กักแรงงานตลาดกุ้ง 2 พันชีวิต ส่งข้าวผ่านลวดหนาม กทม.ประกาศงดเคาท์ดาวน์ระวังโควิดระลอกใหม่ (คลิป)

20 ธ.ค. 63

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 63 ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เผยแพร่ความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ว่า วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 576 คน ยอดรวมผู้ป่วยสะสม 4,907 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต จึงมียอดผู้เสียชีวิตคงที่ 60 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 17 คน รวมสะสม 4,041 คน และรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 806 คน

621987

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 576 คน เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 19 คนที่จังหวัดสมุทรสาคร และกรุงเทพฯ เป็นผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว 516 คน ค้นพบเชื้อโดยการค้นหาเชิงรุกในชุมชน

715019

ส่วนอีก 41 คน เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และตรวจพบเชื้อในพื้นที่กักตัวของรัฐ จาก ประเทศกาตาร์ 1 คน ประเทศบาห์เรน 30 คน ประเทศเนเธอร์แลนด์ 2 คน ประเทศเยอรมนี 1 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 คน สาธารณรัฐกานา 1 คน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ 1 คน ประเทศเมียนมาร์ 2 คน และ สหราชอาณาจักร 2 คน

479898

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มวันนี้ (20 ธ.ค.63) จำนวน 576 ราย ว่าในจำนวนนี้มี 516 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร จึงมีมาตรการกำหนดพื้นที่ควบคุมโรคเด็ดขาดโดยมีคำสั่งปิดสถานที่สองแห่ง คือ ตลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมือง รวมถึงปิดสถานที่ชั่วคราว 14 วัน จนถึงวันที่ 3 มกราคมปี 2564 อาทิ สถานที่เล่นการพนัน สนามกีฬา สนามมวย สนามเด็กเล่น สถานศึกษา สถานที่รับเลี้ยงเด็ก และห้างสรรพสินค้า

290621213425197848

ส่วนร้านสะดวกซื้อ เปิดให้บริการได้ตามช่วงเวลา ห้ามบริการตั้งแต่เวลา 22.00 - 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร งดออกนอกเคหสถานเวลา 22.00 น. - 05.00 น. อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

204328174402

ขณะที่ ในส่วนของมาตรการด้านสาธารณสุข จะเน้นค้นหาผู้ติดเชื้อให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดโดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี และนครปฐม ซึ่งแผนการดำเนินงานค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในชุมชน 10,300 คน พร้อมกันนี้ จะเน้นเฝ้าระวังและเตรียมการเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พร้อมในการรับการระบาด การจัดตั้งให้มีศูนย์รับคำปรึกษาทุกจังหวัด และยกระดับการป้องกันควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลทุกแห่ง

997628861120

 

โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่เคยพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา และเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ขอให้สังเกตอาการของตนเอง หากมีอาการที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ ควรไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที การระบาดรอบแรกจบไปเมื่อเดือน พ.ค.63 แต่ครั้งนี้เรียกว่าการระบาดใหม่ ทั้งนี้เกิดจากแรงงานต่างด้าว ยืนยันว่าไม่ได้เชื่อมโยงกับการระบาดครั้งก่อน 

840536

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่าขณะนี้ ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเพิ่มอีก 146 ราย เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าว รวมจากเมื่อวานนี้ 548 ทำให้ยอดอยู่ที่ 694 ราย  90% เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร

ทางจังหวัดได้เพิ่มมาตรการในการควบคุมการเเพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งการใช้รถโมบายพระราชทานเคลื่อนที่ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เเละรถตรวจเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขรวมทั้งสิ้น 6 คัน ตรวจตามจุดเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดทะเลไทย รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการเเละโรงงานอุตสาหกรรม ในการเพิ่มมาตรการตรวจคัดกรอง หากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกลงโทษร้ายเเรงถึงขั้นสั่งปิดกิจการ

อีกทั้งมีการตั้งจุดตรวจควบคุมทางเข้า-ออก จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งทางบกเเละทางน้ำ จำนวน 12 จุด ซึ่งคล้ายกับการล็อกดาวน์ โดยจะทำหน้าที่ในการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้า-ออก จังหวัดสมุทรสาคร โดยจะห้ามเเรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใด ๆ ส่วนคนไทย หากมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ จะต้องลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ไว้ ซึ่งทางจังหวัดประสานกับจังหวัดที่มีเขตติดต่อใกล้เคียง ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้จังหวัดปลายทาง อาจพิจารณาใช้มาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางจากจังหวัดสมุทรสาครเข้าไปในพื้นที่ ต้องกักตัว 14 วัน

864350

บรรยากาศที่ ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ซึ่งจุดดังกล่าวมีเเรงงานต่างชาติชาวเมียนมา ถูกกักตัวอยู่ไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เจ้าหน้าที่มีการนำลวดหนามมากั้นพื้นที่โดยรอบตลาด เพื่อกำหนดเขตการกักตัว ขณะที่บริเวณโดยรอบจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำลังอารักขาเเละควบคุมฝูงชน จ.สมุทรสาคร ยืนตรึงกำลังอยู่ตลอด 24 ชม. โดยเจ้าหน้าที่จำกัดการเข้า-ออก คือ "คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า"

โดยเมื่อเวลา 18.20 น. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงตรวจเยี่ยมเเรงงานในจุดกักตัว โดยมีการยืนคุยกับเเรงงานที่อยู่ภายใน ซึ่งมีการเว้นระยะห่างประมาณ 3-5 เมตร ทันทีที่นายอนุทิน ได้เข้าไปในพื้นที่ เเรงงานที่อยู่ด้านในได้ปรบมือ เเละส่งเสียงต้อนรับ

124891

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ได้เข้าไปพูดคุยกับเเรงงานด้านในผ่านล่าม เพื่อขอความร่วมมือในการป้องกันการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจากการพูดคุยก็ยังไม่พบปัญหาอะไร เนื่องจากทางจังหวัดเเละกระทรวงสาธารณสุขมีการจัดบุคลากรเข้ามาตรวจวัดไข้ เเละติดตามอาการตลอด พร้อมทั้งจัดอาหารทั้งสดเเละอาหารเเห้งครบทั้ง 3 มื้อ จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

548380

แต่ยอมรับว่าหากประเมินสถานการณ์เป็นจุด ๆ ถือว่า จ.สมุทรสาคร อยู่ในถานการณ์วิกฤต เพราะพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เเต่ทางจังหวัดก็สามารถเข้าควบคุมพื้นที่ปิดกั้นจุดเสี่ยงทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีการตรวจหาเชื้อให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการบังคับตรวจ ไม่ใช่เฉพาะเเค่ผู้สมัครใจเท่านั้น โดยจุดนี้ถือเป็นจุดเเรกที่มีผู้ติดเชื้อ ประชากรในพื้นที่เกือบ 100% เป็นเเรงงานต่างด้าว

ส่วนสถานการณ์โดยรวมของทั้งประเทศ ที่พบผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดเพิ่มเติม นายอนุทิน ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการที่ดี สามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อได้ ซึ่งการพบผู้ติดเชื้อ เป็นตัวบ่งชี้ว่าระบบการตรวจมีประสิทธิภาพ พร้อมฝากถึงประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ดูเเลตัวเองโดยการรักษาระยะห่าง เเละสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ในขณะเดียวกัน พบว่ามีผู้นำอาหารเเห้งเเละของใช้ที่จำเป็น มาส่งให้ญาติ รวมถึงลูกจ้างที่ถูกกักตัวอยู่ด้านใน โดยการส่งมอบนั้นจะต้องวางของไว้ด้านหน้าประตูทางเข้า เเล้วคนด้านในก็จะออกมาหยิบ ซึ่งหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิด โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูความเรียบร้อย

369936

จากการสอบถาม น.ส.นภาวรรณ พุ่มยี่หวา เป็นเจ้าของเเพกุ้ง บอกว่า นำข้าวสารอาหารเเห้งมาให้ลูกจ้าง 13 คน ที่ถูกกักตัวอยู่ด้านใน ซึ่งจากการสอบถามลูกจ้าง ก็ทราบว่าในเรื่องที่อยู่อาศัย ยังไม่มีปัญหา เพราะผู้ที่กักตัวด้านในนั้น ล้วนอาศัยอยู่ในหอพักหรือห้องเช่าของตัวเอง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้ ส่วนตนก็คอยช่วยเหลือในสิ่งที่ลูกจ้างต้องการเพิ่มเติม คือ อาหารเเห้ง ซึ่งจะกักตุนไว้ประกอบอาหารภายในที่พัก

เจ้าของตลาดยืนยัน ยายวัย 78 ปี ไม่ได้เข้ามาในตลาดเตาปูน-มณีพิมาน เพื่อส่งกุ้ง อาหารสด ตามที่เป็นข่าว และพร้อมให้ความมั่นใจกับลูกค้าที่มาเดินภายในตลาด

108047

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามนายทรงวุฒิ ทองจรัส อายุ 65 ปี ผู้ดูแลบริษัท SND หรือตลาดเตาปูน กล่าวว่า ทางนางประเทือง กั่นทัด ที่ติดเชื้อโควิท-19 ในตอนนี้ ไม่ได้เข้ามาส่งกุ้ง หรือจำพวกอาหารสด เป็นเวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกสาวของนางประเทือง ได้เลิกรากับนายอนุชา ซึ่งเป็นสามีของลูกสาวไป จากนั้นจึงไม่ได้นำเข้ามาส่งให้ โดยปกติแล้วนางประเทือง ก็ทำอาชีพส่งกุ้ง และอาหารสด ที่ไปรับมาจากมหาราชทุกครั้ง ซึ่งจะไปส่งตามตลาดแถวบ้านของนางประเทืองเอง

839700

ขณะนี้ทางเจ้าของตลาดได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า นางประเทือง ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 คนดังกล่าว ไม่ได้เข้ามาส่งของในตลาดแห่งนี้นาน แต่เป็นการเข้าใจผิด คิดว่าตลาดที่ผู้ที่ติดเชื้อดังกล่าวได้ไปส่งอาหารสดมา ซึ่งขณะนี้ทางตลาดมีการป้องกันอย่างละเอียดและรอบคอบมากกว่าเดิม เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม จะมีการจัดเตรียมมาตราการและการป้อง คือ ทางตลาดจะมีหน้ากากอนามัยแจกให้ตลอด และมีการฉีดพ้นน้ำยาเพื่อฆ่าเชื้อโรค หรือล้างตลาด สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจของผู้ขาย รวมไปถึงผู้มาเดินตลาดอีกด้วย

656648937978941644764753

สำหรับหญิงไทย อายุ 33 ปี ที่ติดโควิด-19 ในวันที่ 28 พ.ย. - 10 ธ.ค.63 ไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดกลางกุ้งมาขายที่ตลาดนวลจันทร์ เวลา 16.00 - 20.00 น. ทุกวัน หลังจากนั้นวันที่ 11-13 ธ.ค.63 ไปที่ตลาดอีกครั้ง กระทั่งวันที่ 14 ธ.ค.63 เริ่มมีอาการจาม ไม่ได้ไปขายของ วันที่ 15 ธ.ค.63 มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น และวันที่ 17 ธ.ค.63 อาการแย่ลง วันที่ 18 ธ.ค.63 ไปตรวจที่ รพ.สินแพทย์ ผลปรากฏว่าพบเชื้อ วันที่ 19 ธ.ค.63 เข้ารักษาที่ รพ.วิภารามชัยปราการ 

348247985573643081

ส่วนหญิงไทย อายุ 78 ปี ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 1-11 ธ.ค.63 ไปซื้อของที่มหาชัยกับลูกชาย วันที่ 12 ธ.ค.63 มีอาการแสบจมูก แสบหน้าอก จึงซื้อยามาทานเอง วันที่ 15 ธ.ค.63 ลิ้นรับรสน้อยลง ทานอาหารได้น้อย วันที่ 16 ธ.ค.63 หายใจลำบาก เจ็บคอ เสียงเปลี่ยน กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.63 เวลา 08.37 น. ไปตรวจเชื้อที่ รพ.เกษมราษฎร์ และเวลา 20.30 น. ทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 

กทม.ได้เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือมาตรการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้ข้อสรุปมาตรการต่าง ๆ ดังนี้

1. ปิดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในสังกัด กทม. ที่มีพื้นที่ติดต่อกับ จ.สมุทรสาคร 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.63 - 4 ม.ค.64 ได้แก่ เขตบางขุนเทียน บางบอน และหนองแขม โดยให้จัดการเรียนการสอนเสริมและการเรียนออนไลน์ทดแทน

2. ข้าราชการและบุคลากร กทม.ที่เดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ - สมุทรสาคร หรือมีที่พักอาศัยอยู่ใน จ.สมุทรสาคร ให้ปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานที่บ้าน (work from home)

294630

3. ขอความร่วมมือภาครัฐและเอกชน งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เช่น งานเทศกาลปีใหม่ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และงานรื่นเริงต่าง ๆ
แต่หากจะจัดงาน ต้องเสนอแผนควบคุมโรคเพื่อขออนุญาตกับสำนักอนามัย กทม.เพื่อพิจารณาก่อน

387551

4. ตั้งด่านคัดกรองแรงงานต่างด้าว เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ 4 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเพชรเกษม ถนนพระรามที่ 2 ถนนบรมราชชนนี และถนนเลียบคลองพิทยาลงกรณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่ม 18.00 น. วันนี้เป็นต้นไป

151329

5. ให้ใช้สวนสาธารณะเพื่อการออกกำลังกาย งดการรวมตัว

6. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 100 % ที่ทำงานในตลาดสดทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯทั้ง 472 แห่ง รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่มีการติดต่อซื้อขายสินค้าอาหารทะเลจาก จ. สมุทรสาคร

7. สำนักงานเขตดำเนินการคัดกรองเชื้อโควิดในแรงงานต่างด้าวในแคมป์คนงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง 100%

8. ขอความร่วมมือศาสนสถานต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ งดให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำกิจกรรมภายในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

9. ให้ รร.กทม. สำรวจ ผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นแรงงานต่างด้าว เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโควิด

305002

10.สถานประกอบการร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ต้องเข้มงวดในการตรวจคัดกรองผู้ที่เข้าไปใช้บริการ 100 % สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างของโต๊ะอาหาร งดเต้น พร้อมทำความสะอาดสถานที่ตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัย

ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทุกครั้งที่ออกจากบ้านและอยู่ในที่สาธารณะ หากเดินทางไปใช้บริการตามสถานที่ต่าง ๆ ต้องลงทะเบียนหรือสแกน "ไทยชนะ" เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบและสืบสวนโรคหากเกิดการแพร่ระบาดในสถานที่นั้น ๆ ครับ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส