ผัวเก่าเปิดใจถูกทิ้ง โต้ซ้อมน้องบี แฉ มีมี่ ผัวใหม่ขี้เหล้า ห่วงดูแลลูกไม่ได้ (คลิป)

กรณีกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ระหว่าง น.ส.ภัสสรา อบนาค หรือ น้องบี อายุ 23 ปี ชาว จ.สงขลา แฟนสาวลูกติด 1 คน ของนายบุญมี ขันทอง อายุ 37 ปี หรือ มีมี่ ชายที่มีปานบริเวณแก้ม และริมฝีปากไปจนถึงลำคอ ชาวหนองเทพใหญ่ ต.ณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ กับอดีตสามีของน้องบี ที่มีการโพสต์ข้อความโจมตีถึงความรักของทั้งคู่ผ่านโลกโซเชียล ในทำนองที่ว่าน้องบีเป็นคนพาลูกสาวหนีออกมาจากตนเอง และมาแต่งงานมีแฟนใหม่

วันนี้ (19 เม.ย.) น.ส.ภัสสรา หรือ น้องบี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนกับอดีตสามีระหว่างที่อยู่ด้วยกันมีปัญหาเรื่องสามีติดการพนันตีไก่ เล่นแทบทุกสัปดาห์ พอมาอยู่หาดใหญ่ก็ไม่ใส่ใจครอบครัว ช่วงแรกๆ ก็ดูแลลูกดีแต่พอนานไปเงินก็เริ่มไม่ให้ อ้างว่าเสียค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แต่จริงแล้วเสียแค่ค่าบ้านอย่างเดียว

ส่วนกรณีที่อดีตสามีกล่าวหาว่า ตนชอบเล่นแชทกับผู้ชาย ความจริงแล้วเป็นการตอบโต้กันไปกันมา ระหว่างเพื่อนชายเท่านั้น อีกทั้งยังลงไม้ลงมือ ที่หนักก็จะเป็นเตะไปที่แขนและขาจนฟกช้ำ และชอบทำต่อหน้าคนอื่น และยังนำตนไปประจานในเฟซบุ๊กเพื่อให้ตนอับอาย เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นการทะเลาะภายในครอบครัว แม้ตนจะพาลูกหนีมาอยู่กับมีมี่ อดีตสามีก็ไม่เคยตามหาลูก ไม่โทรศัพท์ถาม จนเมื่อเป็นข่าวจึงออกมาแสดงความรักลูกในเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ ตนรักมีมี่ด้วยใจ ไม่ได้มองที่หน้าตาเพราะเขาดูแลตนมาตลอด

นอกจากนี้ น.ส.ภัสสรา ยังเปิดคลิปวีดีโอขณะอดีตสามีเข้าไปตามตัวให้กลับบ้าน ที่ห้องพักของพี่สาวของนายมีมี่ ที่ขายส้มตำอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเป็นคลิปหลังจากที่น้องบี ได้เดินมาที่ห้องพักของพี่สาวของนายมีมี่ ก่อนที่อดีตสามีจะเดินตามมาเพื่อให้กลับห้อง โดยในคลิปมีการต่อเถียงกัน ซึ่งเสียงในคลิปเป็นเสียงหลานสาวของนายมีมี่ ที่บันทึกภาพวีดีโอไว้ พร้อมพูดออกมาในช่วงหนึ่งว่า "พากลับไปแล้วก็ไปซ้อม บีบหน้าบีบคอ กลางถนนเหมือนคราวก่อนอีก" ก่อนที่มีการฉุดกระชาก เพื่อจะลากตัวน้องบีออกไป แต่ไม่สำเร็จเพราะมีอีกหลายคนห้ามไว้

ด้านนายเจริญรัตน์  ลิ่มเจริญ อายุ 31 ปี หรือ ธง อดีตสามีของ น.ส.ภัสสรา พนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานประกอบการแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ถูกอดีตภรรยาออกมาบอกว่าสาเหตุที่ต้องพาลูกย้ายหนี แล้วไปแต่งงานกับชายคนใหม่ เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย และตนเองติดการพนัน ไม่ดูแลลูกกับภรรยาไม่ดี นายเจริญรัตน์ ยืนยันว่า ตลอดที่อยู่กินกันมาเกือบ 8 ปี และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน  ไม่เคยทำร้ายร่างกายน้องบีแม้แต่ครั้งเดียว ตนตั้งใจทำงานเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด แต่ยอมรับว่าอาจจะมีบ้างที่ไปเล่นการพนัน แต่ก็เล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ระยะหลังครอบครัวเริ่มมีปัญหาหลังจากที่ภรรยาไปทำงานที่ร้านส้มตำใน อ.หาดใหญ่ และกลับบ้านดึก ตนจึงไปตามกลับด้วยความโมโห มีการกระชากแขนกันบ้างด้วยความโมโห แต่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือ และในช่วงหลังตนทำงานรปภ.ช่วงกลางคืน ภรรยาก็พาลูกไปนอนค้างที่ร้านทั้งคืน ไม่ยอมกลับมานอนที่บ้าน และที่ร้านส้มตำก็เป็นร้านของพี่สาวนายมีมี่ ทั้งคู่จึงสนิทสนมกัน และอาจจะมีความสัมพันธ์เกินเลยในช่วง 3 เดือนที่ไปทำงานอยู่ด้วย

นายเจริญรัตน์ กล่าวว่า ในวันที่ภรรยาพาลูกหายออกไปจากบ้าน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนก็คิดว่าภรรยาน้อยใจ เรื่องปัญหาครอบครัว และคิดว่าไปอยู่กับญาติที่ จ.ตรัง เพราะไม่สามารถติดต่อได้ แต่มารู้อีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 เม.ย.  ตนรู้สึกช็อก เมื่อเพื่อนของตนส่งภาพภรรยากับนายมีมี่ แต่งงานผูกข้อมืออยู่กินด้วยกันที่บ้านของฝ่ายชายใน จ.สุรินทร์  และกลายเป็นข่าวใหญ่โต ถึงความรักของทั้งคู่ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ จากรูปร่างหน้าตาของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงที่แตกต่างกันมาก จนบางคนบอกว่านี่คือบุพเพสันนิวาส แต่ความจริงแล้วเป็นการพรากลูกพรากเมียคนอื่น ทั้งที่ตนกับภรรยายังไม่ได้เลิกรากัน นายเจริญรัตน์ ระบุว่า สิ่งเดียวที่ต้องการมากที่สุดขณะนี้คือขอลูกสาวกลับมาเลี้ยงดูแลเอง เพราะไม่เชื่อว่าภรรยาจะเลี้ยงลูกได้ ที่สำคัญนายมีมี่ เป็นคนที่ติดเหล้าอย่างหนัก ตนจึงเป็นห่วงลูกสาวมาก และไม่เชื่อว่าทั้งคู่จะเลี้ยงดูลูกสาวตนได้ และจนก็กลัวว่าลูกจะถูกภรรยาทำร้ายร่างกายเหมือนอย่างที่ผ่านมา