พ่อ "น้องพอต" ปัดพาไปม็อบ ใจสลายเห็นลูกทรมานโดนแก๊สน้ำตา ฉะ จนท. ทำเกินไป

18 พ.ย. 63

พ่อ "น้องพอต" เด็ก 3 ขวบโดนละอองแก๊สน้ำตา จากเหตุการณ์สลายชุมนุมที่แยกเกียกกาย ยืนยันไม่ได้พาลูกไปในที่ชุมนุม แค่หลงเข้าไปบริเวณนั้นเพราะไม่ชินทาง แต่จังหวะเข้าไปเจอการฉีดน้ำพอดี
หลังลูกชายโดนละอองแก๊สน้ำตา ก็มีอาการแสบผิว แสบตา และอาเจียน หัวอกคนเป็นพ่อใจสลาย วอนเจ้าหน้าที่ใช้ความประนีประนอมในการคุมสถานการณ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เด็กอนุบาลเดินกลับจาก รร. โดนลูกหลงแก๊สน้ำตา แยกเกียกกาย

จากกรณีเพจฯ เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH โพสต์ภาพเด็กสวมใส่ชุดนักเรียนชั้นอนุบาล ขณะนอนบนรถเข็นเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิเป็นผู้ช่วยเคลื่อนย้าย และมีการโพสต์ข้อความตั้งคำถาม นี่ใช่ประเทศไทยของประชาชนหรือไม่ พร้อมระบุต่ออีกว่าที่เห็นในภาพคือนักเรียน ผู้ถูกลูกหลงจากการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรง ด้วยการฉีดแก๊สน้ำตา จากรถฉีดน้ำแรงดันสูง ส่วนมวลชนฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ผ่านแนวกั้นสบายใจ กลับกันผู้ชุมนุมฝ่ายประชาธิปไตยถูกฉีดแก๊สน้ำตานับครั้งไม่ถ้วน ถูกขู่ว่าจะใช่กระสุนยาง ถูกตั้งสิ่งกีดขวางราวกับทำสงครามกับประชาชน เราจะอยู่กันแบบนี้จริงๆ หรือ โดยทิ้งทายว่า ขอให้ทุกคนออกมาพร้อมกันเวลานี้ที่รัฐสภาเกียกกาย ทั้งฝั่งแยกเกียกกาย และฝั่งบุญรอดฯ

สำหรับโพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์ขึ้นเวลา 17.12 น. เมื่อวานนี้ (17 พ.ย. 2563) โดยเป็นช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรและกลุ่มคนเสื้อเหลืองเพื่อติดตามการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ระหว่างวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการฉีดน้ำผสมสารเคมีเป็นครั้งที่ 8-9

ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย. 2563) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมาพบกับนายไพรรัช กาญจนวรุตม์ อายุ 50 ปี คุณพ่อ "น้องพอต" อายุ 3 ขวบ เด็กนักเรียนที่ถูกน้ำของเจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดใส่นั้น มีการเปิดเผยถึงข้อเท็จจริงกับทีมข่าวว่า

เหตุเกิดในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ตนเองเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ พร้อมลูกชายสองคน โดยจะพาไปหาคุณป้า ซึ่งมีการนัดแนะว่าจะทานข้าวเย็นพร้อมกันในย่านเกียกกายซึ่ งคุณป้าของเด็กๆ ทำงานอยู่บริเวณเกียกกาย ตนเองจึงใช้เส้นทางถนนประชาราษฏร์สาย 1 แต่บางครั้งก็จะใช้ถนนอื่น แต่ก็จะผ่านอาคารรัฐสภา

ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงจุดที่มีการชุมนุมและเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการฉีดน้ำเข้ามาพอดี แต่ห่างจากการฉีดน้ำประมาณ 100 เมตร ตนจึงรีบลงจากรถจักรยานยนต์ จอดรถไว้ริมฟุตปาธ และพาเด็กเดินหนี จากนั้นมีการ์ดผู้ชุมนุมเข้ามาบอกว่าห้ามเข้าไป ทันใดนั้นลูกชายคนเล็กก็ร้องไห้ ว่าแสบตา อาเจียน น้ำหู น้ำตาไหล

กระทั่งมีอาสามูลนิธิ นักข่าว มาช่วยกันพาไปนั่งจุดปลอดภัย และทำการปฐมพยาบาลให้ลูกชาย และตนเองพบกับ "แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์" หรือนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ซึ่งเดินเข้ามาปลอบใจลูกชาย และพยายามกล่าวขอโทษตลอดเวลา ว่าดูแลน้องไม่ได้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้โทษใครผิดถูก แต่เป็นเพราะตนเองที่สับสนกับเส้นทาง และหลงเข้าไปเอง ที่ผ่านมาก็มักจะหลงกับคุณป้าของเด็กๆ เป็นประจำ และยอมรับว่าไม่ชินทางจริงๆ

ทั้งนี้มีภาพตนเองกับลูกชายออกไปในโลกโซเชียลเป็นที่วิจารณ์ในแง่ลบว่าตัวเองใช้ลูกไปเป็นเกาะกำบัง กล่าวหาไปต่างๆ นานาน ซึ่งไม่ใช่ความจริง และขอให้ทุกคนลองคิดในหัวอกของความเป็นพ่อเป็นแม่ว่า ใครจะทำเช่นนั้น และขอยืนยันว่าหากรู้มาก่อนหน้านี้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ ตนเองก็ไม่คิดจะพาลูกไปบริเวณนั้นเช่นกัน เป็นพ่อคนก็รักลูก

สำหรับการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ควรพิจารณาให้รอบครอบก่อน อยากให้ตรวจสอบประเมินก่อนว่าข้างหน้าที่จะทำอะไรมีคนไม่เกี่ยวข้องอยู่หรือไม่ และการใช้วิธีการนี้ตนมองว่ารุนแรงไป ควรมีความปราณีประนอม ละมุนละม่อม จะดีกว่า

อย่างไรก็ตามทีมข่าวได้สอบถาม "น้องพอต" ถึงอาการ โดยน้องพอตบอกว่า ตอนนั้นแสบตา แสบแขน โดยตอนนี้อาการคุณพ่อน้องพอตบอกว่ามีเพียงน้ำมูกไหล ส่วนหากมีอาการอื่นๆ เพิ่มขึ้นคงพาลูกไปพบแพทย์ ซึ่งขณะนี้ลูกก็หยุดโรงเรียนยาวถึงวันที่ 23 พ.ย. 2563

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ