จากกรณีวันที่ 1 ธ.ค. 63 ตำรวจ สน.บางพลัด รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บหมดสติ บริเวณหน้าปากซอยบรมราชชนนี 2/1 ถ.บรมราชชนนี ใกล้เคียงแยกบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ พบนายสัญชัย เชยโสภณ อายุ 51 ปี สภาพสวมเสื้อโปโลสีเทา ปกสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสามส่วนสีครีม นอนคว่ำหน้า มีคราบเลือดบริเวณปากและจมูก
เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบในตัวพบเงินสดประมาณ 5,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารทั่วไป ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 3 ธ.ค. 63 ตำรวจ สน.บางพลัด สามารถจับกุมนายสุรศักดิ์ ทีปวิภาต หรือ แม๊ก อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาตลิ่งชัน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย จับกุมได้บริเวณท้ายซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 1 ธ.ค. ภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุปรากฎภาพเหตุการณ์ สอบสวนสุรศักดิ์ทราบว่าก่อนก่อเหตุแค่เดินสวนกัน ผู้ตายถ่มน้ำลายลงพื้น ผู้ก่อเหตุคิดว่าผู้ตายถ่มน้ำลายใส่ จึงเกิดบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว กระโดดเข้าไปใช้แขนใช้ศอกกระแทกท้ายทอยด้านหลังจนหน้าฟาดลงไปกับพื้น และใช้ขาเตะผู้ตาย 4 ครั้ง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบนายสุรศักดิ์ เคยถูกดำเนินคดีเสพและครอบครองยาบ้ายาไอซ์ พื้นที่ สน.บางยี่ขัน ส่วนใหญ่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปขายของเก่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด
ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณทางเท้าหน้าปากซอยบรมราชชนนี 2/1 ถ.บรมราชชนนี ใกล้เคียงแยกบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พบที่เกิดเหตุยังมีคราบเลือดผู้ตายแห้งอยู่ที่พื้น จากนั้นทีมข้ามขามไปยังใต้สะพานข้ามแยกปิ่นเกล้า เห็นจุดที่นายสุรศักดิ์ถูกจับ ยังมีผ้าห่มและที่นอนของผู้ก่อเหตุวางทิ้งไว้
นายนิพล นิลเถื่อน อายุ 63 ปี คนไร้บ้านที่พักอาศัยอยู่ใต้สะพานข้ามแยกปิ่นเกล้า ที่เห็นเหตุการณ์ นำกางเกงขาสั้นสีครีมให้ทีมข่าวดู กล่าวว่า เพราะกางเกงตัวนี้ทำให้ตนเกือบถูกจับติดคุกแทนนายสุรศักดิ์ เพราะกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเห็นการณ์ ดันเห็นไกล ๆ รูปร่าง รวมทั้งกางเกงที่นุ่งก็คล้ายตนด้วย เกือบซวยไป ส่วนกางเกงที่นายสุรศักดิ์ใส่เป็นกางเกงเจเจสีเหลืองขาสั้นมีลาย คนละแบบกับตน
นายนิพล เล่าว่า ตนเห็นนายสุรศักดิ์บ่อยครั้ง ชอบดมกาวและอาศัยอยู่ใต้สะพานด้วยกัน แต่คนละฝั่ง ในวันเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ เดินอยู่บนทางเท้าก่อนจะเตะกองขยะที่วางอยู่ปากซอยกระจัดกระจาย ในใจคิดว่านายสุรศักดิ์คงแกล้งบ้า แกล้งทำ จากนั้นพอหันกลับไปไม่ถึง 2 นาที เห็นคนนอนอยู่ที่พื้น ตนยังคิดว่านายสุรศักดิ์เอาหัวโขกและแกล้งไปนอนกับพื้นเพราะชอบดมกาวจนบ้า ประสาทหลอน ไม่คิดว่านายสุรศักดิ์จะไปตีนายสัญชัยจนตาย ตนมองว่าทำเกินไป เพราะแค่เดินสวนกัน
หลังก่อเหตุ นายสุรศักดิ์ข้ามถนนไปอีกฝั่งก่อนจะเดินมานอนใต้สะพานที่เดิมและตำรวจมาจับ แต่ก่อนจะจับนายสุรศักดิ์ ตนถูกจับเองเฉยเลย เพราะตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นรูปร่างและกางเกงคล้ายตน ตอนนั้นตนไปตากผ้าบริเวณนั้นพอดี และกางเกงที่ตนใส่คล้ายกับกางเกงนายสุรศักดิ์ ตนยืนยันกับตำรวจไปว่าไม่ใช่ตน และบอกเบาะแสตำรวจไปจนจับได้ ทั้งนี้ ตนคิดว่านายสุรศักดิ์ไปก่อเหตุฆ่าคนตายแบบนี้คงจะออกมาจากคุกยาก ส่วนนายสัญชัย ผู้ตาย ตนไม่เคยเห็นหน้า
