อีกหนึ่งเรื่องน่ายินดีของคณะลิเกเงินล้าน “ศรราม น้ำเพชร” เพราะเมื่อเวลา 09.43 น. ของเมื่อวานนี้ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ลิเกสาวชื่อดัง “น้ำเพชร เอนกลาภ” ก็ได้ฤกษ์ดีผ่าคลอดลูกชายคนที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้ชื่อว่า “น้องบีเอ็ม” เพราะมีความคล้องจองกับชื่อลูกคนแรกที่ว่า “น้องรถเบ๊น” นั่นเอง และน้ำหนักแรกคลอดของ “น้องบีเอ็ม” อยู่ที่ 3,080 กรัม ส่วนชื่อจริงก็คงต้องรอให้อาจารย์ที่เคารพดูฤกษ์วัน-เวลาเกิดเพื่อตั้งชื่อมงคลตามความเชื่อของทั้งคู่
ด้านของคุณพ่อคุณแม่ลูกสอง “น้ำเพชร-บิ๊ก-นรเสฏฐ์“ ก็บอกว่าครั้งแรกที่เห็นหน้าลูกก็รู้สึกดีใจ ตื่นเต้นเหมือนกับตอนที่คลอดลูกคนแรกและมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่ง “น้ำเพชร” เล่าให้ฟังว่าวันก่อนคลอดแอบมีภาวะท้องเสียบ่อยมาก ทำให้มดลูกแข็งตัวส่งผลให้ท้องแข็ง จึงตัดสินใจมาโรงพยาบาล คุณหมอก็เลยให้แอดมิท 1 คืน แต่พอเช้าขึ้นมาของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 คุณหมอก็แจ้งกับตนว่าตอนนี้ถึงเวลาต้องผ่าคลอดแล้ว เพราะน้องพร้อมที่จะออกมาแล้วนั่นเอง
เมื่อถามว่าลูกชายคนนี้จากที่ดูแล้วหน้าตาเหมือนใคร ทั้งคู่ก็บอกว่าเป็นลูกผสม เหมือนทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นที่พอใจสุดๆ หลังจากนี้คุณแม่ก็บอกว่าจะพักคลอดประมาณ 1 เดือนกว่าๆแล้วจะกลับไปแสดงลิเกเหมือนเดิม เพราะบอกว่าต้องทำงานเก็บเงินมาเลี้ยงลูก แถมยังวางแผนอีกว่าถ้าลูกชายทั้งสองคนโตขึ้นของให้รับงานลิเกแบบแพ็คคู่ไปเลย เพราะมองว่าในเมื่อสายเลือดของครอบครัวเป็นศิลปินแขนงลิเกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ลูกลูกก็คงจะมีความชอบด้วยอัตโนมัติและบวกกับตัวเองก็อยากให้ลูกๆสืบทอดศิลปะแขนงนี้ต่อไปด้วย
ส่วนแพลนสำหรับลูกคนที่ 3 ก็คงต้องรอดูสถานการณ์อีกที เพราะส่วนตัวแล้วมองว่า 2 คนน่าจะพอแล้ว แต่คุณตากับคุณยายอยากให้มีลูกสาวอีก 1 คน ซึ่งถ้าคลอดมาอีกคนก็แอบแซวขำๆว่าคงต้องให้ “แบงค์ ศรราม” เป็นคนเลี้ยงแทน
นอกจากนี้คุณแม่ก็บอกว่าส่วนตัวยังกังวลว่าลูกชายคนที่ 2 จะเป็นโรค G6PD หรือที่หลายๆคนเรียกว่า โรคแพ้ถั่วปากอ้า เหมือนกับลูกชายคนแรกด้วย ซึ่งโรคนี้เกิดจากภาวะบกพร่องของเอนไซม์ G6PD ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในขบวนการสร้างพลังงานของน้ำตาลกลูโคส ดังนั้นเอนไซม์ G6PD จึงเป็นเอนไซม์ที่ช่วยป้องกัน เม็ดเลือดแดงจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ โดยหากเกิดในเด็กทารกก็จะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หลังคลอดเพียงไม่กี่วัน ทำให้หลังจากนี้ทั้งคุณแม่และครอบครัวก็ต้องรอดูอาการของ “น้องบีเอ็ม” อีก 2 วัน ซึ่งถ้าน้องมีอาการตัวเหลืองก็ต้องเข้าตู้อบต่อ แต่จากการประเมินแล้วเจ้าตัวบอกว่าน่าจะมีแนวโน้มเป็นสูง เพราะลูกชายคนแรกเป็นนั่นเอง
