห็นว่าเขาเต้นดีมาก จากนั้นก็ได้เจอกันตามงานเต้นต่าง ๆ เขาเป็นคนที่น่ารักมาก แล้วก็มีทัศนคติดี

982772

ตนยอมรับว่าตอนที่เห็นข่าวตกใจมาก เพราะโดนคนถึง 6 คน กระทืบ จนขนาดถึงเข้าไอซียู แสดงว่าต้องโดนหนักมาก ตนอยากจะบอกไปถึงกลุ่มวัยรุ่นแก๊งนี้ว่า “มึงใจมากเลยหรอ ถึงรุมเขา” , “อยู่กับพื้นแล้ว มึงยังเอาเก้าอี้ฟาด อันนี้คือการกระทำของคนที่แมนหรอ” ในมุมของตนที่เป็นผู้ชาย หากมีเรื่องกัน ก็ตัว ๆ ไปเลย แล้วก็จบ ไม่ใช่รุม

นอกจากนี้ คุณชิน ยังยอมรับอีกว่า นอกจากตกใจแล้ว ยังมีอารมณ์โมโหด้วย เพราะต่อให้ไม่ใช่คนที่ตนรู้จัก เป็นใครที่โดนแบบนั้น ทั้งโดนรุมและลงไปนอนกองกับพื้นแล้วยังไม่หยุด ก็ต้องโกรธ ตนมองว่าหากต้องการจะสั่งสอน ก็ไม่จำเป็นต้องปางตายก็ได้ แบบนี้มันเกินไปหน่อย

134081

เพราะเหตุนี้เอง ทำให้ตนยื่นมือให้ความช่วยเหลือ เพราะไม่อยากจะให้เรื่องเงียบ ไม่อยากให้จบลงแบบไม่มีใครโดนลงโทษ เพราะการกระทำโดยไม่คิด จนไปทำลายอนาคตคน ๆ หนึ่ง ต้องได้รับผลของการกระทำนั้น ตนรู้สึกเลยว่าเขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เก่งมาก ๆ เพราะฉะนั้นเขาควรมีโอกาสที่จะมีอนาคตไกล หากไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ความฝันที่เขาจะเป็นครูสอนเต้นที่ทุกคนให้การยอมรับก็อยู่ไม่ไกล แต่ตอนนี้โอกาสก็น้อยลง เพราะอาการค่อนข้างหนักมาก

689744

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความเสียใจแก่ครอบครัวและเพื่อนพี่น้องของ “น้องแบงค์” เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังรวมถึงคนในวงการบันเทิงที่เคยร่วมงานกับ “น้องแบงค์” อย่างนักแสดงและครูสอนเต้นชื่อดัง “นุ้ย-เกศริน เอกธวัชกุล” ที่รู้จักและสนิทสนมกับผู้ได้รับบาดเจ็บมากว่า 10 ปี ทั้งนี้ยังยก “น้องแบงค์” ให้เป็นลูกบุญธรรมคนหนึ่งด้วย

โดย “คุณนุ้ย” เล่าให้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตนรู้จักกันจากวงการเต้นของโครงการ To be number one ปรึกษา ดูแลกันแบบพี่น้องมาโดยตลอด ซึ่ง “น้องแบงค์” จะเรียกตนว่าแม่ เพราะให้ความเคารพกันเหมือนแม่เสมอมา ทำให้เมื่อไรที่มีงานติดต่อเข้ามา ตนก็จะหยิบยื่นให้กับ “น้องแบงค์” เรื่อย ๆ

ทั้งนี้ตลอด 10 ปีที่รู้จักกันมา เด็กคนนี้เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ไม่เคยมีปัญหา หรือมีอริกับใคร ร้องไห้ง่ายและเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ผู้ใหญ่มาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นคนขยันทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งตัวเองเรียน ส่งให้ที่บ้านเสมอ เรียกว่าเป็นคนที่มีความรับผิดมากคนหนึ่ง เนื่องจาก “น้องแบงค์” มีความฝันที่อยากจะเป็นครูสอนเต้น อยากทำงานในวงการนักเต้นไปนานๆเพื่อเก็บเงินเลี้ยงตัวเองและตอบแทนผู้มีพระคุณ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม