"ฟ้า" โอด โดนหมายจับ ตร.ทำ 2 มาตรฐาน รับเครียด ชีวิตวุ่น พลาดพัวพันคดีหวย (คลิป)

24 มี.ค. 61
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่เปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท เนื่องจากสำนวนการสอบสวนใกล้เสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว อีกทั้งที่ผ่านมา พลตำรวจโทฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว ได้ปรึกษาถึงแนวทางการทำคดีอย่างต่อเนื่อง ย้ำ ไม่มีการกลั่นแกล้งฝ่ายนายปรีชา ใคร่ครวญ และ ผู้ต้องหาในคดี หากผู้ต้องหาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถฟ้องกลับพนักงานสอบสวนได้ และจากกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แจ้งความดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กับ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" และ น.ส.ปรวิศา รุ่งเรืองวิโรจน์  หรือ "ติ้ง" ฐานเผยแพร่ภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวฟ้าส่งศาล ซึ่งศาลได้อนุญาตประกันตัวไปแล้วเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.)
น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ “ฟ้า” และ น.ส.ปรวิศา รุ่งเรืองวิโรจน์ หรือ “ติ้ง” เข้าร่วมพูดคุยในรายการ
วันนี้ (22 มี.ค.) “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น.ได้เชิญ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ “ฟ้า” และ น.ส.ปรวิศา รุ่งเรืองวิโรจน์ หรือ “ติ้ง” เข้ามาร่วมพูดคุยในรายการ
น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ “ฟ้า”
โดย น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ “ฟ้า” ยอมรับว่ารู้สึกเครียด ซึ่งในวันดังกล่าวไม่ได้รู้ตัวมาก่อนด้วยว่าตัวเองจะถูกออกหมายจับ เนื่องจากขณะนั้นอยู่ระหว่างกำลังเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เมื่อทราบข่าวจึงรีบเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ ปอท. ในทันที เมื่อไปถึง ปอท. ตนมั่นใจว่าจะต้องถูกควบคุมตัว และไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแน่นอน โดยขณะถูกควบคุมตัวสอบปากคำ รู้สึกเครียดจนร้องไห้ ซึ่งตนได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะตนเคยแจ้งความเอาผิดคนที่เอาคลิปไปตัดต่อ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า แต่พอตนถูกแจ้งบ้างก็ถูกจับกุมทันที อีกทั้งในวันที่ระบุว่าตนไลฟ์สดนั้น ยืนยันว่าวันดังกล่าวตนไม่ได้มีการไลฟ์แน่นอน ฟ้ายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ตนออกมาแสดงความคิดเห็นในคดีหวย 30 ล้าน และทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวต้องเดือดร้อนไปด้วย โดยหลังจากที่ฟ้าออกหมายจับ หลายคนในคดีหวย 30 ล้าน ต่างก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อในลักษณะที่ว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับฟ้า ซึ่งประเด็นนี้ ฟ้ายอมรับว่ารู้สึกน้อยใจบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นกรรมของตัวเอง ทั้งนี้ ตนมองว่า การที่นายอัจฉริยะไปแจ้งความตนนั้นเพื่อหวังที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของตน เพราะตนเป็นหนึ่งในบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ เขาอาจจะตั้งใจทำให้ประชาชนเกลียดตน แต่มองว่าการที่เขาไปแจ้งความนั้นไม่ได้เตรียมข้อมูลที่ชัดเจนไปก่อน เช่น วันเวลาที่บอกว่าตนไลฟ์สดไม่ตรงกับความเป็นจริง หลังจากนี้จะแจ้งความกลับโดยบอกว่าจะเอาให้หนัก หลายกรรมเหลือเกิน เพราะตนอยู่นิ่งมาตลอด ไม่เคยกล่าวพาดพิงใคร ส่วนใครที่รังแกตน ตนจะไม่ยอมอีกต่อไป ทุกวันนี้ตนถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว การแสดงความเห็นในคดีหวยที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่ได้มีใครเป็นกุนซือคอยควบคุมให้ตนออกมาตอบโต้แทนฝ่ายครูปรีชา และไม่ได้เป็นคนช่วยวางเกมให้ครูปรีชา ยอมรับว่าพลาดที่มาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะตนใจดีและขี้สงสารจนเกินไป
น.ส.ปรวิศา รุ่งเรืองวิโรจน์ หรือ “ติ้ง”
ขณะที่ น.ส.ปรวิศา รุ่งเรืองวิโรจน์ หรือ “ติ้ง” บอกว่า ตนโดนข้อหาเดียวกับฟ้า แต่ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะถึงแม้ตัวเองจะอยู่ในคลิปดังกล่าวด้วย แต่ไม่ได้เป็นคนเผยแพร่ภาพนั้น เนื่องจากฟ้าเป็นคนถือกล้องไลฟ์ ซึ่งยอมรับว่าคดีหวย 30 ล้าน มีส่วนทำให้ตนและฟ้าถูกแจ้งจับ แต่ก็ช่วยทำให้สังคมได้รู้ว่าพวกตนเคยเดือดร้อนเพราะคนที่ตัดต่อคลิปมาก่อน น.ส.ปรวิศา บอกด้วยว่า ตนเห็นนายอัจฉริยะโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเชิญชวนให้คนเข้าไปดูข้อมูลในเพจหนึ่งที่มักจะโพสต์โจมตีตน และบิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่เสมอ เช่น เอารูปพ่อตนไปตัดต่อใส่ในรูปพวงหรีด หรือแม้แต่เอาข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์มาเผยแพร่ ตนอยากถามกลับว่า การกระทำลักษณะนี้ถือเป็นอาชญากรรมหรือไม่ นอกจากนี้แล้ว เพจดังกล่าวยังทำให้สามีของตน คือ นายศร ศรศักดิ์ อดีตนักร้องดัง ต้องมาเดือดร้อนด้วย หรือแม้แต่ใครที่ถ่ายรูปคู่กับฟ้า ก็จะถูกเอาไปเชื่อมโยงว่าเป็นพยานเท็จคดีหวย ทั้งนี้ น.ส.ปรวิศา ยอมรับว่า วันที่ไลฟ์สดคลิปนั้นจริง ๆ ตนมองข้ามไปว่าการกระทำดังกล่าวนี้จะผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้เจตนา เพราะขณะนั้นพวกตนอดทนไม่ไหวที่ครอบครัวถูกทำให้เสียหาย พวกตนผิดส่วนไหนก็ยอมรับ แต่วันนี้สิ่งที่พวกตนออกมาพูดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองและครอบครัว ซึ่งถ้าไม่โดนกระทำก่อนก็จะไม่ทำแบบนี้
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โฟนอินเข้ามาร่วมพูดคุยในรายการ
ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เปิดเผยด้วยว่า ขั้นตอนการควบคุมตัวฟ้าที่เจ้าหน้าที่ทำนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย ซึ่งคดีที่ฟ้าโดนนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะใช้วิธีการเข้มข้น คือการออกหมายจับทันที หรือวิธีการแบบประนีประนอม คือออกหมายเรียกก่อน ตนจึงอยากฝากถึงพนักงานสอบสวนของ ปอท.ว่า อยากให้กระทำแบบนี้เหมือน ๆ กันทุกราย สังคมจะได้รู้สึกว่ามีการบังคับใช้กฎหมายเสมอภาคกันตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ตนมองว่าการบังคับใช้กฎหมายกับว่าแบบเข้มข้นกับฟ้า มีความเป็นไปได้ว่าเป็นผลมาจากคดีหวย 30 ล้าน แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ นอกจากนี้ การที่ฟ้าหรือติ้ง จะแจ้งความกลับนายอัจฉริยะนั้นสามารถทำได้ แต่ก็จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่านายอัจฉริยะนั้นรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเป็นความเท็จ และไปแจ้งความเพื่อให้ฟ้าและติ้งได้รับโทษ ส่วนคนที่นำคลิปของฟ้ามาเผยแพร่ซ้ำก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ด้วยเช่นกัน
น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว หรือ "ฟ้า" ให้สัมภาษณ์หลังจบรายการ ต่างคนต่างคิด
ด้าน น.ส.กนกพรรณ ให้สัมภาษณ์หลังจบรายการต่างคนต่างคิด โดยยืนยันว่า วันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) จะเดินทางไปแจ้งความเอาผิดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหา แจ้งความเท็จ หลังจากที่โดนนายอัจฉริยะ แจ้งความเอาผิดตนตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กระทั่งถูกออกหมายจับและศาลให้ประกันตัวไปเมื่อวานนี้ สำหรับกรณีที่นายเดชา ทนายความ ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า การบังคับใช้กฎหมายในคดีของตนนั้นเป็นไปอย่างเข้มข้น ต่างจากคดีอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ฟ้ายอมรับว่าเห็นด้วยกับความคิดเห็นดังกล่าว มองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่นั้นเป็นแบบ 2 มาตรฐาน ทั้งที่ตนมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี เพราะในวันเกิดเรื่อง ตนทราบว่าโดนหายจับ ก็เป็นฝ่ายที่เข้าไปพบเจ้าหน้าที่เอง ซึ่งสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ ตนมองว่าเข้มงวดและชัดเจนดีแล้ว แต่ก็อยากขอให้ทำแบบนี้กับทุกคน ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว ฟ้าบอกด้วยว่า มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าสิ่งที่เจออยู่ทุกวันนี้มาจากคดีหวย 30 ล้าน ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะไม่ออกตัวมาพูดเรื่องหวย รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ตนพลาดที่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่เรื่องดังกล่าวก็ให้บทเรียนตนว่า ต่อไปหากจะทำอะไรก็ควรที่จะต้องระมัดระวัง หลังจากนี้ยืนยันว่าจะไม่พูดถึงเรื่องคดีหวยอีกต่อไป แต่ทั้งนี้ ไม่ได้น้อยใจบุคคลต่าง ๆ ที่ตนเคยช่วยเหลือแล้วออกมาปฎิเสธว่า ไม่เคยรู้จัก หรือไม่ได้มีความสนิทสนมกับตน เพราะเข้าใจว่าธรรมชาติของคน เขาก็มีสิทธิ์ที่จะกลัวว่าตัวเองต้องเดือดร้อน ดังนั้น หลังจากนี้ก็จะไม่ให้ความช่วยเหลือบุคคลเรื่องคดีหวย เช่น การพาไปเดินสายร้องเรียนที่หน่วยงานต่าง ๆ อีกต่อไป แต่ยังคงให้กำลังใจเหมือนเดิม จากเรื่องคดีหวย 30 ล้าน ตนเชื่อว่าสื่อไม่เคยเห็นว่า ทำให้สังคมแตกแยกค่อนข้างเยอะอย่างเห็นได้ชัด และยาวนานหลายเดือน ซึ่งคนที่คิดต่างเห็นต่าง ไม่เข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งก็จะมาปะทะกัน ทะเลาะกัน ตนอยากให้ทุกหน่วยงานสนใจเรื่องนี้ พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ว่าสู้ ๆ ทำงานอย่างเต็มที่ และเป็นธรรมที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนด่าตามหลังได้ว่าทำงานเอนเอียง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ