กรณีเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.63 เวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุพบร่าง นายสมบูรณ์ บุญโพธิ์ชา อายุ 29 ปี เสียชีวิตอยู่ในห้องฟิตเน็ต ในบ้านของแฟนสาว ภายในซอยพหลโยธิน กรุงเทพฯ สภาพศพพบว่าร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่ที่พื้นบ้าน อีกทั้งมีบาดแผลเลือดออกที่ศีรษะ ปาก ลักษณะศพ มือ เท้า ไม่เกรง ลิ้นไม่จุกปาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายแบบโซ่ผูกคอตายในบ้าน แฟนสาวแจงซึมเศร้าศพล้มหัวแตก - แม่คาใจเงินแสนในบัญชี
จากการตรวจสอบของแพทย์พบว่า ผู้เสียชีวิตผูกคอตา โดยใช้โซ่ ทำให้ทางญาติก็ยังคงติดใจกับการเสียชีวิตในครั้งนี้ เพราะลักษณะการเสียชีวิตจากการผูกคอตาย ไม่น่าจะมีบาดแผลตามร่างกาย จึงนำร่างส่งชันสูตรที่นิติเวชรพ.ตำรวจ รอผล 45 วัน ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้ฌาปนกิจไปแล้วที่วัดพยอม ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ นางนิต อายุ 41 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และการที่นายชีวาส ร่วงลงมาหัวฟาดจนมีแผลบริเวณศีรษะ เป็นอุบัติเหตุ จากการที่ตนพยายามจะช่วยนำร่างของนายชีวาสลงมาจากโซ่ที่ผูกคอ อีกทั้งประเด็นที่ญาติติดใจเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชีตนหลักแสนบาท และคิดว่าอาจเป็นปมเหตุ ตนยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะเงินที่โอนมานั้น เป็นเงินที่ตนเคยให้นายชีวาส ยืมไปก่อนหน้านี้ ขณะที่มีปัญหาด่านการเงิน นายชีวาสเลยโอนเงินคืนมาให้ตน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ย.63 ที่ผ่านมา นายชีวาส ประสบอุบัติเหตุรถบิ๊กไบก์คว่ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ปวดที่บริเวณแขน-ขา จึงรับงานไม่ได้ ต้องพักฟื้น และช่วงวันที่ 5 ธ.ค.63 ก่อนเสียชีวิต ก็มีปัญหากับที่ทำงาน โดนปลดออกจากงาน เพราะผลจากอุบัติเหตุ เลยทำงานได้ไม่เต็มที่ดึงลูกค้าเข้าร้านได้น้อย นายชีวาสจึงเกิดความเครียดที่ขาดรายได้ในอาชีพนายแบบไป 3-4 หมื่นบาท/เดือน
ล่าสุดวันที่ 17 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนก (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนรู้จักเป็นเพื่อนกับผู้เสียชีวิตและแฟนสาวของผู้เสียชีวิตมานาน 10 ปี ก็เห็นทั้งคู่รักใคร่กันดี ไม่เคยเห็นมีปัญหาทะเลาะกัน แต่ปัญหาเจาะลึกภายในครอบครัวตนก็ไม่ทราบว่าทั้งคู่จะมีปัญหาอะไรกันหรือไม่ นอกจากที่ตนเห็น เพราะทั้งคู่ไม่เคยมาปรึกษาอะไรกับตน กระทั่งมาทราบข่าวการเสียชีวิตตนก็รู้สึกตกใจ
ส่วนตัวการเสียชีวิตในครั้งนี้ หากทางญาติผู้เสียชีวิตติดใจคิดว่า ทางแฟนสาวของผู้เสียชีวิต เป็นคนก่อเหตุฆาตกรรมนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากเท่าที่รู้จักนิสัยใจคอกันมา แฟนสาวของผู้เสียชีวิตก็ถือเป็นคนดี และไม่น่าที่จะสามารถฆ่าใครได้ ซึ่งการเสียชีวิตตนคาดว่าน่าจะเป็นปัญหาความเครียดเรื่องตกงานมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม รายละเอียดเจาะลึกตนก็ไม่ทราบ จึงต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอีกครั้งว่ามีความเป็นมาอย่างไร
ด้านนางวิ อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ทั้งคู่จะเป็นเพื่อนบ้านที่นิสัยดี ซึ่งตนอยู่บ้านติดกันมานานก็ไม่เคยเห็นทั้งคู่จะมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย หรือฆ่ากันแต่อย่างใด ส่วนตัวหลังเกิดเหตุก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าเพื่อนบ้านจะมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน แต่ส่วนปมเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดตนก็ไม่ทราบ เนื่องจากขณะเกิดเหตุตนก็ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาท หรือได้ยินเสียงทั้งคู่มีปากเสียงกัน จึงไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้
อย่างไรก็ตาม ตนก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งหากมีโอกาสได้พูดกับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ตนอยากบอกว่า ขอให้ไปดี และหากเสียชีวิตแล้วก็อย่ามาปรากฏตัวให้เห็นเนื่องจากตนกลัว
ทีมข่าวได้พบกับ นายจรัญ บุญโพธิ์ชา พี่ชายผู้เสียชีวิต และทำงานเป็นการ์ดอยู่ที่สถานบันเทิงเดียวกัน เปิดเผยว่า ครอบครัวไม่ได้ติดใจเรื่องปมการตาย เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องปัญหาสุขภาพของน้องชาย จากการที่ป่วยเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า
น้องชายตนทำงานที่สถานบันเทิงนี้มานานแล้ว ส่วนตัวมาทำงานด้วยช่วง มิ.ย.63 ซึ่งน้องชายยังมีอาการปกติ จนกระทั่งวันที่ 10 มิ.ย.63 ตนคุยแชตกับแฟนน้องชาย ถ่ายคลิปมาให้ตนดูว่ามีอาการแปลก ๆ คือนั่งเหม่อลอย ตอนแรกเข้าใจว่าถูกคุณไสย จึงตัดสินใจบวช ประกอบกับน้องชายตนเคยบอกว่าอยากบวช ระหว่างบวชอาการก็ปกติ
หลังจากสึกออกมา ปรากฏน้องชายกลับมีอาการอีก ซึ่งครอบครัวคาดว่าน่าจะเป็ยเพราะช่วงโควิด-19 ที่น้องชายตนไม่ค่อยมีงาน ปกติน้องตนหาเงินเก่ง ใช้เงินเก่ง จึงค่อนข้างเครียด หลังจากนั้นต้องพาไปหาหมอในเดือน ก.ค.63 โดยแพทย์ยังไม่ยืนยันว่าเป็นอะไร แต่ให้ยามาทานและนัดไปเรื่อย ๆ โดยตนพาไปหาหมอ 3 ครั้ง คือ ก.ค.63, ส.ค.63 และต.ค.63 จนกระทั่งมาช่วงเดือน พ.ย.63 ไม่ได้ไปหาหมอตามนัด จนครอบครัวลืมไป เพราะน้องชายมีอาการปกติ
ส่วนปมที่น้องชายตนป่วย อาจจะมาจากหลายอย่าง ทั้งความเครียดเรื่องเงิน เรื่องงาน ประกอบกับช่วงเดือน ต.ค.63 มีคนทักว่าน้องตนดูผอมลง ทำให้น้องตนเสียความมั่นใจไปจนต้องหยุดงานรักษาหุ่น จากนั้นน้องตนจะกลับมาเดินแบบ ปรากฏว่าช่วงต้น พ.ย.63 ก็มาเกิดอุบัติเหตุทำให้มาทำงานไม่ได้ต้องรักษาตัว และช่วงวันที่ 5 ธ.ค.63 เป็นงานครบรอบ 15 ปีของร้าน น้องตนก็ไม่ได้มาทำงาน เพราะถูกตัดชื่อออก เนื่องจากร้านให้ลูกค้าจองโต๊ะผ่านนายแบบ ซึ่งน้องตนไม่ได้มาทำงานนาน ทำให้ไม่มีลูกค้า น้องตนจึงเกิดความเครียดหนัก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนก็ถามน้องตลอดว่า มีเงินใช้หรือไม่ ซึ่งตนคอยโอนเงินให้ใช้เรื่อย ๆ โดยวันที่ 22 พ.ย.63 ตนโอนให้ 3,200 บาท และวันที่ 23 พ.ย.63 โอนไปอีก 2,100 บาท ส่วนวันที่ 3 ธ.ค.63 โอนไปอีก 3,800 บาท และวันที่ 4 ธ.ค.63 โอนไปอีก 14,600 กระทั่งวันที่ 6 ธ.ค.63 โอนไปอีก 10,000 บาท
ส่วนแฟนสาวของคนตาย ตนยืนยันว่าไม่มีการทะเลาะกัน แฟนน้องตนมาที่ร้านบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน น้องชายตนเป็นห่วงแฟนมากด้วยซ้ำ ที่กลัวแฟนสาวทำงานหนักคนเดียวช่วงนี้ และที่ผ่านมาน้องชายตนก็นอนอยู่ข้างล่าง แฟนนอนบนบ้าน เนื่องจากช่วงเวลางานไม่ตรงกัน ทำให้กลัวรบกวนเวลานอนของแฟนสาว น้องชายตนจึงลงมานอนชั้น 1 ของบ้านแทน
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ติดต่อไปยัง น.ส.วันเพ็ญ บุญโพธิ์ชา อายุ 51 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ปกตินายชีวาส จะเดินทางมาหาแม่บ้างเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ต่อให้ไม่เจอหน้ากันก็ยังโทรศัพท์มาคุยเล่นอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่ถึงกับทุกวัน เนื่องจากเวลานอน และเวลาทำงานของลูกกับคนไม่ตรงกัน
หลังจากที่ฝ่ายแฟนสาวของลูกชาย ได้มีการออกมาชี้แจง ในส่วนที่ทางญาติยังคงคาใจเรื่องของ รอยบาดแผลบนศีรษะ ส่วนตัวแม่ยังตอบอะไรไม่ได้ ไม่อยากพาดพิงไปถึงใคร ตนขอรอฟังผลชันสูตรศพ 45 วัน น่าจะเป็นคำตอบที่ทำให้ตนเชื่อได้ดีที่สุด
ส่วนวันนี้ตนและครอบครัวเดินทางมายัง สน.บางเขน เพื่อนำหลักฐานชิ้นสำคัญที่เพิ่งได้มาล่าสุด ในประเด็นข้อสงสัยใหม่ โดยมอบให้กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เป็นที่แรก คือ ภาพสภาพศพของนายสมบูรณ์ บุญโพธิ์ชา หรือ นายชีวาส ในสภาพที่ขาซ้ายพับผิดรูป ซึ่งเป็นภาพก่อนที่ตนจะเข้าไปเห็นในสภาพศพในลักษณะที่ขาเหยียดตรงแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ขอพาดพิงใคร แต่เชื่อว่าต้องมีคนจับศพแน่นอน