กรณีคนร้ายบุกเข้าไปร้านขายของชำ แล้วราดน้ำมันจุดไฟเผา น.ส.สุรีรัตน์ จั่นลา อายุ 59 ปี เจ้าของร้านซึ่งเป็นประธานสภาเทศบาลบางเลน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุไม่ยอมทวงเงินให้ เหตุเกิดวันที่ 17 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ภายในซอยบางเลน ซอย 1 หมู่ 2 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายไตรเทพ เจนใจ หรือ นนท์ อายุ 33 ปี ซึ่งตำรวจ สภ.บางใหญ่ สามารถรวบตัวได้ ถูกเเจ้ง 2 ข้อหา คือ "พยายามฆ่าผู้อื่น" เเละ "วางเพลิงเผาทรัพย์" ซึ่งนายไตรเทพให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ตำรวจเตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรีในวันที่ 18 ธ.ค.63 ตามที่นำเสนอไปเเล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 17 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ร้านขายของชำ ภายในซอยบางเลนซอย 1 หมู่ที่ 2 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบว่าร้านยังเปิดตามปกติ โดยมีลูกจ้าง เเละเเม่ของผู้บาดเจ็บเป็นผู้ดูเเลร้าน ซึ่งภายในร้านมีการเก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยเเล้ว เเต่ยังพบร่องรอยไหม้อยู่บริเวณตู้เเช่ เเละถังน้ำเเข็ง
จากการสอบถาม นางจันทร์เเรม จั่นลา อายุ 80 ปี เเม่ของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า นายไตรเทพ ผู้ก่อเหตุ มักจะเเวะเวียนมาที่ร้านค้าอยู่หลายครั้ง โดยมาขอความช่วยเหลือในเรื่องอาหาร ลูกสาวก็ให้ข้าวสารเเละปลากระป๋องไปหลายครั้ง
โดยเมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 06.00 น. ตนเห็นนายไตรเทพ นั่งรอลูกสาวอยู่ที่หน้าร้าน เเต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น. ได้ยินเสียงคนโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง จึงวิ่งออกมาดู ก็พบว่าลูกสาวมีร่องรอยไฟไหม้หนังหลุดเกือบทั้งตัว เสื้อผ้าก็ขาดรุ่งริ่ง เเต่ตอนนั้นลูกสาวยังมีสติ ยังบอกให้ช่วยกันปิดคัทเอาท์ไฟฟ้า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบนำส่งโรงพยาบาล
สำหรับอาการล่าสุดของลูกสาว กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ขณะนี้พ้นขีดอันตรายเเล้ว โดยร่างกายถูกไฟไหม้ 85% ต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อ เเละงดเยี่ยม
นางจันทร์เเรม กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้โกรธผู้ก่อเหตุ เพราะทราบดีว่าเสพยาเสพติดจนสมองเพี้ยน จึงไม่อยากถือสา เเต่ก็รู้สึกผิดหวังที่เคยช่วยเหลือ เเต่กลับมาทำร้ายกันขนาดนี้ นอกจากนี้ก็กังวลเรื่องความปลอดภัย หากนายไตรเทพ พ้นโทษก็กลัวจะมาก่อเหตุอีก ดังนั้นจึงอยากให้ติดคุกไปนาน ๆ 20 ปี
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายฝน (สงวนนามสกุล) บุคคลที่ผู้ต้องหาอ้างถึง ยืนยันว่าไม่เคยติดหนี้ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง โดยนายฝน บอกว่าตอนนี้เครียดมากที่ผู้ต้องหามาสร้างเรื่องอ้างแบบนี้ ทำให้ตนเสียหาย จนผู้ใหญ่ที่ทำงานกลัวจะเสื่อมเสียถึงองค์กร จึงจะให้ตนออกจากงาน ซึ่งตนก็จำเป็นต้องทำตามที่ผู้ใหญ่ขอ ไปเขียนใบลาออกในช่วงเช้าของวันนี้
นายฝน กล่าวว่า งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ทำมาถึง 6 ปี ตนรักงานนี้มากและยังเป็นรายได้หลักที่เลี้ยงดูครอบครัว ทั้งลูกชายอายุ 16 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ ปวช.ปี 2 กับลูกชายคนเล็กในวัย 9 ขวบ จึงขอความเป็นธรรมไปถึงผู้ใหญ่ในเทศบาลด้วย
ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหานำเรื่องที่ตนติดเงินไปอ้าง ตนคิดว่าน่าจะโกรธเคืองจากก่อนหน้านี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่เเล้ว ผู้ต้องหามาขอนอนพักอาศัยที่ศาลาหน้าบ้านของตน แต่ตนได้ปฏิเสธไป เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของภรรยาและลูก เพราะรู้ว่าผู้ต้องหาเคยต้องโทษคดียาเสพติด
ดังนั้นการที่ผู้ต้องหาไปก่อเหตุแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะเป็นคนที่มีนิสัยอาฆาตแค้น เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยไปเผาสวนที่เป็นของลุงแท้ ๆ ครั้งนี้จึงไม่พอใจใครก็คงขู่จะทำแบบเดิม ตนขอยืนยันว่าไม่ได้สนิทกับผู้ต้องหาถึงขั้นต้องไปยืมเงิน เพราะตนทำงานมีเงินเดือนประจำอยู่แล้ว โดยนายฝนขอตั้งคำถามกลับว่า "ให้ดูสภาพของผู้ต้องหา จะเอาเงินที่ไหนมาให้ผมยืม"
จากนั้นทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังเทศบาลตำบลบางเลน ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายฝน เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริง เเต่นายกเทศมนตรี รวมถึง ผอ.กองงาน ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของนายฝน ติดภารกิจจึงยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์เเละยังไม่พร้อมให้ข้อมูล
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปที่บ้านของนายไตรเทพ ผู้ก่อเหตุ ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้พูดคุยกับพี่ชายของผู้ก่อเหตุ คือ นายกัณจนาฤ เจนใจ อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนไม่ได้สุงสิงกับน้องชายมานานแล้ว เพราะทางบ้านจะมีลักษณะต่างคนต่างอยู่ ตนรู้ว่าน้องชายมีพฤติกรรมติดยาเสพติดมานาน เมื่อ 10 ปีที่เเล้วน้องชายเคยหลอนยาหนักถึงขั้นเผากระท่อมในสวนข้างบ้าน ซึ่งน้องชายเป็นคนไม่ทำงาน เเต่ละวันก็จะขอเงินเเม่ใช้ เเต่ช่วงหลัง ๆ เเม่ไม่มีเงินให้ เนื่องจากอายุ 80 ปีเเล้ว อีกทั้งยังเป็นโรคอัลไซเมอร์
ดังนั้นทุกครั้งที่รู้ว่าน้องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนก็จะด่าน้อง บางครั้งก็เคยลงไม้ลงมือบ้าง เพราะอยากให้น้องจำ เเต่น้องชายก็ไม่เคยฟัง โดยน้องชายย้ายไปอยู่ที่อื่นหลายเดือนเเล้ว บางวันก็ไปอยู่กับคนรู้จัก เเต่บางวันไม่มีที่นอน หรือเสพยาหนักก็จะหานอนตามถนน เเละล่าสุดได้ไปอยู่กับน้าที่ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี
นายกัณจนาฤ บอกว่า น้องชายไม่เคยทำร้ายร่างกายใครมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งเเรก เเต่การก่อเหตุครั้งนี้พฤติกรรมโหดร้ายไปตนรับไม่ได้ และคิดว่าคงจะไม่ไปช่วยเหลือในเรื่องการประกันตัวออกมา แต่จะปล่อยให้รับกรรมในสิ่งที่ทำ เป็นการดัดนิสัยน้องชาย เพราะญาติพี่น้องก็ต่างเอือมระอา
อย่างไรก็ตาม นางสุรีรัตน์ ผู้บาดเจ็บ เป็นคนดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน หากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตนก็จะเดินทางไปเยี่ยม เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และครอบครัวตนก็คุ้นเคยกับครอบครัวของนางสุรีรัตน์ดี
ทั้งนี้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้แจ้งข้อหาแก่นายไตรภพ เจนใจ หรือ นนท์ อายุ 33 ปี ในฐานความผิดพยายามฆ่าผู้อื่น และวางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือน
