ลาก่อน "ชบาแก้ว" ลูกช้างพลัดหลงขวัญใจชาวโซเชียล เครียดจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำภูมิคุ้มกันลดติดเชื้อตายกะทันหัน
จากกรณีการตายของลูกช้างป่าชบาแก้ว สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ชี้แจงถึงสาเหตการตาย โดยวานนี้(9 ธ.ค.63) เวลา 08.00 น. นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว สัตวแพทย์ สบอ.10 (อุดรธานี) สัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการดำเนินการตรวจสอบ ชันสูตร และเก็บตัวอย่างหลักฐานต่าง ๆ จากซากลูกช้างป่า ชบาแก้วที่เสียชีวิตจนครบถ้วน และได้ทำการกลบฝังซาก โรยยาฆ่าเชื้อตามหลักวิชาการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งจะได้นำส่งตัวอย่างไปยังหน่วยงานเพื่อยืนยันการตรวจวินิจฉัย จำนวน 3 แห่ง คือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (สุรินทร์) คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ เพื่อตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการต่อไป
ในเวลา 10.30 น. คณะเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันประชุมเพื่อสรุปผลการอนุบาลลูกช้างป่าชบาแก้ว การชันสูตรและวินิจฉัยของทีมสัตวแพทย์เบื้องต้น ดังนี้
1. การดูแลอนุบาลลูกช้างป่า (ชบาแก้ว) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเป็นไปตามแนวทางที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายสัตวแพทย์จาก สบอ.10 (อุดรธานี) นายสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ และผู้ที่มีความรู้ความชำนาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำทุกประการ
2. การดูแลสุขภาพลูกช้างป่า (ชบาแก้ว) โดยนายสัตวแพทย์ประจำ สบอ.10 (อุดรธานี) ที่ผ่านมา ได้เข้ามาตรวจสอบสุขภาพลูกช้างป่า (ชบาแก้ว) เป็นประจำ ปรากฏว่า มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง เป็นปกติ ได้ทำการเจาะเลือดตรวจสุขภาพ ไม่มีอาการหรือลักษณะที่บ่งบอกว่ามีการป่วยหรือติดเชื้อแต่อย่างใด
3. ลักษณะอาการป่วยของลูกช้างป่า (ชบาแก้ว) ตั้งสมมติฐานไว้ 2 ประเด็น คือ
ประเด็นที่ 1 มีลักษณะอาการคล้ายติดเชื้อโรคเฮอร์ปีไวรัสในช้าง (EEHV)
ประเด็นที่ 2 เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินทางอาหาร
ซึ่งทั้ง 2 อาการนั้นอาจเกิดมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ชบาแก้วเกิดความเครียดส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง จนเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อและแสดงอาการอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงระหว่างวัน 1-8 ธันวาคม อุณหภูมิในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว และท้องที่อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ได้ลดต่ำลง อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ประมาณ 12-14 องศาเซลเซียสในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนบ่าย ประมาณ 34 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างกลางวันและกลางคืน
ทั้งนี้ชบาแก้ว เป็นลูกช้างพลัดหลงแม่ ตกอยู่ในบ่อเกรอะของชาวบ้าน เจ้าหน้าเข้าช่วยเหลือก่อนส่งตัวไปที่โครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและเพื่อให้ลูกช้างได้กินนมจากแม่ช้างบุญธรรม กระทั่งมีสุขภาพแข็งแรง วิ่งเล่นและซุกซนตามประสาช้างเด็ก จึงส่งตัวกลับมายังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา
ภาพรวมพบว่าชบาแก้ว มีร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง เป็นปกติ การเจาะเลือดตรวจสุขภาพ ไม่มีอาการหรือลักษณะที่บ่งบอกว่ามีการป่วยหรือติดเชื้อ โดยชบาแก้วได้กลายเป็นขวัญใจของโซเชียล เนื่องจากมีนิสัยติดคน ขี้อ้อน และทีมพี่เลี้ยงมักจะนำภาพน่ารักๆ มาเผยแพร่ในโซเชียลอย่างต่อเนื่อง