จับหนุ่มหื่น อ้างเป็นการ์ดผับ ลวงสาวเมาปล้ำ บอกมีอารมณ์ถูกกอดเอว (คลิป)

กรณีที่มีหนุ่มคนหนึ่ง อ้างเป็นการ์ดร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี หวังดีจะพาหญิงสาวรายหนึ่งไปส่งห้องพัก แต่กลับพาเข้าป่ากระถินหวังขืนใจ แต่โชคดีที่เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยมาพบเหตุการณ์ดังกล่าวพอดี จึงได้เข้าไปช่วยเหลือไว้ได้ทัน

ล่าสุด วันนี้ (26 มี.ค.) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ ซอยนวนคร 24 ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี พบว่า จุดเกิดเหตุที่ชายคนดังกล่าวก่อเหตุพาหญิงสาวมาขืนใจเป็นป่ากระถิน ได้พบกับนางลำไย แดงผุก พนักงานรักษาความปลอดภัย เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนเห็นหัวหน้ารักษาความปลอดภัยอุ้มหญิงสาวคนหนึ่งออกมาจากป่ากระถิน สภาพหญิงสาวไม่ได้สติ ก่อนที่เพื่อนของหญิงสาวเดินทางมา เพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบอกว่า เพื่อนตนเมาจนขับรถไม่ไหว แล้วชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นการ์ดร้านอาหาร แล้วอาสาจะพาเพื่อนตนไปส่ง แต่พบว่าชายคนดังกล่าวพาเพื่อนตนเข้ามาที่ป่ากระถิน

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านปทุมธานี พบว่า ร้านได้เปิดให้บริการแล้ว จึงได้พูดคุยกับ น.ส.อ้อนจันทร์ ทองหล่อ หรือ "นก" พนักงานภายในร้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนยืนอยู่หน้าร้าน เห็นกลุ่มลูกค้าที่มีหญิงสาวประมาณ 3 คน พร้อมกับเด็กเสริฟ์ ได้พาหญิงสาวผู้เสียหายที่สวมเสื้อสีเหลือง อยู่ในสภาพเมาจนไม่ได้สติออกมาจากนอกร้าน หญิงสาวคนดังกล่าวได้ร้องไห้ พร้อมกับพูดว่า "แฟนไม่รัก" ก่อนจะมีผู้ชายรายหนึ่ง เข้ามาอุ้มหญิงคนนี้ขึ้นแท็กซี่ไป พร้อมกับผู้หญิงอีกราย ก่อนที่เพื่อนคนอื่นขับรถยนต์ส่วนตัวออกไป ซึ่งจากภาพที่ทางทีมข่าวให้ดู ชายคนดังกล่าวไม่ใช่การ์ดของทางร้าน เนื่องจากการ์ดที่ร้านจะมีการสวมเสื้อกั้ก มีแถบสีขาว สวมรองเท้าผ้าใบ เป็นสัญลักษณ์ไว้ โดยไม่มีการสวมเสื้อยืดทำงาน ประกอบกับช่วงเวลาทำงาน การ์ดจะไม่สามารถออกจากร้านในเวลางานได้ และทางร้านไม่มีบริการส่งลูกค้าที่เมาไม่ได้สติ

ขณะที่ นายเจษฎากร สำราญงาม หรือ "เค" อายุ 42 ปี รองผู้จัดการร้านอาหาร ชี้จุดที่หญิงสาวมานอนอยู่บริเวณร้าน พร้อมเปิดเผยว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ เห็นผู้เสียเมาหมดสภาพ เนื่องจากหญิงสาวคนนี้เลิกกับแฟน ตอนแรกเห็นว่าแฟนเดินทางมาด้วย แต่ได้กลับไปก่อน หลังจากนั้น หญิงสาวคนดังกล่าวก็เกิดความเครียด แล้วทางเพื่อนได้ช่วยกันอุ้มออกมาจากร้าน แต่อุ้มไม่ไหวเนื่องจากตัวใหญ่ จนชายที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดได้เข้ามาช่วยเหลือ ก่อนที่จะเรียกแท็กซี่ออกไป ตอนแรกตนคิดว่าชายคนนี้เป็นเพื่อน เนื่องจากไม่ได้มีการห้ามปรามไม่ให้ไปส่ง และยืนยันว่า ชายคนที่พาหญิงสาวออกไป ไม่ใช่การ์ดของทางร้าน เพราะพนักงานของร้านยืนดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น นอกจากนี้ นายเจษฎากร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากลูกค้าที่ดื่มสุราจนเกิดอาการควบคุมสติไม่ได้ ก็จะไม่มีบริการส่งลูกค้า แต่ถ้าเดินทางกลับไม่ไหว ก็สามารถนอนพักด้านนอกร้านได้ จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือไม่ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปที่ สภ.คลองหลวงก่อน เพราะเป็นห่วงว่าจะได้รับอันตราย และหลังจากชายคนดังกล่าวอ้างตัวเป็นการ์ดของร้านตน ก็ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหาย เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่ใช่การ์ดของทางร้าน

นอกจากนี้ ภาพที่มีการเปิดเผยออกมานั้น ทางร้านได้อธิบายว่า ชายคนดังกล่าวที่พาหญิงสาวออกไป สวมเสื้อยืดสีดำ (วงกลมสีแดง) ชายที่อยู่มุมขวา (วงกลมสีม่วง) คือการ์ดของทางร้าน ที่สวมเสื้อกั๊กแถบขาวกลางหน้าอก ซึ่งเป็นการแต่งตัวที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน และหญิงสาว (วงกลมสีส้ม) คือหญิงสาวที่เป็นผู้เสียหาย ที่อยู่ในสภาพเมาไม่ได้สติ

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้ร่วมกันจับกุมนายสนธยา มะนาวหวาน อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ต.บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ 234/2561 ด้าน พ.ต.ท.ฐานพันธ์ เฉลิมพัชรพรกุล รองผกก. สส. สภ.คลองหลวง กล่าวว่า สืบเนื่องจาก มีเหตุคนร้ายฉุดหญิงสาวเข้าไปในในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี หลังเกิดเหตุ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้สอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมทั้งเพื่อนๆ ที่อยู่ในเวลาเกิดเหตุ พร้อมได้ติดตามคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด ทราบว่า คนร้ายทำงานส่งแก๊ส และมีบ้านพักอยู่ที่ซอยวัดคุณหญิงส้มจีน จึงได้เข้าจับกุมตัว

เบื้องต้นผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า คืนวันเกิดเหตุ ตนได้เจอกับกลุ่มผู้เสียหายที่หน้าร้านเหล้าที่เกิดเหตุ และได้นั่งรถแท็กซี่มากับกลุ่มเสียหายด้วย เมื่อมาถึงที่หอพักของกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อนๆ ของผู้เสียหายก็บอกให้ตนไปส่งผู้เสียหายที่ห้อง โดยขี่รถจักรยานยนต์ไปส่ง ระหว่างทางหญิงสาวก็ได้กอดเอวตน จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้พาหญิงสาวเข้าไปในป่าข้างทาง หวังจะข่มขืน แต่หญิงสาวร้องให้คนช่วย จนมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่องไฟฉายเข้ามาพอดี ตนจึงหนีไปโดยทิ้งรถจักรยานยนต์ และหญิงสาวผู้เสียหายไว้ ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้ ซึ่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา ข่มขืน กระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด